แบรนด์ Stüssy ดียังไง ทำไมเขาใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง จุดเริ่มต้นไม่ใช่เสื้อผ้าด้วยซ้ำ
รู้จัก Stüssy แบรนด์สตรีทแฟชั่นสุดเก๋า ไขที่มาโลโก้ลายเซ็น สู่ตำนานกว่า 40 ปี
ในโลกของสตรีทแฟชั่น หากจะเอ่ยถึงแบรนด์ที่เป็น "OG" (Original Gangster) หรือผู้บุกเบิกตัวจริง ชื่อของ Stüssy (อ่านว่า สตู-ซี่) ต้องอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 40 ปี Stüssy ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เสื้อผ้า แต่คือสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมย่อยที่ผสมผสานทั้งการเล่นเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด ฮิปฮอป และดนตรี โดยมีจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายจากลายเซ็นเพียงลายเดียว น้อยคนจะรู้ว่าแบรนด์ระดับโลกแบรนด์นี้ ไม่ได้เริ่มต้นจากห้องออกแบบแฟชั่น แต่เริ่มจากชายหาดลากูนา (Laguna Beach) ในแคลิฟอร์เนีย
จุดเริ่มต้นจากลายเซ็นบนกระดานโต้คลื่น
Stüssy ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1980s โดย ชอว์น สตูซี (Shawn Stussy) เดิมทีเขาเป็นช่างทำกระดานโต้คลื่น (Surfboard Shaper) ที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น เอกลักษณ์ของเขาคือการใช้ปากกามาร์กเกอร์หัวใหญ่เขียนนามสกุล "Stüssy" ของตัวเองด้วยลายมือสไตล์กราฟิตี้ลงบนกระดานทุกแผ่นที่เขาทำ ในเวลาต่อมา ชอว์นเริ่มนำลายเซ็นเดียวกันนี้ไปสกรีนลงบนเสื้อยืด กางเกงขาสั้น และหมวก เพื่อขายควบคู่ไปกับกระดานโต้คลื่นในงานแสดงสินค้า ปรากฏว่าเสื้อผ้าที่ทำขึ้นเพื่อโปรโมตกลับได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย จนกลายเป็นธุรกิจหลัก ในปี 1984 เขาได้ร่วมมือกับ แฟรงก์ ซินาตรา จูเนียร์ (Frank Sinatra Jr. - ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักร้องดัง) เพื่อก่อตั้งบริษัท Stüssy Inc. อย่างเป็นทางการ
เอกลักษณ์ความเป็น OG: ลายเซ็น, 8-Ball และ World Tour
สิ่งที่ทำให้ Stüssy แตกต่างและเป็นตำนาน คือการสร้าง "วัฒนธรรม" ผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ ที่กลายเป็นไอคอนของยุคสมัย แม้ว่าชอว์น สตูซี จะออกจากแบรนด์ไปในปี 1996 แต่มรดกทางการออกแบบของเขายังคงแข็งแกร่งมาจนถึงปัจจุบัน
- ลายเซ็นกราฟิตี้ (The Scribble): นี่คือโลโก้ดั้งเดิมและเป็นหัวใจของแบรนด์ มันคือลายเซ็นจริงของ ชอว์น สตูซี ที่ได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากลายเซ็นของ ยาน สตูซี (Jan Stussy) ลุงของเขาผู้เป็นศิลปินแนวแอ็บสแตรกต์
- ลูกพูลหมายเลข 8 (Eight Ball): หนึ่งในกราฟิกที่โด่งดังที่สุดของ Stüssy ในเกมพูลอเมริกัน ลูก 8-Ball คือ "ลูกแห่งโชคชะตา" (Ball of Destiny) มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความขบถ วัฒนธรรมสตรีท โชค และการเป็น "ผู้ยืนหยัดคนสุดท้าย" (Last Man Standing)
- ลูกเต๋า (Dice): เช่นเดียวกับ 8-Ball ลูกเต๋าเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงเรื่องโชคชะตา การเสี่ยง และวัฒนธรรมการพนัน ซึ่งถูกนำมาเชื่อมโยงกับความดิบของสตรีทคัลเจอร์
- Stüssy World Tour: ลายพิมพ์ที่หลายคนคุ้นตา คือการนำชื่อเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมสตรีท (เช่น นิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส, โตเกียว, ลอนดอน, ปารีส) มาเรียงต่อกันด้วยฟอนต์ตัวหนา สะท้อนถึงเครือข่ายเพื่อนและผู้ทรงอิทธิพลในเมืองต่างๆ ที่เรียกว่า "International Stüssy Tribe" (IST)
ไอเทมหายากสำหรับ Collector ตัวจริง (Rare Grails)
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้ไอเทมวินเทจและการคอลแลบส์ (Collaborations) ของ Stüssy กลายเป็นของหายากที่นักสะสมทั่วโลกตามหา และมีราคารีเซลที่สูงลิ่ว
- Stüssy x Dior: การร่วมงานครั้งประวัติศาสตร์ในคอลเลกชัน Pre-Fall 2020 ซึ่งดึงตัว ชอว์น สตูซี กลับมาออกแบบเป็นการส่วนตัว ไอเทมอย่างรองเท้า B23, กระเป๋า Saddle Bag, และเครื่องประดับ ที่มีลายเซ็น Stüssy บนโลโก้ Dior ถือเป็นของแรร์ระดับตำนาน
- Stüssy x Nike: การร่วมงานที่เกิดขึ้นหลายครั้งและประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะรองเท้ารุ่นดังอย่าง Stüssy x Nike Air Force 1 'Fossil' หรือ Stüssy x Nike Air Max 2013 'Fossil' ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
- IST Varsity Jacket: อาจเรียกได้ว่าเป็น "สุดยอดของหายาก" เสื้อแจ็คเก็ต Varsity Jacket เหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับขายทั่วไป แต่ผลิตขึ้นเพื่อมอบให้แก่สมาชิก "International Stüssy Tribe" เท่านั้น รุ่นดั้งเดิมจากยุค 90s หรือรุ่นที่ทำขึ้นใหม่ในโอกาสพิเศษ ถือเป็นไอเทมที่นักสะสมยอมจ่ายในราคาสูง
- Stüssy x CDG (Comme des Garçons): แคปซูลคอลเลกชันที่ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปีของ Stüssy ซึ่งเป็นการตอกย้ำสถานะของแบรนด์ในโลกแฟชั่น
สรุป: มากกว่าแบรนด์ แต่คือวัฒนธรรม
Stüssy คือแบรนด์ที่สร้างพิมพ์เขียวให้กับวงการสตรีทแวร์ยุคใหม่ ด้วยการเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมย่อยอันหลากหลาย ทั้งเซิร์ฟ, สเก็ต, ดนตรีฮิปฮอป และคลับคัลเจอร์ เข้าไว้ด้วยกัน จากลายเซ็นง่ายๆ บนกระดานโต้คลื่นเมื่อ 40 ปีก่อน ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ยังคงทรงอิทธิพลมาจนถึงทุกวันนี้
