เนื้อหาในหมวด ข่าว

“เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์” และวิกฤตชีวิตของ “ประชาชน” ตัวน้อยนิดในประเทศ

“เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์” และวิกฤตชีวิตของ “ประชาชน” ตัวน้อยนิดในประเทศ

ซีรีส์ไทยสุดฮอตบน Netflix ตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้น “เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์” งานซีรีส์ครั้งแรกของ “เป็นเอก รัตนเรือง” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน “เรื่องตลก 69” หรือ “6ixtynin9” ที่เขาเคยกำกับไว้เมื่อปี พ.ศ.2542 และกลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความฮือฮาให้กับสังคมไทยในตอนนั้น ด้วยความตลกร้ายที่สะท้อนภาพของสังคมที่กำลังการเผชิญภาวะทางเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เป็นเอกกลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ.2566 แต่ดัดแปลงเนื้อหาให้ออกมาในรูปแบบของซีรีส์ พร้อมหยิบเอาสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในช่วง “การระบาดของโควิด-19” มาเป็นตัวผลักดันสำคัญของเรื่อง 

ในขณะที่ภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อเดียวกัน โฟกัสชีวิตของหญิงสาวนามว่า “ตุ้ม” ที่ชีวิตพลิกผันตามสถานการณ์การดำเนินเรื่อง แต่เรื่องราวของประชาชนตัวน้อยนิด ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ถูกนำมาใช้เป็นฉากหลังของเรื่อง ก็ขมขื่นและปวดร้าวไม่แตกต่างจากตัวละครนำของเรื่องเลย Sanook พาทุกคนย้อนดู “วิกฤตเศรษฐกิจ” ที่กลายเป็นวิกฤตชีวิตของประชาชนตัวเล็กตัวน้อยในประเทศ​

วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540

ประเทศไทยผ่านวิกฤตต่างๆ มามากมาย แต่วิกฤตใหญ่ที่คนทั่วไปยังคงจดจำได้คงหนีไม่พ้น “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ที่เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2540 ในยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นผลมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมาก มีการโจมตีค่าเงินบาท และนำไปสู่การลอยตัวค่าเงินบาท จากประมาณ 25 บาท/ดอลลาร์ เป็นประมาณ 52 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้ธุรกิจเอกชน เช่น บริษัทบ้านจัดสรร อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง สถาบันทางการเงิน ธนาคาร ล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้อย่างรุนแรง หนี้สินเพิ่มขึ้น 2 - 3 เท่าตัวทันที หลายแห่งต้องปิดกิจการ ทำให้พนักงานจำนวนมากถูกปลดจากงาน และวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ยังส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลย์เซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกด้วย 

สถิติที่น่าสนใจของช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนตัวเล็ก มีดังต่อไปนี้ 

  • ในช่วงปี พ.ศ.2541 มีจำนวนผู้ประกอบการที่ปิดกิจการเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ส่งผลให้การว่างงาน “เพิ่มสูงขึ้น” มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 6.5 ของกำลังแรงงาน หรือเรียกว่าสูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบ 10 ปี 
  • ภาวะความยากจนเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 11.4 ของประชากรทั้งประเทศ เป็นร้อยละ 15.9 
  • กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยที่สุด 20% แรก มีสัดส่วนรายได้ลดลงจาก ร้อยละ 4.2 เป็นร้อยละ 3.8 ขณะที่กลุ่มคนที่มีรายได้สูงที่สุด 20% แรก มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 56.5 เป็นร้อยละ 58.5 
  • จำนวนคนว่างงานเนื่องจาก “ถูกปลด” เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเกือบ 1 ล้านคน
  • รายได้ครัวเรือนลดลงเยอะมาก เมื่อเปรียบเทียบรายได้ครัวเรือนในครึ่งปีแรกของ ปี พ.ศ.2542 กัับปี พ.ศ.2541 พบว่าร้อยละ 41.4 ของจำนวนครัวเรือนมีรายได้ลดลง 
  • วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลต่อการพัฒนาสติปัญหาของนักเรียนในระดับต่างๆ จากการประมาณการในปี พ.ศ.2540 พบว่า นักเรียนชั้ย ป.6, ม.3, ม.6 และปวช. ปีที่ 3 ไม่ได้เรียนต่อและต้องออกมาหางานทำจำนวนทั้งสิ้น 188,915 คน 
  • สถิติการฆ่าตัวตาย ปี พ.ศ.2540 อยู่ที่ 6.92 ต่อแสนประชากร ก่อนจะไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนในปี พ.ศ.2542 ที่ตัวเลขพุ่งขึ้นไปถึง 8.59 ต่อแสนประชากร 

วิกฤตโควิด-19 

วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยโควิด-19 ถือเป็นวิกฤตที่มีความรุนแรงทั่วโลก และเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับโควิด-19 รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะ “เศรษฐกิจถดถอย” อีกครั้ง โดยในช่วงปี พ.ศ.2563 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ติดลบต่อเนื่องมา 4 ไตรมาส และทั้งปีก็ติดลบ 6.1% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 22 ปี นับจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุุ้ง 

สถิติที่น่าสนใจของช่วงวิกฤตโควิดที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนตัวเล็ก มีดังต่อไปนี้ 

  • ปี พ.ศ.2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ว่างงานและผู้ที่เสมือนว่างงาน (มีงานทำแต่ต้องหยุดงานชั่วคราว) ไว้ที่ 6.9 ล้านคน 
  • สำนักงานสติถิแห่งชาติเปิดเผยข้อมูล ระบุว่า หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 1 - 3 ปี พ.ศ.2563 ส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานในไทยเพิ่มจาก 3.70 แสนคน เป็น 6.26 แสนคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.20 จากสถานการณ์ปกติ
  • ภาคอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวต่ำอยู่แล้ว ในปี พ.ศ.2562 ที่การขยายตัวทั้งหมดเป็นศูนย์ แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างรุนแรง ติดลบถึงร้อยละ 5.9 
  • ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยของภาคเอกชนลดงเท่ากับ 42.8 ชั่วโมง/สัปดาห์ จาก 43.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2562
  • หลังมาตรการล็อกดาวน์ช่วงปี พ.ศ.2563 พบว่าจำนวนผู้ทำงานทำในภาคการบริการและภาคการผลิต “ลดลง” สวนทางกับผู้มีงานทำในภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น 
  • กรมสุขภาพจิต เปิดเผยข้อมูลสายด่วน 1323 ตั้งแต่ ตุลาคม 2564 - สิงหาคม 2563 พบว่า ผู้รับบริการมีพฤติกรรมคิดฆ่าตัวตาย 1,554 ราย หรือเฉลี่ยคิดฆ่าตัวตาย 141 รายต่อเดือน
  • วิกฤตโควิด-19 ทำให้ตัวเลขการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 17 ปี นับตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง คือเพิ่มขึ้นถึง 7.37 ต่อแสนประชากรในปี พ.ศ.2563