ไขข้อสงสัย "มัทฉะ" กับ "ชาเขียว" เหมือนหรือต่างกัน กินแบบไหนดี
มัทฉะ กับ ชาเขียว ต่างกันอย่างไร? คำถามนี้คาใจใครหลายคน โดยเฉพาะเวลาสั่งเครื่องดื่มในคาเฟ่ที่มีทั้ง “ชาเขียวเย็น” และ “มัทฉะลาเต้” วางเคียงกันอยู่ในเมนู หลายคนอาจเข้าใจว่า มัทฉะ กับ ชาเขียว เหมือนกัน ต่างกันแค่ชื่อเรียก แต่จริง ๆ แล้วเบื้องหลังทั้งรสชาติ วิธีชง ไปจนถึงกระบวนการผลิต มีความต่างแบบคนละระดับ! ถ้าอยากรู้ว่าแบบไหนเข้มกว่า แบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า หรือควรเลือกดื่มอะไรให้เหมาะกับสไตล์และงบในกระเป๋า Sanook Men มีคำตอบ
มัทฉะ คืออะไร?
มัทฉะ (Matcha) คือ ผงชาที่ได้จากการบด ยอดอ่อนของใบชาเขียวสายพันธุ์เทนฉะ ซึ่งมีกรรมวิธีการปลูกแบบพิเศษ โดยต้นชาจะต้องถูกคลุมแสงแดดไว้ราว 20-30 วันก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อกระตุ้นให้พืชผลิตคลอโรฟิลล์มากขึ้น ทำให้ใบชามีสีเขียวเข้มและรสอูมามิสูง หลังจากนั้นใบชาจะถูกนึ่ง ตากแห้ง แล้วบดละเอียดจนเป็นผงเนียน มัทฉะสามารถนำไปชงกับน้ำร้อนหรือนม โดยใช้ แปรงตีชา (chasen) เพื่อให้ผงชาละลายและเกิดฟองสวยงาม มีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมแบบสดชื่นนุ่มลึก และนิยมใช้ในเครื่องดื่ม ขนม หรือขนมหวานแบบญี่ปุ่น
ชาเขียว คืออะไร?
ชาเขียว (Green Tea) เป็นชาที่ได้จากการนำใบชามาผ่านกระบวนการอบหรือคั่วเบาๆ เพื่อหยุดปฏิกิริยาออกซิเดชันของใบชา ทำให้ได้ชาที่มีกลิ่นหอมและยังคงสีเขียวธรรมชาติอยู่ ส่วนใหญ่จะชงด้วยการแช่ใบชาในน้ำร้อน ไม่ใช่บดเป็นผงเหมือนมัทฉะ และต้องกรองกากใบชาออกก่อนดื่ม รสชาติของชาเขียวจะออกใส เบา สดชื่น ไม่เข้มข้นเท่ามัทฉะ นิยมดื่มเป็นชาอุ่นๆ และมีหลายชนิด เช่น เซนฉะ (Sencha), เก็นไมฉะ (Genmaicha) และโฮจิฉะ (Hojicha) ซึ่งให้กลิ่นและรสที่หลากหลาย
"มัทฉะ" กับ "ชาเขียว" ต่างกันอย่างไร?
ชาเขียวธรรมดา (Green Tea) และมัทฉะ (Matcha) แม้จะมาจากต้นชาเดียวกัน แต่ต่างกันที่วิธีปลูกและการชง
ชาเขียวทั่วไป ปลูกกลางแจ้ง เก็บใบมาอบแห้ง ใช้ชงกับน้ำร้อนแล้วกรองใบออก รสชาติใส เบา สดชื่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ส่วนมัทฉะปลูกในร่มโดยคลุมต้นชาก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อให้ใบผลิตคลอโรฟิลล์และแอล-ธีอะนีน ทำให้ได้ผงชาสีเขียวเข้ม รสกลมกล่อมและมีอูมามิชัด
มัทฉะ จะถูกบดจนละเอียดและละลายน้ำได้ทั้งหมด เวลาชงใช้แปรงตีชาให้เกิดฟอง นิยมผสมกับน้ำร้อน นมหรือทำขนม รสชาติจะเข้มข้นกว่า ดื่มแล้วได้สารอาหารจากใบชามากกว่าชาเขียวทั่วไป ด้วยกรรมวิธีที่ซับซ้อน มัทฉะจึงมีราคาสูงกว่าและถูกมองว่าดีกว่าทั้งด้านโภชนาการและรสชาติ
ประโยชน์ของมัทฉะ กับ ชาเขียว
นอกจากเรื่องของการปลูกและที่มาต้องบอกว่า ประโยชนที่ได้ต่างกันเล็กน้อยเพราะใน มัทฉะ 1 แก้วจึงทำให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ (คาเทชิน), คาเฟอีน, และแอล-ธีอะนีน ในปริมาณที่เข้มข้นกว่าการดื่มชาเขียวทั่วไป ก็จะทำห้ตื่นตัว
ขณะที่การดื่มชาเขียวควรจะต้องดื่มกับน้ำร้อน เพื่อให้ได้น้ำ โดยสิ่งที่ได้ก็มีสิ่งที่คล้ายกันแต่อาจจะไม่ได้เข้มข้นเท่าไหร่ เพื่อให้เห็นภาพเราขอสรุปดังนี้
- มัทฉะ จะได้ความเข้มข้น, นุ่มลึก รสนวล และประโยชน์จากใบชาเต็มๆ ซึ่งอาจจะแลกกับราคาที่สูงกว่า
- ชาเขียว จะเป็นน้ำที่ดื่มแล้วสดชื่น, ดื่มง่ายคล่องคอและเหมาะกับการกินกับอาหารญี่ปุ่น หรือจะดื่มเพื่อผ่อนคลายก็ได้เช่นเดียวกัน
วิธีปลูก มัทฉะ VS ชาเขียว
-
ชาเขียวธรรมดา (Green Tea): ปลูกกลางแจ้ง ตัดใบชาแล้วนำไปอบแห้ง
-
มัทฉะ (Matcha): ปลูกในร่ม ใบชาไม่โดนแสงแดด เพิ่มคลอโรฟิลล์ บดละเอียดจนเป็นผง → มัทฉะจึงเข้มข้น สีเขียวสดกว่า และมีสารอาหารสูงกว่า
ตารางเปรียบเทียบ มัทฉะ VS ชาเขียว
| ชาเขียวธรรมดา (Green Tea) | มัทฉะ (Matcha) | |
|---|---|---|
| ลักษณะ | ใบชาอบแห้ง | ผงชาเขียวบดละเอียด |
| วิธีชง | แช่ใบชาในน้ำร้อน กรองก่อนดื่ม | ผสมผงชากับน้ำโดยใช้แปรงตี |
| สีของชา | สีเขียวใส | สีเขียวเข้ม ขุ่น |
| กลิ่น | หอมแบบธรรมชาติ | หอมแบบกลมกล่อม ละมุน |
| รสชาติ | สดชื่น อ่อนๆ อูมามิเล็กน้อย | เข้มข้น มีรสอูมามิชัด ข้นเนียน |
| การปลูก | ปลูกกลางแจ้ง | ปลูกในร่ม เพิ่มคลอโรฟิลล์ |
| ราคา | ถูกกว่า ปลูกง่าย ผลิตไว | แพงกว่า ปลูกและผลิตซับซ้อน |
| การใช้งาน | ดื่มเป็นน้ำชา | ผสมกับนม ขนม ไอศกรีม |
| อุปกรณ์ชง | กาน้ำ ใบชา ที่กรอง | ถ้วยมัทฉะ ผงชา แปรงตี (Chasen) |
| การเก็บรักษา | ควรปิดสนิท ไม่โดนแดด | ต้องป้องกันอากาศ-ความชื้นอย่างดี |
สรุป มัทฉะ VS ชาเขียว ทั้งคู่ ก็คือเครื่องดื่มที่ได้จากใบชาเขียวเหมือนกัน แต่อาจจะแค่ต่างกันแค่เรื่องรสชาติ ความเข้มข้น และรูปแบบที่ให้คุณกินได้ง่ายเท่านั้นเอง ดังนั้นการเลือกดื่มระหว่างเครื่องดื่ม 2 ชนิดขึ้นกับความพึงพอใจและงบประมาณที่คุณสามารถรับได้ต่อวันด้วยนะ เพราะเราก็ไม่อยากให้สิ้นเปลืองกับแค่เครื่องดื่ม แต่ต้องได้อะไรเข้าร่างสักหน่อยก็ยังดีครับ
อ่านเพิ่มเติม