4 หนุ่ม แก๊งอยุธยาบอยแบนด์ เม้าท์ความสนุก "พรหมลิขิต" คืนนี้ สาวๆ ว้าวุ่นแน่!
เตรียมมากระชากหัวใจสาวๆ กันแล้ว สำหรับ 4 ตัวละครประวัติศาสต์ ในละคร พรหมลิขิต นำทีมโดย เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท ขุนหลวงท้ายสระ มาพร้อมกับน้องชาย อ้วน-เด่นคุณ งามเนตร รับบท เจ้าฟ้าพร และ 2 สหายคนสนิท เพ็ชร-ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท พระยาราชนิกูล กับ โอม-คณิน สแตนลีย์ รับบท จอร์ช ฟอลคอน ซึ่งจะเปิดตัวยิ่งใหญ่ให้ชมพร้อมกันคืนนี้ ทางช่อง 3 กด 33
เมื่อ sanook.com มีโอกาสพูดคุยกับ 4 หนุ่มแก๊งอยุธยาบอยแบนด์ จึงได้เจาะลึกถึงคาแร็กเตอร์ของแต่ละคน รวมถึงเบื้องหลังการถ่ายทำจะวุ่นวายสนุกสนานขนาดไหน แถมน้องเล็กอย่าง เด่นคุณ ยังแอบขอเม้าท์หนุ่ม เกรท พี่ชายคนสนิทกันแบบเผาขนเลยทีเดียว
คาแร็กเตอร์ของแต่ละคน ?
เด่น : รับบทเป็น กรมพระราชวังบวรฯ หรือ เจ้าฟ้าพร เป็นคนที่มองบ้านเมืองเป็นหลักมากกว่าชีวิตส่วนตัว ทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เป็นคนที่ใฝ่ในพุทธศาสนา และเชื่อในศักดิ์และสิทธิ์ครับ
เกรท : รับบทเป็น ขุนหลวงท้ายสระ หรือ เจ้าฟ้าเพชร
เพ็ชร : ผมรับบทเป็น พระยาราชนิกูล หรือ พ่อทองคำ เป็นพระสหายของขุนหลวง
เกรท : เป็นมหาดเล็กคนสนิทของผม
โอม : เล่นเป็น จอร์ช ฟอลคอน หรือว่าชื่อเต็ม หลวงชิดภูบาล
แต่ละคนต้องมารับบทที่มีอยู่ประวัติศาสตร์เกร็งมั้ย ?
เพ็ชร : เกร็งครับ เพราะว่าไปหาข้อมูลมา คือเป็นถึงปู่ของราชกาลที่1 ขนลุกเลยเพราะท่านอยู่สะแกกรัง อุทัยธานี ท่านมารับราชการที่อยุธยาเลยได้เข้ามารับใช้ขุนหลวง ในยุคของพระเจ้าท้ายสระ ตอนนั้นขนลุกมากเลย รู้สึกเกร็งไปหมดเลยครับ
เป็นครั้งแรกที่ได้มารับบทท่านมีตัวตนจริงๆ ท่านเป็นคนที่ค่อนข้างดุ ดุเลยครับ และเป็นคนที่เคร่งขรึมต่อหน้าที่การงาน และมีความซื่อสัตย์ แต่ในฉบับละครเป็นแนวไม่ได้ถึงกับดุมาก แต่เพื่อความเพลิดเพลินให้กับคนดู จะมีความน่ารักๆ อยู่กับแก๊งบอยแบนด์ อยู่กับขุนหลวงจะอีกแบบนึง เวลาออกราชการจะอีกแบบนึงครับ
เด่น : เท่าที่ผมฟังทุกคนมาเลยนะ ทุกคนมีความตื่นเต้นที่จะได้รับบทนี้ คล้ายๆ กันทุกคนเลย ผมว่าน่าจะมีความรู้สึกคล้ายๆ กันทั้ง 4 คนเลย ในตัวละครแต่ละตัวก็คล้ายจะมีเป้าหมายเดียวกันในการทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง แต่รูปแบบความคิดของเราแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน อาจจะมีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนเลยไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งในพระราชวังหรือทางฝั่งมือซ้ายมือขวา เขาก็มีเป้าหมายเดียวกันก็คือเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชน เพื่อเศรษฐกิจ
เด่นคุณมารับบทนี้ต้องนิ่งมากแค่ไหน ?
เด่น : เท่าที่ผมสัมผัสนะ ส่วนตัวผมเองนะ ท่านจะมีความสุขุมนิ่ง นิ่งยิ่งกว่าการที่เราเล่นในละครอีก เพราะว่าการที่เราทำในละครอาจจะมีความนิ่งอยู่แล้ว แต่เราต้องมีความเปล่งประกาย มีพลังขึ้นมา เพื่อให้มีความโดดเด่น ผมก็ต้องปลุกพลังตัวเองขึ้นมา แต่ไม่มาก คือน้อยแต่ให้มีอะไรนิดนึง
แต่จริงๆ เท่าที่รู้สึกเท่าที่สัมผัสในการดูบท หรือเวลาเล่นรับพลังงานต่างๆ มาจากพี่เกรท พี่โอม หรือ พี่เพ็ชร ที่เป็นราชบริพาร เราก็รู้สึกว่าเรานิ่งกว่า จริงๆ ท่านเป็นคนที่นิ่งสุขุมมาก แล้วหัวมีแต่เรื่องบ้านเมือง และเป็นคนที่โฟกัสอะไรได้นิ่งมากๆ อยู่อย่างเดียว ถ้าทานมองอะไรสิ่งนั้นต้องสำคัญมากๆ แล้วจะโฟกัสแต่ตรงนั้นซะเป็นส่วนใหญ่
โอมกับคาแร็กเตอร์ หลวงชิดภูบาล ?
โอม : ก่อนอื่นเลยก็คือตื่นเต้น เพราะว่ามีตัวตนจริงๆ เป็นตัวที่มีประวัติค่อนข้างดราม่าเพราะว่า ทางพ่อฟอลคอนจะโดนสำเร็จโทษ และทางแม่ก็โดนริบสมบัติ แล้วก็โดนจับไปอยู่ในคุก เราก็เหมือนลำบากมาพร้อมกันกับแม่ จนตอนหลังถูกเอาเข้ามาเลี้ยงดูในวัง เป็นเพื่อนเล่นกันกับขุนหลวงท้ายสระ เป็นเด็กที่จริงๆ ชีวิตดราม่า
แต่พอโตขึ้นมาเขาเป็นคนที่เอาดีและจริงจัง ก็เลยเป็นที่ไว้ใจ และเป็นพระสหายคนนึงที่สนิทกันกับขุนหลวงท้ายสระ คิดว่าเป็นบทที่ตื่นเต้นและต้องไปเรียนรู้เยอะมาก วันแรกที่ได้รับบทนี้นอกจากไปเวิร์กช็อปเรื่องดาบคู่แล้ว ยังต้องมีเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งเวลาเราหาข้อมูลในกูเกิลมันจะได้อีกแบบนึง แต่จะมีครูมาชี้แนะแนวทางให้ไปในทางถูกต้องด้วยก็ตื่นเต้นครับ
แสดงฉากไหนแล้วรู้สึกขนลุก ?
เพ็ชร : ฉากเปิดตัวของขุนหลวงครับ ต้องให้พี่เกรทเล่า
เกรท : ฉากวันนี้แหละ เรียกว่าสำหรับผมนะ ผมก็รู้สึกขนลุกมากๆ เพราะว่าทุกคนก็แต่งเต็มแล้วก็นั่งอยู่ข้างล่างเรา แล้วก็จับจ้องมาที่เรา เหมือนเราก็ต้องพูดเขาเรียกว่าภาษาสมัยนั้นคือ ว่าราชการ วันขึ้นครองราชพูดวันแรกก็ได้รับพลังจากข้างล่างส่งขึ้นมาเราก็เตรียมทำการบ้านของเราไป อันนี้เป็นฉากที่ขนลุก และก็อีกฉากนึงที่พี่กับเด่นเล่นตอนมอบบัลลังก์ให้กัน
เด่น : ความเป็นพี่น้องมันแรงมากฉากนั้น
เกรท : ถ้าพูดถึงฉากที่เข้มข้นเลย กับเด่นเป็นฉากนั้น แล้วส่วนกับเพ็ชรกับโอม กับมหาดเล็กทุกคนก็จะมีฉากที่เราโมโหแล้วสั่งงาน และฉากที่ให้ไปสืบราชการว่าจริงๆ กำลังจะมีคนคิดกบฏกับเรา ก็มีการวางแผนกันเพราะฉากพวกนี้เป็นฉากที่สำคัญ
รวมกัน 4 คนวุ่นวายมั้ย ?
เกรท : วุ่นวายมากครับ
เด่น : ห้า สี่ สาม สอง มาเลยแต่ละคนแบบเป็นงานเป็นการเลยนะ แต่พอคัทแล้วสิ่งแรกที่ผมมอง คือมอง เพ็ชร ฐกฤต คนแรกเลย เข่าแกจะเป็นยังไงบ้างวะ ผมจะมองแกตลอดเลย
เกรท : ทุกคนแหละ จะต้องขอโทษนะครับขอยืดขาหน่อย
เพ็ชร : ทุกคนต้องจับจ้องอยู่แล้ว ไม่ผมก็พี่โป๊ป พี่โป๊ปเข่าด้วยหลังด้วยหนักเลย มันนานมากเพราะว่าบางทีเราเข้ากับขุนหลวง เข้ากับพี่เกรทหลายๆ คน พี่เกรทพูดยาวมาก น่าจะตะคริวกินเกือบลุกไม่ไหว มันตึงจัด เรานั่งพับขา ภาพแคบไม่เท่าไหร่มันรับแค่หน้า แต่ภาพกว้างต้องนิ่งสุดแล้วอยู่หน้าพระพักตร์ท่านด้วย
เกรท : แล้วต้องพับเพียบหมอบด้วย หลายๆ ฉากที่บางทีนานๆ น่าจะพูดผิดสักสี่ห้ารอบเนอะ ภาพกว้างอะภาพแคบไม่เท่าไหร่ มันนั่งนาน บางครั้งเกร็งจนน้ำตาไหล ไม่ใช่ ซึ้งนะ เข่ากู
เด่น : ฉากที่ผมสงสารพี่ที่สุดนะ เท่าที่ผมถ่ายมา ผมสงสารฉากที่พี่ไปนั่งคุกเข่าหน้าเรือที่อาบแดด แล้วผมนั่งอยู่ในร่ม ที่ไปล่องเรือกันคลองโคกขาม
เกรท : คลองโคกขามมีจริงในประวัติศาสตร์ และมีการสั่งให้ขุดรัดคลองนี้ ซึ่งอันนี้ตัวผมก็พูดในบทด้วย และก็จะมีพาไปจริงๆ เราไปถ่ายทำสถานที่จริงๆ ด้วยอยู่แถวพระราม2
เด่น : เป็นกิจที่พ่อของเราพระเจ้าเสือจะทำอยู่แล้ว แล้วเราก็ไปทำต่อในเรื่องนะ
ต้องเข้าฉากที่มันจริงจัง ด้วยความที่แต่ละคนรู้จักกันมา มีหลุดขำบ้างไหม ?
เกรท : มันมีหลายฉากนะ จำได้ที่เวลาเล่นกัน แล้วผมนั่งอยู่ข้างบนใช่ป่ะ แล้วเห็นนั่งอยู่ข้างล่าง พี่โป๊ปก็มี (ทำเสียงหัวเราะ) มันมีบ่อยเหมือนกัน
เพ็ชร : รู้ป่ะใครหลุดขำสุด พี่โป๊ปตัวดีเลย
เกรท : แล้วก็มีช็อตพระพุทธเจ้าข้า ตอนที่ผมสั่ง ก็พูดไม่พร้อมกันสักที แล้วผมก็นั่งดูมันนับกัน นั่งดูว่าพอผมพูดจบ แล้วแบบหนึ่งสองในใจ แล้วเหมือนคนต้นเสียง เหมือนทุกคนไม่มั่นใจพร้อมๆกัน มันจะมีแว๊บเข้ามา มันจะมีคนแหลมๆเข้ามา แบบไม่มั่นใจ คือถ้ามั่นใจปุ๊บมันก็พร้อมกัน
โอม : พูดง่ายๆก็มีอยู่สองคน คือปีเตอร์แพนกับพี่โป๊ป ไม่พี่โป๊ปนำก็ปีเตอร์แพนยานสุด พระพุทธเจ้าข้า (เสียงยืด) (หัวเราะ)
แปลว่าฉากนี้ถ่ายนาน ?
เกรท : โอ้ยพี่ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าข้าครั้งเดียว วันนึงหลายรอบ
โอม : เวลาเราเข้ากับกษัตริย์เวลาเราเข้ากับคุณหลวง ทุกคนแทบจะไม่มีพูดเลย พูดอย่างเดียวพระพุทธเจ้าข้า ไม่รู้กี่เทค
เกรท : คือมันเป็นความฮา
โอม : บอยแบนด์ก็คือมีคอมเมดี้เข้ามา เวลาเราไปสืบราชการ เวลาไปดูราษฎร
เกรท : ก็เป็นรอยยิ้มน่ารักๆ มีฉากบู๊ด้วยวันนี้
ด้วยความที่ตัวละครจริงมีในประวัติศาสตร์ คนพูดถึงเยอะมากมีการเข้าไปค้นประวัติเราดีใจไหม ?
เพ็ชร : ดีใจครับที่เด็กยุคนี้ชอบประวัติศาสตร์ อย่างที่บอกเมื่อก่อนเราก็ไม่ชอบประวัติศาสตร์ เพราะว่ามันเป็นตัวหนังสือ แต่พอมันเป็นภาพเราด้วยภาพด้วยเสียง ด้วยความบันเทิง คนชอบเด็กชอบดู เรายังชอบเลย
เกรท : อันนี้อย่างที่บอกไปคือถ้าวัดจากความชอบส่วนตัว ปกติไม่ค่อยได้สนใจ พอเล่ามาเป็นละคร เป็นหนังหรืออะไรอย่างนี้ มันทำให้เห็นเสน่ห์ถึงความใส่ใจของทีมงาน มันทำให้เรานึกย้อนไปถึงตอนนั้น ว่าจะอลังการขนาดไหน ด้วยตัวละครที่เราเล่น ประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา มันทำให้เรารู้ว่าเมื่อก่อนมีแบบนี้ด้วย มีเรื่องปลาตะเพียนซึ่งฟังดูแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากนะ แต่สำหรับปากท้องประชาชนแล้ว คนที่เป็นกษัตริย์มองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
เด่นคุณ : ผมไม่หวั่นนะ คือเวลาเราเล่น เพราะเราเห็นว่าตัวละครท่านมีบารมีสูง เวลาเราทำงานเราไม่หวั่นเราไม่อะไร เราเต็มที่ แต่ว่าเราเป็นอย่างนี้ สมมุติว่าผมเห็นรูป ตัวผมเองที่แต่งเป็นกรมพระราชวังบวร ผมยกมือไหว้เลย ไม่กล้าที่จะ คือบางทีเวลาสัมภาษณ์ผมก็ไม่กล้าพูดถึงท่าน คือพูดได้ในระดับนึง พอพูดเยอะไม่กล้า
พอมันเป็นละครประวัติศาสตร์ จะต้องมีบางคนรู้สึกว่ามันไม่ใช่แบบนี้ เราได้มีการคุยกับคนเขียนบทไหม ?
เด่นคุณ : ตรงนี้มันอาจจะต้องเกิดอยู่แล้วครับ เพราะว่ารูปภาพเดียวกันเราเห็นต่างกันเรามองต่างมุม ยิ่งเรื่องประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน คนละสังคมคนละครูบาอาจารย์ มันก็อาจจะมีบ้าง ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ในเรื่องของพรหมลิขิต เรามีอาจารย์สอนประวัติศาสตร์หลายท่าน ทั้งก่อนที่จะถ่ายละคร มีอาจารย์หลายท่านที่ทำการถกกันมาแล้ว ในทางที่ถูกต้องที่สุด อย่างพี่วิโรจน์นั่งตรงนี้ผมเลยนะ อย่างบางฉากผมนั่งอยู่ตรงนี้แกนั่งอยู่ข้างหลัง พอเล่นเสร็จแกจะหันมาบอกเด่นเก่งอยู่แล้วแหละ แต่ว่ากับพี่ชายมันจะเป็นแบบนี้ ความรู้สึกจะเป็นแบบนี้นะ แล้วแกก็หันหลังไป เราก็เล่นต่อ คือเรามีนักประวัติศาสตร์คอยประกบ
เกรท : คือด้วยความที่เรารู้ประมาณนึง แล้วพอไปตรงนั้น เราต้องถามเพื่อความแน่ใจว่าต้องการให้ภาพของละครออกมายังไง เราต้องอ้างอิงให้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด
ของโอมค่อนข้างที่จะยากสุด เราต้องไปศึกษายังไงบ้าง ?
โอม : ผมก็พยายามถาม ว่าคนนี้เขามีความคิดนิดนึงไหม เพราะว่าพ่อของเขาโดนสำเร็จโทษมา มันต้องมีอะไรในใจนิดนึง แต่ด้วยความที่เขาเอาดีมากๆ แล้วแม่เขาก็เลี้ยงมาดีมาก ผมก็คิดว่ายังไงแล้วเขาก็ต้องรักกษัตริย์ของเขามากๆ และจงรักภักดีมากๆ ผมก็พยายามถามอาจารย์มาตลอด ว่ามันเป็นแบบนี้ใช่ไหม (เราเล่นเหมือนพ่อไหม?) ไม่เหมือนครับคนละเรื่องเลย เพราะเขาแทบไม่เจอพ่อเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะพ่อเขาตายตอนที่เขายังเล็กมาก
เราเป็นพี่น้องกันต้องสนิทกันมากแค่ไหน ?
เด่นคุณ : สนิทไหมอันนี้ผมไม่รู้แต่ผมสัมผัสได้ว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ ผมรู้สึกว่านัยน์ตาเรามีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คือล่าสุดผมดูละครเรื่องหนึ่งของผมอยู่ ผมก็รู้สึกว่าเหมือนพี่เกรท เพราะว่าตัวละครค่อนข้างเจ้าชู้นิดนึง ล้อเล่น ไม่ เพราะว่าตัวละครอบอุ่นมากๆ อันนี้พูดเล่นขอโทษ (ยกมือไหว้) คือตัวละครค่อนข้างอบอุ่นมาก ผมก็รู้สึกว่าตัวละครคล้ายพี่เกรท เขามีแฟนคนเดียว
เกรทตรงกับที่เราคิดมั้ย เป็นผู้ชายที่อบอุ่น ?
เด่นคุณ : ใช่ครับ เวลาผมมีอะไรไม่สบายใจ ก็มีพี่เกรทนี่แหละ คุยกันได้เป็นชั่วโมงเลย
คุยเรื่องสาวๆ มั้ย ?
เด่นคุณ : ไม่มีๆ ผมโกหกไม่ค่อยเป็นด้วย (หันไปมองเกรท) แต่คุยเรื่องสาวๆ คือให้เขาแนะนำนะ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพูดว่าเขามีอะไร เขาแนะนำว่าควรทำตัวยังไง ควรปฎิบัติยังไงกับผู้หญิง เพราะว่าผมเป็นผู้ชายห่ามๆ เขาสอนให้ผมให้เกียรติผู้หญิง เราต้องให้เกียรติเพศแม่ แต่ตัวเองต้องมีความเป็นผู้ชายด้วย ต้องมีความเป็นแมนด้วย และต้องให้เกียรติผู้หญิง
เขาสอนมั้ยว่าถ้าเกิดเรามีหลายคน ควรจะคุยยังไง ?
เด่นคุณ : เขาไม่ให้มีแฟนหลายคนครับ เขาบอกว่าสองคนก็เหนื่อยแล้วครับ (หัวเราะ) เขาผ่านอะไรมาเยอะ ประสบการณ์เยอะ
แสดงว่าในกูเกิ้ลที่ขึ้นมาคือเรื่องจริง ?
เด่นคุณ : ผมว่าความรู้ในกูเกิ้ลอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดครับ เขาชวนผมทำบุญนะ เขาบอกให้ผมไปไหวัพระบรมรูปต่างๆ ก่อนที่จะออนแอร์
ทำไมถึงแนะนำเรื่องความรัก ?
เด่นคุณ : ก็ผมเลิกกับแฟนไง
เกรท : เด่นก็ดูหน้าเศร้าๆ พอคุยกันก็แชร์ประสบการณ์ชีวิตกัน
เศร้าตั้งแต่ตอนนั้น จนวันนี้ก็ยังเศร้าอยู่เหรอ ?
เด่นคุณ : นานแล้วครับ
เกรท : นานแล้วครับ ก็เหมือนปรึกษากัน และแชร์ความรู้ของเรา ในการที่เราเคยผ่านอะไรมา ผมเองก็มีบทเรียน
เด่นคุณ : จะให้พูดสเป็คพี่เกรทเลยมั้ยล่ะ เขาชอบคนเก๋ๆ ให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน
เกรท : ไม่ต้องตอบ พอแล้ว หยุดแค่นี้
เกรทเจ้าชู้มั้ย ?
เด่นคุณ : ไม่นะครับ ถ้าพูดถึงความเจ้าชู้ ถ้าสมมติเขามีแฟน คนนี้ไม่ คนนี้สอนให้ผมมีแฟนคนเดียว ตอนนี้เขาก็โสด
มีคุยหลายคนมั้ย ?
เด่นคุณ : ไม่รู้ (เสียงสูง)
เกรท : ตายๆ
คิดยังไงที่เขายกให้เป็นอาจารย์เกรท ?
เด่นคุณ : ผมจะเป็นเขาต่อในอนาคต แววตาเขาดูอบอุ่นดีครับ ผมชอบพี่เกรทที่มีแววตาอบอุ่น ผมลองไปมาหลายคนแล้ว ป๊อป ฐากูร ก็ลองไปมาแล้ว อันนี้ดีสุด
เกรท : อันนี้พูดถึงทุกๆ คนเลย ไม่ใช่แค่เฉพาะเด่นคุณ ผมก็หวังดีกับทุกๆ คนเลย ใครมาที่มาปรึกษาอะไรก็ได้เลย เรื่องการใช้ชีวิตนะ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง แต่ถ้าเขาถามมาก็ตอบไป
เด่นคุณ : ล่าสุดผมไปงานเจอพี่บอย ปกรณ์ ก็คุยกัน พี่บอยบอกว่าไอ้เด่น เรื่องนี้มึงต้องปรึกษาเกรทเลย มึงต้องคุยกับเกรทเยอะๆ เขาพูดย้ำหลายรอบมาก
ส่วนใหญ่เราจะปรึกษาอะไรกับเขา ?
เด่นคุณ : ผมอาจจะเป็นคนอ่อนเรื่องชีวิตรัก แต่คนนี้ผมมองเห็นถึงหินผาที่แข็งแกร่ง
เกรท : คนเขาจะเข้าใจกูยังไง
เด่นคุณ : เป็นคนจิตใจดีไง ที่เอาใจแฟนเก่งในช่วงเวลาที่มีแฟน แต่ตอนนี้เขาโสดจริง คุยกี่คนเหรอ ไม่นะ ไม่ได้เล่าให้ฟัง (หัวเราะ)