เนื้อหาในหมวด ผู้ชาย

ตรงไหม? “CEO” ที่แสร้งรวยและโอ้อวด มักจะมี 5 สิ่งนี้ที่เหมือนกัน!

ตรงไหม? “CEO” ที่แสร้งรวยและโอ้อวด มักจะมี 5 สิ่งนี้ที่เหมือนกัน!

CEO เก๊ อวดรวยแต่กลวง มักมี 5 จุดร่วมนี้เหมือนกัน! เวลาพูดก็มักฟังดูยิ่งใหญ่เลิศหรู แต่ความจริงแล้ว...

เจอ "CEO เก๊" 2-3 คนในพื้นที่เล็ก ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะมีไม่น้อยที่ชอบห่มคลุมตัวเองด้วยภาพลักษณ์หรูหรา ฟู่ฟ่า แต่แท้จริงกลับกลวงเปล่าในข้างใน พวกเขามักสร้างความประทับใจด้วยเงินตรา เส้นสาย หรือคำพูดโอ่อ่า

ทว่าหากสังเกตให้ลึกซึ้ง คุณจะยิ่งเห็นชัดถึงความไม่จริงแท้ ดังคําที่ว่า "กลองเก่าเสียงดัง"

คนอวดรวยเก๊ก็มักเผยธาตุแท้ออกมาผ่าน 5 ลักษณะเด่น ต่อไปนี้

1. พูดถึงเงินและความสำเร็จเกินจริง
สิ่งที่สังเกตได้ชัดที่สุดของ “คนอวดรวยเก๊” คือ พวกเขามักพูดไม่หยุดเกี่ยวกับเงินทอง โปรเจกต์ใหญ่ ดีลพันล้าน หรือ “โอกาสพลิกชีวิต” ที่อ้างว่ามีอยู่ในมือ การเน้นย้ำซ้ำ ๆ ถึงตัวเลขและอนาคตอันสว่างไสว แท้จริงแล้วเป็นเพียงการปกปิดความไม่มั่นใจในใจลึก ๆ เท่านั้น

ตรงกันข้าม คนที่มั่งคั่งจริง มักเลือกเงียบและมุ่งทำงาน เพราะผลงานที่จับต้องได้จะเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนกว่าคำพูดสวยหรูใด ๆ

ในทางกลับกัน “คนอวดรวยเก๊” มักชอบวาดภาพอนาคตสุดเพ้อฝัน พร้อมตะโกนคำว่า “พยายามแล้วจะสำเร็จ” อยู่เสมอ แน่นอนว่าความพยายามเป็นสิ่งดี แต่ไม่ใช่เพียงการตะโกนร่วมกันโดยไร้การลงมือทำจริง

ยิ่งไปกว่านั้น บางคนยังพูดไม่หยุดถึง “โปรเจกต์ระดับล้านดอลลาร์” แต่กลับไม่สามารถยกตัวเลขหรือตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมออกมาได้เลย และนั่นก็คือสัญญาณชัดเจนของ "กลองเก่าเสียงดัง" นั่นเอง

2. หมกมุ่นกับภาพลักษณ์ภายนอก
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ “CEO เก๊” คือการทุ่มเทเกินพอดีให้กับรูปลักษณ์ภายนอก พวกเขามักสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู มือถือรุ่นล่าสุด แล้วก็ขยันเช็กอินตามคาเฟ่หรู เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าตนร่ำรวย แต่ความฟู่ฟ่านี้มักไม่สอดคล้องกับรายได้จริง บางทีก็เป็นของปลอม หรือหากเป็นของแท้ก็มาจากการกู้ยืมหรือรูดบัตรเครดิตจนเกินตัว

ในทางตรงกันข้าม คนที่มั่งคั่งจริงไม่จำเป็นต้องเอาโลโก้บนเสื้อมายืนยันฐานะ เพราะทรัพย์สินที่แท้จริงอยู่ในบัญชี ไม่ใช่ในรูปถ่ายโชว์หรู ส่วนคนอวดรวยเก๊กลับยึดติดกับสายตาคนอื่น และใช้การยอมรับภายนอกมาหล่อเลี้ยงอีโก้ว่างเปล่าของตน

3. ชอบอวดว่า “รู้จักคนใหญ่คนโต”
“CEO เก๊” มักสร้างภาพว่าตัวเองมีเส้นสายกว้างขวาง แค่เพียงเคยจับมือกับนักธุรกิจชื่อดัง ก็สามารถเล่าให้กลายเป็น “พี่น้องสนิท” ได้ทันที ยิ่งพูดพร่ำถึงคนรู้จักที่มีชื่อเสียงมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องการสร้างความประทับใจว่าตนเองมีที่พึ่งพิงที่มั่นคง

ในทางกลับกัน คนที่มีเครือข่ายสังคมจริง ๆ มักค่อนข้างเงียบ เพราะเข้าใจคุณค่าของความน่าเชื่อถือและความรอบคอบ ผมเคยเจอคนที่ชอบอวดว่ารู้จักเจ้าของบริษัทใหญ่ แต่เมื่อถูกถามลึก ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์นั้น กลับตอบอึกอักและเลี่ยงคำตอบ ซึ่งนี่เป็นหลักฐานชัดเจนของการยืมความรุ่งโรจน์ของผู้อื่นมาเติมเต็มภาพลักษณ์ตัวเอง

4. รีบอวดความสำเร็จระยะสั้น
คน “กลองเก่าเสียงดัง” มักชอบอวดผลงานแบบฉาบฉวย ตั้งแต่กำไรชั่วคราวไปจนถึงสัญญาเล็ก ๆ แต่พวกเขาสามารถเป่าขึ้นเป็น “ความสำเร็จยิ่งใหญ่” ได้เสมอ และมักเลี่ยงเมื่อต้องตอบคำถามเกี่ยวกับแผนระยะยาวหรือข้อมูลที่เป็นรูปธรรม

ในขณะที่คนรวยจริงเข้าใจดีว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนต้องใช้เวลาและวินัย ความใจร้อนเพียงทำให้ล้มเหลวได้ง่าย การอวดผลลัพธ์ระยะสั้นมากเกินไปก็เหมือนการผูกมัดตัวเองกับความกดดัน ยิ่งพูดมาก ก็ยิ่งง่ายให้ผู้อื่นเห็นความจริงเบื้องหลัง จริงอยู่ที่หลายกรณี หลังเพียงไม่กี่เดือน “CEO เก๊” เหล่านี้ก็หายไปพร้อมคำสัญญาฟู่ฟ่า

5. วิถีชีวิตกับคำพูดไม่สอดคล้องกัน
สัญญาณชัดเจนที่สุดคือความไม่สอดคล้องระหว่างพฤติกรรมและคำพูด วันหนึ่งพวกเขาอวดว่าทำสัญญากว่าร้อยล้าน วันถัดมากลับบ่นว่าขาดเงิน พูดเรื่องลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือรถหรู แต่แท้จริงยังเช่าบ้านธรรมดาหรือกู้เงินเพื่อนจำนวนเล็กน้อย ความขัดแย้งนี้ซ่อนเร้นได้นานไม่ยิ่งนัก เพราะการรักษาภาพลักษณ์หรูหราใช้พลังมากเกินไป

โดยรวมแล้ว 5 ลักษณะของ “CEO เก๊” สรุปได้ว่า เน้นการอวดอ้างเกินจำเป็น คนรวยจริงมีความสงบเพราะรู้ว่าคุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ความสามารถและทรัพย์สิน ไม่ใช่สายตาชื่นชมชั่วคราว ส่วน “CEO เก๊” กลับกังวลว่าจะถูกเปิดโปง จึงพยายามยัดเยียดภาพลักษณ์ตัวเองอย่างหนัก

ในสังคมที่เต็มไปด้วยภาพลวงตา สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสติในการแยกแยะ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของกับดักการร่วมมือ ความไว้วางใจ หรืออารมณ์จากคนที่ “กลองเก่าเสียงดัง” มีเพียงความจริงใจและความสามารถจริงเท่านั้นที่จะสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ส่วนเปลือกนอกปลอม ๆ สุดท้ายก็พังทลายไปตามกาลเวลา