
โกนหนวดมีกี่แบบ? เจาะลึก 2 วิธีโกนหนวดแบบไหนถึงจะ "หล่อสุด"
เปิดโลก "การโกนหนวด" ศาสตร์และศิลป์ที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม
การโกนหนวดไม่ใช่แค่กิจวัตรเพื่อความสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นศาสตร์และศิลป์ที่สะท้อนสไตล์และบุคลิกภาพของผู้ชาย การเลือกวิธีการโกนและสไตล์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณต้องการใบหน้าที่เรียบเนียนไร้ที่ติ หรือต้องการออกแบบหนวดเคราให้ดูเท่มีเอกลักษณ์ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการโกนหนวดเพื่อค้นพบรูปแบบที่ใช่สำหรับตัวเอง
วิธีการโกนหนวดที่ควรรู้ (Methods of Shaving)
การกำจัดหนวดเคราสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และอุปกรณ์ที่ใช้แตกต่างกันออกไป เพื่อให้คุณเลือก "การโกนหนวด" ได้ตรงตามความต้องการและไลฟ์สไตล์
1. การโกนหนวดด้วยมีดโกน (Manual Shaving)
วิธีคลาสสิกนี้ให้ผลลัพธ์ที่เกลี้ยงเกลาที่สุด เพราะใบมีดจะสัมผัสผิวโดยตรงและตัดเส้นขนได้ลึกถึงโคน การโกนด้วยวิธีนี้มักเป็นการโกนแบบเปียก (Wet Shaving) ซึ่งต้องใช้น้ำและผลิตภัณฑ์หล่อลื่น เช่น ครีม, เจล หรือโฟมโกนหนวด เพื่อลดการระคายเคืองและบาดแผล
- มีดโกนแบบเปลี่ยนหัวได้ (System Razor): เป็นที่นิยมที่สุด มีด้ามจับถาวรและเปลี่ยนเฉพาะหัวใบมีด มีให้เลือกตั้งแต่ 2 ถึง 6 ใบมีด เพื่อให้โกนได้เรียบเนียนในครั้งเดียว
- มีดโกนแบบดั้งเดิม (Safety Razor): มีดโกนแบบคลาสสิกที่ใช้ใบมีดเดียว ให้ผลลัพธ์เกลี้ยงเกลามาก แต่ต้องใช้ความชำนาญในการโกนและระวังไม่ให้เกิดการบาดได้ง่าย
ข้อดี: โกนได้เกลี้ยงเกลา เรียบเนียนที่สุด ข้อเสีย: เสี่ยงต่อการโดนบาด อาจเกิดการระคายเคือง และใช้เวลาในการเตรียมตัวมากกว่า
2. การโกนหนวดด้วยเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า (Electric Shaving)
วิธีนี้ได้รับความนิยมเพราะสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่า ใบมีดของเครื่องจะไม่สัมผัสผิวโดยตรง จึงช่วยลดการเกิดบาดแผลและการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ได้ทั้งการโกนแบบแห้ง (Dry Shaving) โดยไม่ต้องใช้น้ำ หรือบางรุ่นก็รองรับการโกนแบบเปียก (Wet Shaving) ได้ด้วย
- เครื่องโกนแบบฟอยล์ (Foil Shaver): เหมาะสำหรับคนที่มีหนวดเส้นเล็ก ไม่หนามาก และต้องการความเกลี้ยงเกลา โดยจะมีแผ่นโลหะบางๆ ที่มีรูเล็กๆ คลุมชุดใบมีดที่สั่นด้วยความเร็วสูง
- เครื่องโกนแบบหัวกลม (Rotary Shaver): มีหัวโกนตั้งแต่ 2-3 หัว แต่ละหัวมีใบมีดหมุนเป็นวงกลมอยู่ภายใน เหมาะสำหรับคนที่มีหนวดเคราหนาและยาว เพราะมีความยืดหยุ่นสูงและโค้งรับกับรูปหน้าได้ดี
ข้อดี: สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และลดการระคายเคือง ข้อเสีย: อาจโกนได้ไม่เกลี้ยงเกลาเท่ามีดโกน ราคาสูงกว่า และต้องมีการบำรุงรักษาและชาร์จแบตเตอรี่
สไตล์ "หนวดเครา" ยอดนิยม เสริมบุคลิกให้โดดเด่น
การออกแบบและตกแต่งหนวดเคราให้เป็นรูปทรงต่างๆ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้โดดเด่นและบ่งบอกความเป็นตัวคุณ นี่คือสไตล์หนวดเครายอดนิยมที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณได้เลือกสร้างสรรค์ลุคที่ลงตัวที่สุดสำหรับตัวเอง
- เกลี้ยงเกลา (Clean Shaven): ลุคคลาสสิกที่ดูสะอาดสะอ้าน เป็นทางการ และดูอ่อนกว่าวัย เหมาะกับทุกโอกาสที่ต้องการความเนี้ยบ
- ตอหนวด (Stubble): การไว้หนวดเคราสั้นๆ เหมือนเพิ่งขึ้นมา 2-3 วัน ให้ลุคที่ดูเท่ ดิบ และเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก
- เคราแพะ (Goatee): การไว้หนวดบริเวณคางและอาจมีหนวดเหนือริมฝีปากร่วมด้วย เป็นสไตล์ที่ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูยาวและคมเข้มขึ้นอย่างชัดเจน
- หนวดเคราแบบเต็ม (Full Beard): การไว้หนวดและเคราให้ขึ้นเต็มพื้นที่ใบหน้า ให้ลุคที่ดูภูมิฐาน สุขุม และมีความเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยการดูแลและตกแต่งอย่างสม่ำเสมอ
เลือกวิธีและสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ
การจะเลือกวิธีการโกนและสไตล์หนวดเคราแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น สภาพผิวและไลฟ์สไตล์ หากคุณมีผิวแพ้ง่าย เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการความเกลี้ยงเกลาสูงสุด การโกนแบบเปียกด้วยมีดโกนก็ยังตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ การเลือกสไตล์หนวดเคราให้เข้ากับรูปหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยเสริมจุดเด่นและแก้ไขจุดด้อยได้ การโกนหนวดที่ดีที่สุดก็คือวิธีที่ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจและเป็นตัวเองมากที่สุดนั่นเอง