รู้หรือไม่ "คนอิสราเอล" เป็นทหารทั้งประเทศ และต้องพร้อมออกรบตลอด 24 ชั่วโมง

18/10/2023 (11:19 น.)

ในห้วงเวลาสงครามระหว่าง “อิสราเอล” กับ “กลุ่มฮามาส” ที่กำลังดุเดือดร้อนแรงและเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก ประเด็นหนึ่งที่คนให้ความสนใจคือ การปฏิบัติภารกิจของ “กองทัพอิสราเอล” ซึ่งเป็นกองทัพที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในโลกกองทัพหนึ่ง ศึกสงครามรอบบ้านทำให้อิสราเอลต้องพัฒนากองทัพของตัวเองให้ทันสมัยและล้ำหน้ากว่าใคร เช่นเดียวกับฝึกประชาชน “ทุกคน” ให้สามารถลุกขึ้นสู้ในสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

• รู้จัก "กองกำลังป้องกันอิสราเอล" และเทคโนโลยีทางทหารที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
• รู้จัก “Iron Dome” ระบบโดมเหล็กป้องกันขีปนาวุธ ราคาหมื่นล้านของ “อิสราเอล”
• “ฮามาส” คือใคร ทำไมเปิดฉากโจมตี “อิสราเอล” อย่างรุนแรง

เพราะเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด แต่สงครามกับเพื่อนบ้านก็อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อิสราเอลจึงจำเป็นต้องมีกองทัพทหารที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ “กองกำลังสำรอง” ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นหมายถึงการกำหนดให้ประชาชนทุกคน ทั้งชายและหญิงต้องเข้า “เกณฑ์ทหาร” และต้องพร้อมรบตลอด 24 ชั่วโมง

ทำไมชาวอิสราเอลทุกคนเป็นทหาร

อิสราเอลเป็นประเทศขนาดเล็กในพื้นที่ตะวันออกกลางที่มีทรัพยากรอย่างจำกัด มีประชากรประมาณ 9 ล้านคนเศษ แต่ต้องทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ตลอดเวลา ทำให้อิสราเอลต้องสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันประเทศ และรับมือกับการโจมตีของประเทศรอบข้างและกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ 

หลังจากประกาศเอกราชในวันที่ 14 พฤษภาคม 1948 รัฐบาลอิสราเอลได้ก่อตั้ง “กองกำลังป้องกันอิสราเอล” หรือ IDF (ไอดีเอฟ) ขึ้นในวันที่ 26 พฤษภาคม 1948 พร้อมมีคำสั่งให้พลเมืองอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต้องเข้ารับราชการทหาร โดยไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากประเทศยังอยู่ในภาวะสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด

อายุ 18 ปีต้องเกณฑ์ทหารทุกคน

วัยรุ่นอิสราเอลทั้งชายและหญิง เมื่อจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา หรืออายุได้ 18 ปี จำเป็นต้องเข้าเป็น “ทหารกองเกิน” หรือเข้ารับการเกณฑ์ทหารทันที ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร โดยผู้ชายต้องรับราชการทหารเป็นเวลา 3 ปี ขณะที่ผู้หญิงต้องรับราชการทหารเป็นเวลา 2 ปี หลังจากเสร็จสิ้นการรับราชการเป็นทหารกองเกินแล้ว จึงจะสามารถไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือเข้าทำงานได้ 

การเกณฑ์ทหารดังกล่าวมีผลบังคับกับประชาชนจาก 3 กลุ่มชาติพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ 

• กลุ่มชาวยิว ที่ทั้งชายและหญิงต้องเข้าเกณฑ์ทหารทุกคน
• กลุ่มชาวดรูซ มีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ถูกบังคับให้เกณฑ์ทหาร ผู้หญิงได้รับการยกเว้น
• กลุ่มชาวเซอร์แคสเซีย มีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ถูกบังคับให้เกณฑ์ทหาร ผู้หญิงได้รับการยกเว้น

สำหรับกลุ่มชาวอาหรับมุสลิม และชาวอาหรับคริสเตียน ทางการอิสราเอลไม่ได้บังคับว่าต้องเข้าร่มเกณฑ์ทหาร แต่ก็เปิดให้ประชาชนกลุ่มนี้สามารถเข้ารับราชการทหารได้

ต้องพร้อมรบตลอด 24 ชั่วโมง

กองทัพอิสราเอลมี “ทหารอาชีพ” ประจำการราว 1.7 แสนนายเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 30 ของกองกำลังทหารทั้งหมด โดยอีกร้อยละ 70 หรือราว 4.5 แสนนาย คือ “ทหารกองหนุน” ที่จะถูกเรียกเข้าประจำการในยามสงครามหรือในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยชายชาวอิสราเอลที่อายุระหว่าง 18 - 54 ปี และหญิงชาวอิสราเอลที่อายุระหว่าง 18 - 34 ปี ทุกคนต้องเข้าเป็น "ทหารกองหนุน" แม้จะเคยเกณฑ์ทหารมาแล้ว 

การเรียกระดมพลพร้อมรบของอิสราเอลจะใช้เวลาเพียง 18 - 24 ชั่วโมงเพื่อให้ทหารเข้ารายงานตัว ขณะที่นายทหารกองหนุนที่ได้รับมอบหมายให้เรียกพล จะสามารถเรียกพลที่ประจำการในหน่วยของตัวเองมาแทนทหารประจำการได้ โดยเวลาเพียง 6 - 8 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นระบบการเรียกระดมพลที่รวดเร็วและดีที่สุดในโลกขณะนี้ 

สำหรับการฝึกของทหารกองหนุนนั้น กองทัพอิราเอลมีวิธีการฝึกและเตรียมความพร้อมของทหารกองหนุนอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยกฎหมายกำหนเให้ทหารกองหนุนต้องเข้ารับการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อม ปีละ 42 วัน และหากมีความจำเป็นก็อาจขยายเวลาฝึกออกเป็น 60 วัน โดยหลักสูตรการฝึกจะแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรเบื้องต้น และหลักสูตรก้าวหน้า

ประชาชนทุกคนจึงจะมีทักษะทางทหารติดตัวและได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ 

ลดทหารประจำการ เพิ่มงบเทคโนโลยี

ระบบกองกำลังสำรองของอิสราเอลถือเป็นวิธีการ “ลดขนาดกองทัพ” และทหารประจำการให้น้อยลง เพื่อประหยัดงบประมาณ และนำงบประมาณในส่วนนั้นไปสร้างเสริมเทคโนโลยีทางทหาร เช่นเดียวกับการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงรักษาความพร้อมรบของกองทัพไว้ได้ ทำให้กองทัพอิสราเอลมีขนาดกระชับ แต่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

เทคโนโลยีทางทหารของอิสราเอลถือว่ามีความก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นโดรน อากาศยานโจมตีไร้คนขับ ระบบต่อต้านขีปนาวุธ และอุปกรณ์ทันสมัยอื่นๆ ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในภารกิจทางทหาร