เนื้อหาในหมวด ข่าว

สรุปดราม่าร้อนแห่งซิลิคอนแวลลีย์ หลังบอร์ด OpenAI สั่งปลดผู้สร้าง ChatGPT

สรุปดราม่าร้อนแห่งซิลิคอนแวลลีย์ หลังบอร์ด OpenAI สั่งปลดผู้สร้าง ChatGPT

ข่าวดังในวงการเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นเรื่องบอร์ดบริหารบริษัท OpenAI ซึ่งเป็นเจ้าของ ChatGPT มีมติปลด “แซม อัลต์แมน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังแนวทางการบริหารบริษัทของเขาไม่มีความชัดเจนจนสั่นคลอนความเชื่อมั่น

เหตุการณ์นี้ไม่จบแค่การไล่ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ออกเท่านั้น แต่นำไปสู่ความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมาด้วยเช่นกัน Sanook สรุปดราม่าร้อนแห่งซิลิคอนแวลลีย์มาฝากทุกคน

OpenAI คืออะไร

OpenAI คือองค์กรวิจัยที่มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI/ เอไป) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2558 และมีแซม อัลต์แมน เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ซึ่งทีมงานมีความตั้งใจที่จะพัฒนาเอไอที่เป็นประโยชน์กับมนุษย์ โดย OpenAI ได้ดำเนินการวิจัยในด้านต่างๆ ทั้งแมชชีนเลิร์นนิ่ง วิทยาการหุ่นยนต์ และเศรษฐศาสตร์ พร้อมเปิดตัวเครื่องมือและโมเดลที่ก้าวหน้ามากมาย เช่น GPT-3 และ DALL-E เป็นต้น

ผลงานที่โดดเด่นมากๆ ของ OpenAI คือ ChatGPT ซึ่งเป็นรูปแบบการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ที่อ้างอิงจากโมเดล GPT-3 ที่ใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์ ทำให้ ChatGPT สามารถสร้างคำตอบที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความสมเหตุสมผล ทั้งมีน้ำเสียงและสไตล์ของข้อความเหมือนกับมนุษย์ โดย ChatGPT เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับแชตบอต การสร้างเนื้อหา และงานแปลภาษา เป็นต้น

ตอนที่เปิดตัว ChatGPT ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ของโลกทันที เมื่อคนหลายกลุ่มมองว่าเอไอจะเข้ามาแย่งงานมนุษย์

ไล่ผู้ก่อตั้ง ChatGPT ออกจากบริษัทตัวเอง

จนกระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) OpenAI ได้กลายเป็นข่าวดังสะเทือนวงการเทคโนโลยีโลกอีกครั้ง หลังจากอัลต์แมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท OpenAL เจ้าของ ChatGPT ถูกไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง โดยคณะกรรมการบริหารบริษัทได้กล่าวหาว่าแนวทางนโยบายการบริหารบริษัทของเขาไม่ชัดเจน ทำให้พนักงานหลายคนมองไม่เห็นทิศทางการเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุให้คณะกรรมการสูญเสียความเชื่อมั่นใจความเป็นผู้นำของอัลต์แมน

การปลดชายผู้ร่วมก่อตั้ง ChatGPT คนนี้ สั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีและซิลิคอนแวลลีย์เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากเปิดตัว ChatGPT ชื่อของอัลต์แมนก็กลายเป็นผู้บริหารสายเทคที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ทำให้ทั่วโลกตั้งคำถามต่อทิศทางในอนาคตของ OpenAI 

หลังถูกปลด อัลต์แมนได้โพสต์ข้อความลงบน X ระบุว่า “ผมรักช่วงเวลาที่ได้อยู่ที่ OpenAI ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับตัวผม และผมก็หวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งมากมาย หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะมาบอกคราวหลังนะ” 

ผลกระทบหลังปลดซีอีโอ

หลังบอร์ดบริหารมีมติปลดอัลต์แมนออกจากตำแหน่งซีอีโอ ก็ตั้งให้ มิร่า มูราติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ขึ้นเป็นซีอีโอชั่วคราว ทว่า ดราม่ากลับยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้น เมื่อเกร็ก บร็อคแมน ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับพนักงานระดับสูงอีกหลายคนของบริษัท 

ไม่ใช่แค่ผู้ร่วมก่อตั้งและพนักงานระดับสูงเท่านั้น แต่พนักงานของ OpenAI มากถึง 500 คน หรือคิดเป็น 70% ของบริษัทก็ประกาศจะลาออกและไปร่วมตั้งทีมใหม่กับอัลต์แมนที่ Microsoft หากบอร์ดบริหารไม่ลาออก และไม่ดึงอัลต์แมนกลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง 

OpenAI ตั้งซีอีโอใหม่

ดูเหมือนคำขู่ของพนักงานจะไม่ได้ผล เพราะล่าสุดบอร์ดบริหารของ OpenAI แจ้งกับพนักงานว่าอัลต์แมนจะไม่กลับมาทำงานที่นี่อีกแล้ว ก่อนประกาศตั้งเอมเมทท์ เชียร์ เป็นซีอีโอชั่วคราว แทนมูราติที่ถูกปลดออกไป โดยเชียร์เป็นอดีตซีอีโอของ Twitch เว็บไซต์สตรีมมิ่งวิดีโอเกม

ดูเหมือนว่าความวุ่นวายยังไม่จบลงแค่นี้ เพราะหลังพนักงานของ OpenAI ทราบว่าอัลต์แมนจะไม่กลับไปที่ OpenAI อีกแล้ว หลายคนก็รู้สึกผิดหวังกับการขาดการสื่อสารเกี่ยวกับการปลดซีอีโอ และพร้อมจะลาออกไปร่วมทำงานกับอัลต์แมน ที่ได้โพสต์ภาพตัวเองสวมป้าย “ผู้ติดต่อ” ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท Microsoft เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา