เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

สรุปรวบยอด \

สรุปรวบยอด "D23 Expo 2019" กับ 7 สิ่งจากอีเวนท์ยิ่งใหญ่ของดิสนีย์

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานมหกรรมที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี เป็นเซอร์วิสสุดพิเศษจากค่าย Disney ที่ส่งตรงถึงแฟนๆ ทั่วโลกกับ "D23 Expo 2019" ณ เมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นการจัดอีเวนท์ใหญ่ให้กับเหล่าสาวกโดยเฉพาะ

D23 Expo 2019 ครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังของแฟนตัวยง เพราะยิ่งนับวันบริษัทก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยการสร้างพันธมิตรและกอบโกยรายได้มหาศาลจากรายได้ภาพยนตร์ระดับพันล้านเหรียญ แต่ความพิเศษของปีนี้คงเป็นการเข้าครอบครองกิจการของ 20th Century Fox อย่างเต็มตัว และเตรียมปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ ระบบออนไลน์สตรีมมิง Disney+ ในช่วงปลายปีนี้

d232019-104

• 20th Century Fox ในกำมือของ Disney •

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า 20th Century Fox ได้ถูกค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Disney ซื้อกิจการด้วยมูลค่าที่คนธรรมดาๆ เอื้อมไม่ถึง ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญที่นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะไปได้สวย เพราะทำให้ดิสนีย์ได้ครอบครองแฟรนไชส์หนังฟอร์มใหญ่ของฟ็อกซ์อีกหลายเรื่องเลยทีเดียว

โดยภายในงาน D23 Expo 2019 ครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอผลงานเรื่องต่อไปของค่ายฟ็อกซ์ ในยุคที่ดิสนีย์เข้ามาบริหารจัดการ โดยเห็นได้ชัดว่าการอนุมัติสร้างหนังแต่ละเรื่องค่อนข้างพิถีพิถันและไตร่ตรองมากยิ่งขึ้น ผลงานที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาเร็วๆ คือ ได้ "Ford v. Ferrari" หนังดราม่าแข่งรถของ 2 ดาราดัง ในเดือนพฤศจิกายนนี้ "Spies in Disguise" แอนิเมชันเรื่องล่าสุดของสตูดิโอ Blue Sky เข้าฉายส่งท้ายปี 2019

ตามมาด้วย "The King's Man" ภาคปฐมบทของแฟรนไชส์ King’s Man ที่ได้ภูมิใจเสนอและเตรียมเข้าฉายในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และที่ขาดไม่ได้คือภาคต่อของ "Avatar" จากผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คฟอร์มยักษ์ในอนาคต อาจจะวางแผนสร้างยาวๆ ไปถึงภาคที่ 5 เลยก็ว่าได้

d232019-105

• อีกสเต็ปต่อไปของ Marvel •

เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในงานครั้งนี้ สตูดิโอพันธมิตรที่เป็นดาวเด่นให้กับดิสนีย์ในตลอดระยะเวลาทศวรรษที่ผ่านมา หลังจากที่เคยเปิดตัวเฟสที่ 4 ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในงานอีเวนท์ใหญ่ชื่อดังก่อนหน้านี้ หลายคนคงสงสัยว่าใน D23 Expo 2019 นั้น Marvel จะประกาศข่าวใหม่อะไรอีก

เป็นที่แน่นอนว่าฝ่าบาทและชาววากานด้าจะกลับมา "Black Panther 2" ได้ถูกประกาศกำหนดวันเข้าฉายอย่างเป็นทางการภายในงานนี้ นั่นคือก็วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และถือว่ายังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลมาร์เวลเฟสที่ 4 ในช่วงครึ่งหลัง

ขณะที่ "Eternals" หนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ก็ถูกนำมาขยายความและเปิดตัวตัวละครหลักๆ ของเรื่องอย่างเป็นทางการด้วย โดยมีการระบุชัดเจนว่านักแสดงคนไหนรับบทเป็นตัวละครใด อาทิ แอนเจลีนา โจลี รับเป็นสาวนักรบ ธีนา, เจมม่า ชาน รับบทเป็น เซอร์ซี, ซัลมา ฮาเยก รับบทเป็น เอแจ็ก และที่เพิ่งเปิดเผยในงานนี้คือ คิต แฮริงตัน รับบท แบล็กไนท์

มาร์เวลยังได้พูดถึงหนังเรื่องต่อไปของสตูดิโอ นั่นคือ "Black Widow" ที่ถือว่าเป็นปฐมบทที่มาของตัวละคร นาตาชา รามานอฟ ที่เปิดเผยฟุตเทจใหม่จากหนัง และมีการกล่าวถึง ภารกิจบูดาเปสต์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างด้วย

d232019-106

• ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ Star Wars •

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของงาน D23 Expo ทุกๆ ปีก็คือเหล่าสาวกของมหากาพย์แฟรนไชส์ Star Wars ที่ทุกคนล้วนกระหายสงสัยข่าวใหม่ๆ ของจักรวาลนี้เป็นอย่างมาก "Star Wars: The Rise of Skywalker" คือภาคปิดไตรภาคล่าสุดที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนธันวาคมนี้ ยังเรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆ ได้เช่นเคย

ภายในงานได้เปิดฟุตเทจใหม่ที่เผยให้เห็นการต่อสู้ของตัวละครหลักอย่าง Rey อีกทั้งยังเผยให้เห็นด้านมืดของเธอด้วย มาพร้อมกับฉากเด็ดๆ มากมายที่ทำให้ทุกคนต้องคลั่ง พร้อมกับได้เปิดเผยภาพโปสเตอร์แรกอย่างเป็นทางการออกมาให้ยลโฉม ที่เห็นแล้วต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...งดงามเหลือเกิน

d232019-107

• Pixar จะกลับมาท็อปฟอร์ม •

สตูดิโอแอนิเมชันที่ครองใจคนทั้งโลกอย่าง Pixar ก็จะกลับมามีผลงานใหม่ถึง 2 เรื่องในปีหน้า เรื่องแรกก็คือ "Onward" เล่าถึงความผูกพันของพี่น้องเอลฟ์คู่หนึ่ง ที่ได้เห็นพ่อที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็กๆ ด้วยการร่ายมนต์ แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความยุ่งเหยิง คริส แพรตต์ และ ทอม ฮอลแลนด์ ให้เสียงพากย์ เข้าฉายวันที่ 6 มีนาคม 2563 นี้

ส่วนอีกเรื่องคือ "Soul" แอนิเมชั่นที่มาพร้อมกับคำถามที่ว่า "ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่?" เล่าถึงรูปธรรมของดวงวิญญาณที่ต้องผ่านภารกิจการฝึกฝนอย่างหนัก ก่อนจะได้รับการรับรองและจบสูตร พร้อมที่จะเข้าไปอยู่ภายในร่างมนุษย์ ให้เสียงพากย์โดย จิมมี ฟ็อกซ์ และ ทีนา เฟย์ โดยจะเข้าฉายวันที่ 19 มิถุนายน 2563

d232019-108

• Walt Disney Animation ปั้นเจ้าหญิงคนใหญ่ •

มาต่อกันที่แอนิเมชันจากค่ายดิสนีย์เอง อย่างที่ทราบกันดีกว่า "Frozen 2" ภาคต่อของแอนิเมชั่นเรื่องดัง กำลังจะมาในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ทำให้ภายในงานครั้งนี้มีการขยายตีความเรื่องราวออกไป ทั้งที่มาของพลังน้ำแข็งของเอลซา รวมทั้งปริศนาของพ่อแม่ของทั้งคู่ และการเปิดตัวเพลงประกอบ 3 เพลงใหม่ ที่น่าจะฮิตติดลมบนไม่แพ้ Let It Go อย่างแน่นอน

ต่อด้วยการเปิดตัวแอนิเมชันเรื่องใหม่ เปิดเผยเจ้าหญิงดิสนีย์คนต่อไป ที่เป็นหญิงสาวจากเอเชียอาคเนย์ใกล้ๆ บ้านเรา นั่นก็คือ "Raya and the Last Dragon" โดยมีการระบุว่าเป็นแอนิเมชันที่ได้รับแรงบันดาลใจมาวัฒนธรรมเอเชียแถบอาเซียน เรื่องราวของ Raya สาวนักรบที่ออกตามหามังกรตัวสุดท้าย เรื่องนี้มีกำหนดฉายเดือนพฤศจิกายน 2563

d232019-109

• เทพนิยายฉบับ Live-Action จะผนึกกำลัง •

อยู่ในช่วงขาขึ้นของการหยิบจับผลงานการ์ตูนสุดอมตะของตัวเอง มาสรรค์สร้างเป็นเวอร์ชั่นคนแสดง ทำให้ดิสนีย์มีแผนสร้างไลฟ์แอคชั่นอย่างต่อเนื่อง ที่จะมาในเดือนตุลาคมนี้ก็คือ "Maleficent: Mistress of Evil" ภาคต่อของหนังตัวละครแม่มดร้ายในโลกเทพนิยาย ที่จะถือว่าเป็นการขยายจักรวาลนี้ออกไปได้อีกระดับหนึ่ง

ภายในงานยังได้เปิดเผยฟุตเทจใหม่ล่าสุดของ "Mulan" เวอร์ชั่นคนแสดง ฉากออกรบที่ตึงตาตรึงใจ พร้อมสะกดสายตาทุกคนในวันที่ 27 มีนาคม 2563 ขณะที่ "Jungle Cruise" คือหนังที่ดัดแปลงมาจากเครื่องเล่นยอดนิยมจากสวนสนุก ที่ได้ เดอะร็อก และ เอมิลี บลันต์ แสดงนำ เตรียมเข้าฉายเดือนกรกฎาคม 2563

และมาถึงการเปิดตัวภาพของอีกหนึ่งตัวละครร้ายแสบสันต์ของดิสนีย์ "Cruella" ที่เผยให้เห็นการแปลงโฉมที่รับบทโดย เอ็มมา สโตน ที่จะมาสวมบทบาทที่มาของความร้ายกาจ เพราะเหตุใดเธอถึงนิยมถลกหนังสัตว์และมีรสนิยมทางแฟชั่นที่แปลกไปกว่าคนอื่นๆ มีแผนฉายในเดือนพฤษภาคม 2564

d232019-111

• Disney+ สตรีมมิงที่จะพลิกหน้าวงการ •

มาถึงอีกไฮไลท์ที่หลายคนกำลังสนใจเป็นอย่างมาก กับการมาของ Disney+ ออนไลน์สตรีมมิ่งของดิสนีย์ ที่เตรียมจะเผยแพร่ทั่วโลกในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป ภายในงานนี้ก็ยังได้เปิดตัวผลงานและอธิบายถึงรายละเอียดต่างๆ ของระบบสตรีมมิ่งอีกด้วย

ซีรีส์จากสตูดิโอมาร์เวล ก็ได้รับไฟเขียวให้สร้างแล้วหลายเรื่อง เช่น The Falcon and the Winter Soldier, Wanda Vision, Loki, What If...? หรือ Hawkeye ที่จะทยอยๆ เปิดตัวและลงสตรีมมิงในอีก 1-2 ปีต่อจากนี้ แต่มีการเปิดตัวซีรีส์ในงาน D23 Expo 2019 ครั้งนี้ก็คือ "Ms. Marvel" ซูเปอร์ฮีโร่สาวมุสลิมคนแรกของจักรวาล รวมทั้ง "She-Hulk" และ "Moon Knight" ก็เพิ่งรับอนุมัติสร้างให้ฉายผ่านสตรีมมิง

ขณะเดียวก็ยังมีซีรีส์ชุดจากจักรวาลสตาร์วอร์สด้วยเช่นกัน ได้เปิดเผยตัวอย่างแรกของ "The Mandalorian" ที่เป็นฉบับคนแสดงครั้งแรก ตัวละครหลักเป็นนักล่าหัวและสิงห์ปืนไว ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในผลงานประเดิมเปิดตัวสตรีมมิง เริ่มตอนแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้ยังจะมีซีรีส์ชุดอื่นๆ เกี่ยวกับสตาร์วอร์ส จะทยอยถูกสร้างตามมา เรื่องถัดไปเกี่ยวกับแคสเซียน แอนดอร์ และยังมีรายงานด้วยว่า ยวน แมคเกรเกอร์ จะกลับมารับบทเป็นอัศวินเจได โอบีวัน เคนโนบี อีกครั้งในซีรีส์อีกเรื่องที่จะออกฉายในสตรีมมิง

d232019-112

ทั้งนี้ ดิสนีย์ยังได้ประกาศส่งผลงานซีรีส์อีกหลายเรื่องลงสตรีมมิงของตัวเอง ได้แก่ "High School Musical: The Musical: The Series" ซีรีส์เพลงสไตล์ละครเรียลลิตี้, "Muppets Now" ซีรีส์ของเหล่าหุ่นเชิดยอดนิยม และยังประกาศสร้างซีรีส์ชุดใหม่กับตัวละครเดิม "Lizzie McGuire" ผลงานสร้างชื่อให้กับ ฮิลารี ดัฟฟ์ ทางดิสนีย์แชนแนล เมื่อ 18 ปีก่อน โดยจะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องในวัย 30 ของลิซซี

นอกจากนี้ยังจะมี "Lady and the Tramp" เวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นของหนังรักสายพันธุ์สุนัขสุดอมตะ และ "Noelle" หนังตลกเหมาะกับช่วงเทศกาลวันหยุด นำแสดงโดย แอนนา เคนดริก และ บิล ฮาเดอร์ เป็นภาพยนตร์ที่จะประเดิมฉายในระบบสตรีมมิงด้วย

สำหรับ Disney+ จะเป็นการรวบรวมผลงานต่างๆ ของค่ายดิสนีย์และพันธมิตร เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป โดยสามารถใช้งานได้ 4 จอในเวลาเดียวกัน ด้วยระบบภาพความละเอียดสูง และสามารถสร้างผู้ใช้แยกได้ 7 โปรไฟล์ โดยมีค่าบริการประมาณ 215 บาทต่อเดือน (6.99 เหรียญ)

Disney+ จะมีคลังภาพยนตร์ของดิสนีย์เอาไว้ให้เลือกชมมากมาย โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่หลักๆ ได้แก่ Disney, Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic และอื่นๆ สำหรับการสตรีมมิงซีรีส์ต้นฉบับนั้น จะเป็นการออนไลน์ในรูปแบบรายสัปดาห์ (สัปดาห์ละหนึ่งตอน) และสามารถเลือกใช้งานผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลายชนิด