7 โรคยอดฮิตที่ผู้ชายมักละเลย และส่งผลรุนแรง ถ้าไม่รีบรักษา !
ผู้ชายหลายคนมักมีแนวโน้มที่จะอดทน เก็บอาการ และละเลยสัญญาณเตือนจากร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของสุขภาพ จะคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง หรือไม่เป็นอะไรมาก จนกว่าอาการจะรุนแรงขึ้นถึงขั้นวิกฤต ซึ่งอาจสายเกินแก้ได้ วันนี้เราจึงอยากเตือนหนุ่ม ๆ ให้หันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการทำความรู้จักกับ 7 โรคยอดฮิตที่ผู้ชายมักมองข้าม แต่ถ้าไม่รีบรักษา อาจส่งผลรุนแรงถึงชีวิตได้
7 โรคยอดฮิตที่ผู้ชายมักละเลย และส่งผลรุนแรง
1.ความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงมักถูกเรียกว่าฆาตกรเงียบ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจนในระยะแรก ทำให้คุณผู้ชายจำนวนมากละเลยและไม่เคยตรวจเช็ก จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือไตวาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ความดันโลหิตสูงจะสร้างความเสียหายต่อหลอดเลือดทั่วร่างกายอย่างช้า ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณผู้ชายควรตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ และปรึกษาแพทย์หากพบว่ามีค่าความดันที่ผิดปกติ
2.เบาหวานชนิดที่ 2
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 จะเริ่มต้นด้วยอาการที่ไม่รุนแรง เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ หรือหิวบ่อย ทำให้คุณผู้ชายหลายคนไม่เอะใจและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน หากไม่ได้รับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสม เบาหวานสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่ทำลายอวัยวะสำคัญทั่วร่างกาย เช่น โรคไตวาย โรคหัวใจ เส้นประสาทถูกทำลาย และการสูญเสียการมองเห็น คุณผู้ชายที่มีน้ำหนักเกิน มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรได้รับการตรวจคัดกรองเบาหวานเป็นประจำ
3.ไขมันในเลือดสูง
ภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-C) มักไม่มีอาการเตือนใด ๆ ทำให้ผู้ชายหลายคนใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีภัยเงียบซ่อนอยู่ ไขมันส่วนเกินเหล่านี้จะไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัว (ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง หากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม การปล่อยให้ไขมันในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงเหล่านี้อย่างมาก
4.โรคเกาต์
โรคเกาต์เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า แม้จะเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดอย่างทรมาน แต่คุณผู้ชายบางคนอาจคิดว่าเป็นเพียงอาการปวดข้อทั่วไปและซื้อยากินเอง หากปล่อยให้เป็นเรื้อรังและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การสะสมของกรดยูริกจะทำให้เกิดก้อนโทฟี (Tophi) ที่ข้อต่อ ไต หรืออวัยวะอื่น ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะข้อต่อถูกทำลาย ไตวาย หรือนิ่วในไตได้
5.มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายและไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น อาการที่อาจพบในระยะหลัง เช่น การขับถ่ายที่ผิดปกติ มีเลือดปนในอุจจาระ หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มักถูกละเลยหรือไม่ให้ความสำคัญ ทำให้กว่าจะได้รับการวินิจฉัยก็เข้าสู่ระยะที่ลุกลามแล้ว แต่ในความเป็นจริง มะเร็งชนิดนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้สูง หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ
6.นิ่วในไต
นิ่วในไตเกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุต่าง ๆ ในปัสสาวะ บางครั้งอาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่เมื่อนิ่วเคลื่อนที่ไปอุดตันท่อไต จะทำให้เกิดอาการปวดที่รุนแรงมาก หรืออาจมีเลือดปนในปัสสาวะ คุณผู้ชายหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงอาการปวดหลังธรรมดา หากไม่ได้รับการรักษา นิ่วอาจทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินปัสสาวะซ้ำ ๆ นำไปสู่การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ไตอักเสบ หรือภาวะไตวายเรื้อรังได้
7.ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นภาวะที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการนอนกรนร่วมด้วย แต่แท้จริงแล้วคือความผิดปกติที่ร้ายแรงกว่านั้น เพราะการหยุดหายใจชั่วขณะระหว่างนอนหลับซ้ำ ๆ จะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับแย่ลง รู้สึกอ่อนเพลียในตอนกลางวัน และที่สำคัญคือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และเบาหวาน คุณผู้ชายที่นอนกรนเสียงดังผิดปกติ หรือรู้สึกง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย
สุขภาพคือพื้นฐานสำคัญของชีวิตที่ดี ไม่ใช่แค่การไม่มีโรค แต่คือการมีพลัง ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ อย่ามองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ จากร่างกาย เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือความดันผิดปกติ เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้าย หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี และปรับพฤติกรรมให้สมดุล เพื่อให้คุณผู้ชายแข็งแรงทั้งกายและใจในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม