"เพชร พุ่มพวง" เปิดใจดราม่าสมบัติแม่ เผยเลขนำโชคที่มีคนชอบถามตลอด
ยอมรับตรงๆ เลยว่ากดดันสุดๆ สำหรับนักร้องหนุ่ม เพชร พุ่มพวง ทายาทคนเดียวของราชินีลูกผู้ล่วงลับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตามองเสมอ และด้วยความที่เป็นถึงลูกชายคนเดียวจึงทำให้เกิดคำถามก่อนหน้านี้อยากหลากหลายว่า สมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้มีตั้งเยอะหายไปไหนหมด แต่ทำไมทุกวันนี้ยังทำงานหนัก
ล่าสุด เพชร พุ่มพวง ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ Daily POP ทางยูทูบ Dailynews LIVE-TH โดยเจ้าตัวได้ย้อนเล่าถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาให้ฟังอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ที่คนสนใจเรื่องที่ออกมาชี้แจงปมมีสมบัติแม่ ไม่ต้องทำงานแล้ว แต่ความจริงต้องดิ้นรนอยู่และไม่มีเงินสมบัติใดๆ เลย จุดนี้อยากอธิบายอย่างไร ?
"ผมขออนุญาต พูดย้อนไปนิดนึง เพราะว่าช่วงนี้ผมทำ TikTok มีคนมาคอมเมนต์เยอะมากว่าลูกพุ่มพวง ผมรวย แต่ทำไมทำงานหนัก ผมได้มรดกเยอะแยะแต่ความจริงไม่ใช่เลย ตั้งแต่ผมโตมา ผมหาเงินเองทุกบาททุกสตางค์เลยครับ แต่ว่าที่เขามีเรื่องกันเรื่องมรดกคุณแม่ใช่ไหม ตอนนั้นผม 5 ขวบ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมเลยไม่รู้เรื่องเลย เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่"
เกิดเป็นลูกคนดัง ที่คนจับตามองสูญเสียความเป็นตัวเองไหม ?
"หลายคนคาดหวังว่าผมต้องร้องเพลงเก่งแบบคุณแม่ แต่ผมเป็นผู้ชาย เสียงอะไรก็ไม่เท่าแล้ว คุณแม่เขาโตมาในความเป็นลูกทุ่ง เขาก็ซึมซับตรงนี้มาล้านเปอร์เซ็นต์แล้ว คุณแม่ร้องเพลงดีมาก ร้องเอื้อนลูกคอเขาร้อยๆ ชั้น ผมโตมากับเพลงสตริงส่วนใหญ่ เลยร้องเพลงแนวสตริง ก็มีหลายคนต่อว่านะ ทำไมร้องเพลงไม่เหมือนแม่ ผมคิดว่าเราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ ต้องใช้เวลาอย่างเดียว พิสูจน์ในเรื่องนี้"
การเป็นลูกคุณแม่ผึ้ง พุ่มพวงทำให้เพชรกดดันไหม ?
"สุดๆ เลยครับ(ยิ้ม) ตั้งแต่เด็กๆ ด้วยซ้ำไป บางทีเราก็ไม่อยากร้องเพลง แต่เขาก็อยากให้เราร้องเพลง ลูกนักร้องก็ต้องร้องเพลง พอเราโตขึ้นก็เข้าใจในธรรมชาติของโลก แต่ละคนก็นานาจิตตังครับ"
ถ้าไม่ได้เป็น เพชร พุ่มพวง วันนี้ เรามีแนวเพลงถนัดหรืออยากร้องเพลงแนวไหน ?
"ผมอยากเป็นนักร้องเพลงร็อคครับ (หัวเราะ) ผมโตมากับเพลงพวกนี้ แต่เราเป็นลูกแม่ผึ้ง ทำให้เราต้องกดความเป็นตัวเองไว้บ้าง ถามว่าเสียดายไหมที่ยังไม่ได้เป็นนักร้องเพลงร็อค ผมมองว่าเอาไว้อาจจะได้ทำสักวันนึง วันที่เราพร้อมครับ ผมว่าผมชอบยุคสมัยนี้นะ เพราะคนเริ่มเปิดใจมากขึ้น เพราะเป็นยุคของโซเชียลมีเดีย เพราะว่าก็มีน้องๆหลายคนที่เป็นลูกศิลปินดารา ที่ร้องเพลงคนละแนวกับพ่อหรือแม่เขา พอเริ่มเปิดขึ้น คนก็เริ่มยอมรับมากขึ้น ผมก็ดีที่ยังทันยุคนี้อยู่ ถามเสียดายยุคก่อนๆไหม มันก็เสียดายอยู่แล้ว"
"ผมเคยมีครั้งหนึ่งที่รู้สึกเบื่อมากกับการที่ร้องเพลงในแนวที่เราไม่ถนัด แนวลูกทุ่ง ไม่อยากร้องเพลงแบบแม่ หลายครั้งเลย แต่เวลาที่ผมขึ้นไปบนเวที เวลาที่ผมเห็นคนที่เขาฟังเพลงแม่ผมแล้วร้องไห้ เห็นคนมีความสุขทำให้ผมเห็นว่าการเป็นศิลปินมันไม่ใช่ร้องเพลงเพื่อตัวเรา อาจจะเป็นการร้องเพลงให้คนอื่นเขาแฮปปี้ เขามีความสุขมากกว่า ก็รู้สึกว่าผมอยากจะทำหน้าที่ของการเป็นลูกของแม่ผึ้งให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง แต่เรื่องเพลงสตริง เพลงร็อคผมอาจจะมีโอกาสทำครับ ตั้งแต่เด็กหม่าหม้าเปิดเพลงสตริงให้ผมฟังนะ ไม่ได้เปิดเพลงลูกทุ่ง มาม้าเปิด อัสนี วัตสัน,ไฮร็อค, หิน เหล็ก ไฟ ผมเลยมาสายนี้ตั้งแต่เด็ก(ยิ้ม)"
สนิทกับพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ?
"ตอนเด็กๆ ก็สนิททั้งสองท่านนะครับ แต่พอคุณแม่เสียชีวิต ผมก็เลยสนิทกับคุณพ่อ อาจจะเป็นด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกันด้วย เลยสนิทกันมากครับ"
ในอดีตที่ผ่านมา เพชร พุ่มพวง เมื่อย้อนไปดูข่าวเก่าๆ เราจะเห็นข่าวแนวลบเยอะ และมีข่าวแรงๆ เยอะมากรู้สึกอย่างไร ?
"ผมก็ย้อนกลับไปดูบ้างนะ และคิดว่าถ้าเป็นเราตอนนี้ เราคงจะใจเย็นกว่าตอนนั้น และให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเครื่องพิสูจน์ ช่วงนั้นผมใจร้อน มันมีหลายสถานการณ์มากๆที่ทำให้ผมระเบิดออกมาตอนนั้น หมายถึงคลิปที่ผมเป็นพระตอนที่ระเบิดตอนนั้นนะ ก็นั่นแหละครับ จีวรบินเลยครับตอนนั้น (หัวเราะ) แต่ความเป็นจริงแล้วเราก็รู้สึกเสียใจนะ เวลาเราดูตัวเอง เราก็เสียใจนะ เราน่าจะใจเย็นกว่านี้ครับ"
ถ้าให้กลับไปแก้ไขอดีตได้ อยากกลับไปแก้ไขตอนนั้นไหม ?
"ครับ คงเป็นเรื่องความใจเย็น คือมันทำให้ผมเข้าใจวัยรุ่นเหมือนกันนะ ตอนนั้นเราไฟแรง พออายุเยอะขึ้น มันจะบาลานซ์กัน ตอนนั้นยอมรับว่าพลาดไป เพราะผมไม่ได้สนใจเลยว่ามีกล้องเยอะ นักข่าวเยอะ"
ตอนนี้เข้าใจในวัฏจักรของมันมากขึ้นไหม ?
"ยอมรับว่าเราเป็นใคร ยอมรับว่าสถานการณ์และเป็นยังไง"
หลังจากนั้นได้ปรับความเข้าใจกัน กับคุณพ่อและท่านอื่นๆ ความสัมพันธ์กับฝั่งญาติพี่น้องแม่เป็นอย่างไร ?
"ปกติครับ น้าๆ ผมก็เฮฮา ผมก็เพิ่งไปเจอคุณพ่อมาที่งาน เพราะมีงานครับ ซึ่งหลังจากที่มีคลิปนั้นก็ที่มีคลิปผมเป็นพระก็ใช้เวลานานนะ กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2557 เลย แล้วตอนนั้นผมก็อยู่กับทางท็อปไลน์ก็ปรึกษากับคุณอาว่าป๊า (ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์) เป็นอย่างไรบ้าง ผมเป็นห่วงป๊า หลังจากนั้นนายห้างก็ติดต่อป๊าให้ และมาเจอกัน หลังจากนั้นก็ดีกัน ก็ปกติ"
หลังจากนั้นก็ได้เห็นภาพดูแลคุณพ่อมากขึ้น คนเลยเริ่มเข้าใจและรักเพชร พุ่มพวงมากขึ้น รู้สึกอย่างไร ?
"อย่างมันใช้เวลาครับ ก็อย่าใจร้อนเนอะ ทุกอย่างมีเวลาของมัน(ยิ้ม)"
ส่วนเรื่องที่คนบอกว่าชอบเกาะใบบุญ แม่ผึ้ง พุ่มพวง รู้สึกอย่างไร ?
"ไม่ได้ตั้งใจจะเกาะนะ เป็นลูกแม่ผึ้งนะ คนเลยคิดแบบนั้น เพราะเรามีความคล้ายแม่ด้วย ถามว่าติดใจไหม ที่คนต่อว่าตลอดว่าเกาะกระแสแม่ ก็ไม่นะครับ เพราะถ้าจะเกาะก็ตั้งแต่เกิดแล้วมั้ง คำว่าน้องเพชรอ่ะ ขนาดเด็กตัวเล็กๆยังเรียกผมว่าน้องเพชรอยู่เลย (ยิ้ม)"
ทุกวันนี้ก็ยังดิ้นรนทำงานปกติ ไม่ได้มีเครดิตความเป็นลูกแม่แล้วสุขสบายใช่ไหม ?
"ใช่ครับ ยังทำงานปกติ บางเดือนยังมีเดือนชนเดือนเลย ก็เรื่องทั้งหมดที่ผมออกมาชี้แจง ผมแค่อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้เป็นลูกพุ่มพวงแล้วจะสบายนะ บางคนคิดว่าลูกพุ่มพวงรวยอยู่แล้ว ไม่ต้องให้งานเขาหรอก มีนะครับคนที่คิดแบบนี้ แต่ผมอยากบอกว่าจ้างได้นะครับ ทั้ง 3 แพลตฟอร์มเลยไม่ว่าจะเป็น Facebook , TikTok , IG ก็ชื่อ “เพชร พุ่มพวง” ครับ ติดต่อจ้างงานได้ครับหรือที่ผู้จัดการผม 0654358388 คุณลูกโป่งได้ครับ ค่าตัวไม่แพงครับ ผมธรรมดาเลยครับ(ยิ้ม)"
ทุกวันนี้ทำงานอะไรบ้าง ?
"ทุกวันนี้ผมจัดการที่ FM 95 ลูกทุ่งมหานคร และมีงานร้องเพลงด้วยปะปนกันไป แต่ไม่มีเงินก้อนลงทุนทำธุรกิจจริงจังทุกอย่างเลย ผมยังสู้เหมือนทุกคนเลย จ้างได้ครับ"
เรื่องตัวเลขที่คนคิดว่า เพชร พุ่มพวง จะชอบและมักจะขอเลขจากเราเสมอ เล่าเหตุการณ์สักหน่อย ?
"เอาจริงๆ นะ(หัวเราะ) อย่างที่บอกผมพยายามหนีตลอด แต่ด้วยความที่แฟนเพลงก็คาดหวังเยอะ ถ้าผิดผมขอโทษด้วยนะครับ ผมทำตามคำขอของทุกคน ก็มีคนที่ให้ผมจับเลขให้และผิดมาด่าผม ก็ปล่อยเขาไป ไม่รู้ทำไงดี"
เลขนำโชคสำหรับ เพชร พุ่มพวง มีไหม เลขไหน ?
"เท่าที่ผมชอบที่สุด และเวลาผมเล่นกีฬาหรืออะไร ส่วนใหญ่ผมได้เลข 13 และ 9 นะ ส่วนใหญ่เลยครับ(ยิ้ม) ผมไม่รู้เกี่ยวไหม บางคนอาจจะมองว่า 13 ไม่ดี บางคนอาจจะมองว่าดีก็ได้ แต่สำหรับผมวันที่ 13 เป็นวันที่ผมเสียคุณแม่ไป แต่วันที่ 9 คือวันเกิดของผม เป็นวันที่แม่ผมให้ผมมาเกิดตรงนี้ เลยรู้สึกว่าผูกพันกับเลขนี้ครับ แต่ผมก็ทำงานครับ เน้นทำงานอย่างเดียว จ้างได้ครับ"