"โหน ธนากร" จุดแพชชั่น! ขึ้นแท่นผู้บริหาร เชื่อบทเรียนชีวิตคือของขวัญชิ้นใหญ่
ไม่ยึดติดหากกระแสความนิยมลดน้อยลง สำหรับพระเอกหนุ่ม โหน-ธนากร ศรีบรรจง เริ่มหลงรักงานเบื้องหลังจนถอนตัวไม่ขึ้น ลงทุนสุดตัวสร้างทีมออแกไนซ์ โปรดักชั่น และสานฝันทำค่ายเพลง เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้บรหารหนุ่มไฟแรง เมื่อ sanook.com มีโอกาสเจอเจ้าตัวมาร่วมงาน 7 สี ช่วยชาวบ้าน สานฝันการศึกษา จึงได้พูดคุยถึงเป้าหมายชีวิตหลังจากนี้ ที่ตั้งใจปลุกปั้นทำธุรกิจที่ตัวเองรัก
เริ่มผันตัวทำเบื้องหลังจริงจัง ?
"ตอนนี้เป็นผู้บริหาร ชื่อบริษัทว่า สวนหลังบ้าน เรคคอร์ด จะมี 3 โปรดักส์ โปรดักที่ 1 คือ สวนหลังบ้านออแกไนซ์ ผมรับจัดงานเปิดตัวสินค้า งานแกรนด์โอเพนนิ่ง งานแต่ง จัดอีเวนต์ทุกรูปแบบ งานปาร์ตี้คอนเสิร์ต อยู่ในพาร์ทนี้ อีกพาร์ทนึงคือ สวนหลังบ้าน โปรดักส์ชั่น รับถ่ายพวกงานแอดโฆษณา หนัง เอ็มวี ซีรีส์ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับโปรดักส์ชั่นจะอยู่ในพาร์ทนี้ เร็วๆ นี้โหนจะทำ สวนหลังบ้าน มิวสิค จะทำค่ายเพลงเป็นของตัวเอง"
เราจะเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่ายเพลงตัวเอง ?
"อาจจะไปนั่งบริหารครับ ผมลงทุนคนเดียวเริ่มจากความชอบของเรา นี่คือความชอบของผมจริงๆ ชอบอยู่เบื้องหลัง มันจะมีไทม์ไลน์ของมัน โหนเล่นดนตรีเป็น เพราะฉะนั้นสวนหลังบ้าน มิวสิค ก็รู้สึกไม่ได้ต่าง โหนว่ามันก็อยู่ในเส้นทางนี้อยู่แล้ว อีกพาร์ทนึงคือ สวนหลังบ้าน โปรดักส์ชั่น โหนเองอยู่เบื้องหน้าอยู่แล้ว แต่แค่วันนี้เราขยับมาทำงานเบื้องหลัง ส่วนสวนหลังบ้าน ออแกไนซ์ เวลาเราไปงานอีเวนต์งานต่างๆ เราก็เห็นงานต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นเราแค่ย้ายจากระบบหน้าบ้านทั้งหมด ย้ายมาอยู่หลังบ้านก็เลยทำบริษัท สวนหลังบ้าน เรคคอร์ด"
อนาคตมีโอกาสหันไปทำงานเบื้องหลังเต็มตัว ?
"แน่นอนครับ ถามว่าอิ่มตัวมันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าโหนเล่นละครมาหลายเรื่อง แต่ก็ขอบคุณผู้ใหญ่นะ ที่ยังให้ความเห็นว่าเหมาะสมกับเรา ให้งานเรา เราก็ยังทำงานทุกงานเต็มที่ที่สุดอยู่ แต่เราแค่จะเดินควบคู่กันไปโดยการหาอีกแพชชั่นนึง ที่เราขยับมาระบบทั้งหมดมันอยู่หลังบ้านอยู่แล้ว"
ด้วยอายุยังน้อยเร็วไปมั้ยที่จะผันตัวไปทำเบื้องหลังแล้ว ?
"คือคำนี้ผมก็เคยคุยกับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพมากๆ คนนึง วันนี้โหนอายุ 28 แล้ว โหนเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 18 แล้วก่อนหน้านี้ผมก็เคยเล่นละครสมัยเด็กๆ บ้าง ตีซะว่า 10 ปี ที่ผมอยู่วงการนี้มา ผมก็ไปปรึกษาผู้ใหญ่ท่านนึงว่ามันเร็วไปมั้ย กับการที่โหนไปอยู่เบื้องหลังซะแล้ว ผมได้คำตอบมาคำนึง เขาตอบมาว่า ถ้าโหนไม่เริ่มตอนนี้แล้วโหนจะไปเริ่มตอนไหน โหนจะไปเริ่มตอน 40 เหรอ โหนจะไปเริ่มตอน 38 เหรอ 50 เหรอ ถูกมั้ยครับ เพราะฉะนั้นเริ่มซะเลย ทำมันซะเลยครับ แล้วตอนนี้บริษัทก็งานเยอะมาก"
ไม่เสียดายงานเบื้อหน้าเหรอ ?
"ยังรับงานเบื้องหน้าอยู่เหมือนเดิมครับ แต่เราแค่จัดสรรเวลาให้มันลงตัวที่สุด อย่างเสร็จจากงานวันนี้ผมก็นัดทีมประชุมและไปดูโลเคชั่นเพื่อจัดงานในเดือนหน้า มันก็เลยมีหลากหลายเรื่องที่จะต้องจัดแพลน"
เริ่มบริหารธุรกิจใหญ่ในวัยที่ยังน้อย ?
"จริงๆ แล้วผมเองในเรื่องธุรกิจก็ต้องยอมรับว่า เราคือนิวเจนเช่นกัน ผมก็ย้อนกลับไปคำเดิมว่า ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้เราจะเริ่มตอนไหน จะรอวัยวุฒิเมื่อไหร่ จะทำเมื่อไหร่ ถ้าเราไม่เดินตอนนี้ เราจะเดินช้ากว่าโลกไปหลายเท่า เราไม่ได้แข่งกับใครเลย เราแข่งกับเวลาของโลกเท่านั้นเอง มันอาจจะเป็นอีกมิตินึงที่ผมเปรียบเทียบ แต่มันคือเรื่องจริงเพราะทุกวันนี้สถานการณ์ทุกๆ เหตุการณ์มันมาเร็วไปเร็วมาก ฉะนั้นเราต้องอยู่กับโลกนี้ให้ได้ และตามโลกให้ทัน"
ยังมีงานเบื้องหน้าที่เราอยากลองทำ แต่ยังคาใจไม่ได้ทำมันสักทีมั้ย ?
"มีครับ ความใฝ่ฝันของนักแสดงที่สุด ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากเล่นพวกหนังหรือซีรีส์ฮอลลีวูดสักครั้งนึงในชีวิต สำหรับผมเองก็มีความฝันแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่ามันก็เป็นความฝันเราก็ไม่รู้ว่ามันจะไปสุดหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ยังไงมันก็ยังมีอีกหนึ่งแพชชั่นก็คือตรงนี้แหละ ที่เราจะไปอีกทางนึงแล้ว ตรงนั้นถ้ามันได้โอกาสเราก็จะทำเต็มที่เหมือนกัน"
โหนมองว่าทุกวันนี้กระแสเราลดลงไปมากมั้ย ?
"ผมไม่ยึดติดเลย โหนกลับรู้สึกว่าตอนนี้ฐานโตขึ้น ผมมานั่งวิจัยถ้าในมุมผมตอนนี้นะ ทำไมตอนนี้ฐานโตขึ้น ผมไลฟ์สดติ๊กต็อกร้องเพลงทุกวัน คนชอบและก็ฐานโตขึ้น แฟนๆ น่ารักมากทุกคนน่ารักจริงๆ บางคนยังงงกับโหนเลยว่า เฮ้ย พี่โหนพี่ไปอยู่ไหนมา หนูดูพี่ตั้งแต่ประถมแล้ว หายไปไหน พี่ยังเล่นละครอยู่ แค่ตอนนี้คนมีสื่ออย่างอื่นให้เสพเยอะ อย่างที่บอกโลกมันหมุนไปเร็ว เพราะฉะนั้นเราต้องตามโลกให้ทัน สาเหตุที่โหนมาไลฟ์ แค่อยากร้องเพลงล้วนๆ เลย โหนรู้สึกว่าร้องเพลงแล้วมีความสุข แต่โหนกลับได้ฐานแฟนที่มากขึ้น โตขึ้น ทุกคนมาจากไลฟ์มาจากตรงนั้นกันเยอะมาก ตอนนี้เหมือนโตขึ้นๆ"
ฐานแฟนๆ ที่สร้างไว้เป็นการปูทางเพื่อธุรกิจของเราด้วยมั้ย ?
"จริงๆ โหนไม่ได้มองถึงตรงนั้นเลย โหนมองแค่วันนี้ วินาทีนี้ โหนแค่อยากร้องเพลง อยากให้คนฟังเพลงโหนแล้วเขามีความสุข แค่นั้นก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว สำหรับการแข่งขันในวงการเพลง โหนไม่ได้โฟกัสคนอื่นเลย ไม่ได้โฟกัสใครทั้งนั้น โหนโฟกัสตัวเองวันนี้สิ่งที่คุณทำมีความสุขอยู่หรือเปล่า โหนถามตัวเองทุกวันที่โหนทำมีความสุขหรือเปล่า โหนยังชอบร้องเพลงอยู่หรือเปล่า แล้วคนที่ฟังเราร้องเพลงเขายังมีความสุขอยู่หรือเปล่า ถ้ายังมีคนฟังคนนึงเราก็มีความสุขแล้ว"
"ไม่ใช่เป็นนักแสดงแล้วไม่มีแพชชั่น คือทุกคนมีเป้าหมายของตัวเอง ตอนเด็กๆ โหนมีเป้าหมายอยากจะเป็นนักแสดง วันนี้ได้เป็นนักแสดงแล้ว โหนอยากเป็นศิลปินร้องเพลง โหนก็ได้เป็นศิลปินเพราะโหนมีเป้าหมาย แต่มันยังเหลือกราฟอีกหน่อยที่มันจะไปในสิ่งที่เราตั้งใจไว้ โหนได้แต่งเพลงประกอบละครแล้ว ได้ร้องเพลงประกอบละครแล้ว อันนี้คือเป้าหมายของเรา แต่ในส่วนของธุรกิจมันยังมีเป้าหมายของธุรกิจที่กำลังจะไปถึง"
ที่ผ่านมาเคยเจอเหตุการณ์แย่ๆ แล้วคิดอยากย้อนกลับไปแก้ไขมันมั้ย ?
"โหนไม่เคยอยากกลับไปแก้อะไรเลย เพราะทุกเรื่องราวในชีวิตโหนมันคือบทเรียนที่วิเศษแล้วก็ดีที่สุดสำหรับโหนมาก โหนขอบคุณด้วยซ้ำเป็นเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่ ทำให้เราโตขึ้นเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในวันนี้ อาจจะเป็นคำพูดที่พูดง่ายจังเลย ทำได้จริงเหรอวะ อย่างน้อยผมก็พิสูจน์แล้วผมไม่โกหกตัวเองว่าผมรับมันได้จริงๆ"