สรุปข่าวร้อน รถบรรทุกตกหลุมสุขุมวิท 64/1 ถูกโยง "ส่วยสติกเกอร์" กลายเป็นดราม่าเดือด
ประเด็นร้อนของสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นอุบัติเหตุ “รถบรรทุกตกหลุม” บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 จนรถจมลงไปครึ่งคัน ที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความปลอดภัยของถนนเมืองไทยอย่างรุนแรง ก่อนจะมีชาวเน็ตตาดี สังเกตเห็นสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว พร้อมตัวอักษร B ติดอยู่หน้ารถ ที่ทำคนเริ่มสงสัยว่ามีอะไรเชื่อมโยงกับ “ส่วยสติกเกอร์” หรือไม่
Sanook สรุปข่าวร้อน จากอุบัติเหตุรถบรรทุกตกหลุม สู่การไล่บี้ของนักการเมืองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่อง “ส่วยสติกเกอร์”
อุบัติเหตุรถตกหลุมสุขุมวิท 64/1
ช่วงกลางวันของวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุระลึกกลางกรุง เมื่อถนนบริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 เกิดทรุดตัว เป็นเหตุให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ตกลงไปเกือบทั้งคัน ล้อหลังติดอยู่ในหลุมทำให้หน้ารถลอยชี้ฟ้า ส่งผลให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาต ไม่สามารถไปไหนได้ และมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 2 คน
หลังเกิดเหตุ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณภาพถนนในกรุงเทพฯ ซึ่งชาวเน็ตหลายคนก็สะท้อนความไม่ปลอดภัยของสภาพถนนเมืองไทย พร้อมกับที่ช่วงหลังๆ ก็มักจะมีข่าวถนนทรุดตัวออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯก็รุดเข้าตรวจสอบ ก่อนพบว่าคานเหล็กหักเนื่องจากฝาท่อปิดไม่เรียบร้อย
ชาวเน็ตตาดีเห็น “สติกเกอร์” หน้ารถ
เมื่อภาพถ่ายในสถานที่เกิดเหตุถูกส่งต่อในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนก็สังเกตเห็นสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว พร้อมตัวอักษร B ที่ติดอยู่หน้ารถ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเชื่อมโยงกับ “ส่วยสติกเกอร์” ที่เคยเป็นข่าวดังในช่วงก่อนหน้านี้หรือไม่ พร้อมเชื่อมโยงว่ารถบรรทุกเองนั่นแหละที่เป็นสาเหตุทำให้ถนนทรุดตัว เนื่องจากบรรทุกน้ำหนักเกิน
ด้านประธานสหพันธ์ขนส่งแห่งประเทศไทย ก็ออกมายืนยันว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นส่วยแน่นอน โดยเป็นสัญลักษณ์ว่าผู้ประกอบการใช้เคลียร์กับ สน.ท้องที่ เพื่อให้รถบรรทุกวิ่งระหว่างไซต์งานก่อสร้างในช่วงระยะเวลา 10 วัน และที่เป็นรูปดาวก็เพื่อให้รู้ว่าเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สามารถวิ่งนอกเวลาที่กำหนด และบรรทุกน้ำหนักเกินได้
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ลงพื้นเกิดเหตุ พร้อมกล่าวถึงกรณีสติกเกอร์ดาวสีเขียวที่ติดอยู่หน้ารถบรรทุกว่าต้องมีการสอบสวนด้วย
รถบรรทุกหนักถึง 37.45 ตัน
ผู้ว่ากรุงเทพฯ สั่งชั่งน้ำหนักรถและดิน เพื่อดูว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ โดยวางแผนว่าจะตักดินไปใส่รถคันอื่นก่อน แล้วใช้เครนยกรถขึ้นชั่ง จากนั้นนำน้ำหนักมาบวกกัน แต่เจ้าของรถบรรทุกกลับเดินทางมาโวยวาย ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพฯ ยกรถ อ้างว่ากลัวรถจะเสียหาย และจะขอเป็นคนตักดินและยกรถด้วยตัวเอง
แต่ก็มีคนถ่ายคลิปวิดีโอไว้ได้ว่าพอตักดินออกจากรถเสร็จ กลับไม่รอให้เจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนัก แต่กลับขับรถหลบหนีเข้าไปที่ไซต์ก่อสร้างแล้วเทดินทิ้งเลย นอกจากนี้ ยังมีพิรุธอีกมากมายที่ทำให้คนสงสัยว่ากำลังทำลายหลักฐานอยู่หรือไม่ ทั้งถอดป้ายทะเบียนรถออก เอาแกลลอนไปถ่ายน้ำมันออกจากรถ จนกลายเป็นดราม่าร้อนในโลกโซเชียล ที่ชาวเน็ตนั่งรถทัวร์มาลงอย่างคึกคัก
ต่อมา ได้มีการเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ชั่งน้ำหนักรถบรรทุกที่ตกหลุมเป็นที่เรียบร้อย และมีน้ำหนักถึง 37.45 ตัน ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 25 ตัน
B คือเจ้าของรถบรรทุกชื่อบิ๊ก
ผู้กำกับ สน.พระโขนง ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ “กรรมการข่าว คุยนอกจอ” ถึงประเด็นรถบรรทุกตกหลุมที่เกิดขึ้น ระบุว่าตอนแรกไม่ได้สังเกตสติกเกอร์ดาวสีเขียวที่ติดอยู่หน้ารถ แต่พอเห็นก็ได้สอบถามเจ้าของรถ และได้ความว่าเป็นสัญลักษณ์ชื่อย่อของเขา เนื่องจากเจ้าของรถชื่อเล่น “บิ๊ก (BIG)” ก็เลยทำสติกเกอร์มาติดไว้ที่รถบรรทุกทั้ง 5 คัน เพื่อให้คนขับรถของเขาเห็นได้ง่าย จำรถได้ง่าย
ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็ไปร่วมตรวจสอบประเด็นรถบรรทุกตกหลุมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยชี้ว่า ถ้ารถบรรทุกน้ำหนักเกิน ก็ต้องถูกดำเนินคดีอย่างจริงจัง แล้วต้องไล่ดูไปถึงตัวเจ้าของรถว่าเป็นใคร รู้เห็นเป็นใจกหรือไม่ในการบรรทุกน้ำหนักเกิน ถ้ารู้ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุก พนักงานสอบสวนก็แจ้ง 2 ข้อหา คือข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาขับรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก็ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและตำรวจในพื้นที่ว่าได้เข้าไปรับผลประโยชน์หรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการโดยเด็ดขาด