รู้จัก "เฟรม ฤทธิ์ชนนท์" จากครูฝึกสอนเด็กช่างกล สู่พระเอกซีรีส์วายTwins the Series
เฟรม ฤทธิ์ชนนท์ เผยชีวิตสุดพลิกผันจากครูฝึกสอน สู่พระเอกซีรีส์ Twins the Series (สลับรัก นักลูกยาง)
กำลังมาแรงแซงทุกโค้งเลยจริงๆ สำหรับซีรีส์ที่ส่งเสริมด้านกีฬาอย่าง Twins the Series (สลับรัก นักลูกยาง) ทางช่อง 3 HD นอกจากซีรีส์จะฮอตแล้วเหล่านักแสดงนำของเรื่องก็ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน วันนี้ Sanook.com พามารู้จักกับหนุ่มหล่อพระเอกซีรีส์วาย เฟรม-ฤทธิ์ชนนท์ ศรีประสิทธิ์เดชา ต้องบอกชีวิตพลิกผันมากจากครูฝึกสอน สู่พระเอกซีรีส์วาย
จากเด็กต่างจังหวัด ครูฝึกสอน สู่พระเอกซีรีส์วาย
"ต้องบอกว่าชีวิตเฟรมค่อนข้างที่จะห่างไกลกับคำว่าวงการบันเทิงมาก เฟรมเป็นเด็กช่าง คือตอนเด็กเราเป็นเด็กอ้วนดูทีวี พอเริ่มโตมาเราก็เรียน ก็เลือกเรียนทางช่างกล จบ ปวช. เรียนช่างยนต์ มาเรียนต่อ ปวส.เทคนิคยานยนต์ ไม่ได้สุดขนาดนั้น อย่ามองเด็กช่างว่าน่ากลัว ของเฟรมคือน่ารัก (หัวเราะ) มันเริ่มจากเราชอบเครื่องยนต์ ชอบรถยนต์ ชอบมอเตอร์ไซค์ ชอบดูแข่งรถมอเตอร์จีพี บ้านเฟรมอยู่ชลบุรี บ้านอยู่บางแสนเขาจะมีการแข่งขันรถประจำปีปิดถนนชายหาดแข่งขัน ทำให้เราซึมซับบรรยากาศชื่นชอบกีฬาความเร็ว เอ็กซ์ตรีม พอมีโอกาสได้เลือกเรียนก็เลือกเรียนช่างยนต์
"พอจบก็จะต่อปริญญาตรี เพื่อนๆ ชวนให้เรียนวิศวะ มาเรียนที่ลาดกระบัง แต่เพื่อนๆ แก๊งๆ ที่เรียนด้วยกันเขาเทเฟรม (หัวเราะ) เหมือนเขาเรียนจบแล้วก็หางานทำกันหมดแล้ว เขาใช้เวลามาเรียนแค่เสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาเขาทำงานกัน เลยไม่แมตซ์กันแล้ว"
"ตอนนั้นเราอยากเรียนต่อแต่ยังไม่มีสาขาในดวงใจ ทีนี้เพื่อนเฟรมก็ชวนอีกให้มาเรียนที่ ม.บูรพา ใกล้บ้าน สอบเข้าคณะศึกษาศาสตร์ ไปเป็นครูครับ เป็นครูเทคโนโลยีอุตสาหกรรม วุฒิของเฟรมคือสามารถเป็นคุณครูได้และสามารถทำงานอุตสาหกรรมได้ เป็นใบประกอบวิชาชีพคุรุศาสตร์ ครูช่าง ตอนที่จะมาเรียนเพื่อนก็หลอกมาเรียน (หัวเราะ) ให้มากรอกใบสมัครไว้"
"ตอนนั้นเป็นครูฝึกสอน สอนเด็กช่างครับ เหมือนเวรกรรมตามทันตอนสมัยปวช.ปวส. เราก็ซนของเราเหมือนกัน"
"ถ้าไม่ได้เป็นดาราก็คงไปเป็นอาจารย์ครับ จากเมื่อก่อนที่เราพูดไม่ค่อยเก่ง แต่พอมาเรียนปริญญาตรี เพื่อนๆมักจะให้ออกไปพูดอยู่ตลอด อาจารย์ก็เคยทาบทามครับว่าถ้าจบแล้วไม่ได้ทำอะไร ก็เป็นอาจารย์ที่คณะ แต่ชีวิตพลิกผันได้มาเป็นดารา อย่างที่บอกครับชีวิตเฟรมค่อนข้างไกลจากตรงนี้มาก ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต"
จุดเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่วงการบันเทิง
"เฟรมผ่านการแคสติ้งมาจากพี่ๆ ผู้จัดและทีมงานทุกคน เฟรมรู้ตัวอีกทีตอนถูกคัดตัวเข้าไปรอบ 20 คน ตอนนั้นที่ไปจะเห็นทุกคนยืนอยู่กันเต็มออฟฟิศเลย พี่ผู้จัดการบอกว่าเฟรมเดียวไปดูตัวแคสหน่อย ตอนนั้นไม่คิดว่าจะติด แต่ก็ติดได้เห็นรูปเราอยู่บนบอร์ดที่เป็นแผนผังเนื้อเรื่องแล้วว่าใครเป็นใคร ตกใจที่ตัวเองได้และก็ดีใจมาก ตอนนั้นได้ทำตามโจทย์ที่พี่ๆ เขาให้ เหมือนกับว่าคาแรกเตอร์ของเฟรมตรงกับที่พี่ๆ เขาตามหาด้วย"
"ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ตอนที่ได้ตื่นเต้นมาก แต่พอรู้ว่าเราเล่นเป็นใครตื่นเต้นเข้าไปอีก เพราะเราเล่นเป็นแฝด เป็นแฝดพี่กับแฝดน้องที่ต้องแยกกันไป ซี เป็นแฝดน้องเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล ความมุ่งมั่นคืออยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ ส่วนสไปรท์ เป็นแฝดพี่จะเป็นนักกีฬายูยิตสู"
ละครส่งเสริมการกีฬา ผ่านการเวิร์คชอปหนักหน่วง
"จริงๆ เฟรมเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว ตีแบต และพวกกีฬาเอ็กซ์ตรีม ถามว่าเคยเล่นวอลเลย์บอลไหมเคยเล่นสมัยเรียนเพราะอยู่ในวิชา แต่ไม่เคยเล่นแบบจริงจัง แต่ก็ดูวอลเลย์บอลที่เข้าแข่งขันในบ้านเราอันนี้ดูครับ ก่อนจะเปิดกล้อง เฟรมและเพื่อนๆ ต้องเข้าคลาส ไปฝึกอย่างจริงจัง ยังเคยพูดเล่นกับเพื่อนๆ เลยว่านี่เราจะไปเป็นนักแสดงหรือจะไปเป็นนักกีฬาทีมชาติ ไปซ้อมที่มหาวิทยาลัยรังสิต เขาจะมีทีมวอลเลย์บอลที่เป็นสโมสรเขาก็เอานักกีฬามืออาชีพมาเทรนด์เฟรม สลับกันมา บอกเลยว่ายากมาก เพราะว่าเฟรมไม่เคยตีเป็นจริงเป็นจังพอเราต้องมาอยู่ในกฎกติการการแข่งขัน แล้วเทคนิคแบลคทูเบสิกทุกอย่างไม่ง่าย"
"เรามองในทีวีเห็นพี่ๆ ทีมชาติตีกันแข่งกัน เราเชียร์เขา เห็นเขาตีกันสนุก ตีเก่ง แต่พอไปอยู่จริงๆ คือยากมาก วอลเลย์บอลเป็นกีฬาเข้าจังหวะจริงๆ เกมไว คือเฟรมต้องเริ่มตั้งแต่สมรรถภาพร่างกาย ไปจนปูพื้นฐานเลยครับ จนไปถึงกฎกติกา เราต้องผ่านทฤษฎี คือซ้อมต้องผ่านการยืด ถ้าเราไม่วอร์มร่างกายมันจะเจ็บ เพราะเราไม่เคยตีเลย"
"ยูยิตสู เหมือนกันเลยครับ เป็นกีฬาของญี่ปุ่น เฟรมได้รับเกียรติจากสมาคมยูยิตสูประเทศไทย คนที่มาเทรนด์เขาเป็นนักกีฬาแชมป์โลก คือระหว่างที่เฟรมมาซ้อม พวกพี่เขาก็เดินทางไปแข่งขันครับ ไปกวาดเหรียญทองมาให้ประเทศไทย และคนไทยก็เป็นแชมป์โลก การฝึกซ้อมคือโดนทุ่มจริงๆ รอยช้ำยังอยู่เลยครับ (หัวเราะ) เรียนประมาณ 1 ปีเต็มๆ ครับ บางวันเรียนควบสองกีฬาเลย"
"ผมชอบกีฬาฟุตบอล ชอบทีมแมสเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผมเป็นเด็กผีครับ"
มี ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นไอดอลของการทำงาน
"ต้องเท้าความตั้งแต่เด็กก่อน เฟรมจะอยู่กับคุณยายและคุณแม่ และที่บ้านเฟรมชอบเปิดละครดูตลอด ชอบดูช่อง 3 นี่แหละครับ ตอนนั้นพี่ณเดชน์ดังมาก คุณยายชอบพี่ณเดชน์มากๆ ผมดูแล้วเขาก็เท่มากๆ เวลาลงเตะบอล ยังไม่เคยได้เจอและร่วมงาน แต่ฝันว่าวันหนึ่งอยากเจอและได้ทำงานกับพี่เขาครับ"
ทุ่มเทเต็มร้อยเพื่องานที่รัก ขอบคุณทุกโอกาสที่สร้างให้มีวันนี้
"วางแผนอนาคต ณ ตอนนี้อยากเป็นศิลปินสร้างสรรค์ผลงานให้กับแฟนคลับ และทุกคนที่ผลักดันเฟรมมาโดยตลอดที่ซัพพอร์ตและสนับสนุนมาโดยตลอด ถือเป็นใบเบิกทาง ณ จากไปนี้เรื่อยๆ พฤศจิกายนนี้ออนแอร์แล้ว ขอให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเฟรมและของทุกๆ เพราะเราก็ตั้งใจทุ่มเทอย่างเต็มที่ หวังว่าในอนาคตจะได้ร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงท่านอื่นด้วย"