เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"บิ๊ก ณทรรศชัย" กล้าซื้อก็กล้าขาย เจอออเดอร์แรง! ขอซื้อ กนน. ใช้แล้ว ห้ามซัก

ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระอีกคนนึงแล้วสำหรับหนุ่มแซ่บ บิ๊ก-ณทรรศชัย จรัสมาส ที่ได้หมดสัญญากับวิกหมอชิตไปเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้เปิดใจในงาน RISERA GRAND OPENING เปิดตัวแบรนด์ RISERA (ไรซ์เซร่า) สกินแคร์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทยกับนวัตกรรม Fill Oléoactif ณ Gaysorn Urban Resort, The Crystal Box

ว่าตอนนี้ มีละครและซีรี่ส์วายติดต่อเข้ามา ประกาศพร้อมเล่นจัดเต็มแบบไม่มีลิมิต และยังได้พูดถึงประเด็นแรง!!! หลังมีคนขอซื้อกางเกงในและถุงเท้าที่ใช้แล้วกลางไลฟ์ขายของ พร้อมสั่งห้ามซักและให้ส่งแบบใส่ถุงรัดหนังยางเพราะกลัวกลิ่นหาย

เรื่องหมดสัญญากับช่อง 7 ?
“ครับผมก็เพิ่งหมดสัญญากับทางช่อง 7 ครับผม หมดสัญญาไปตอนเดือนธันวาครับ ตอนนี้เป็นอิสระแล้วครับ”

ทำไมถึงอยากตัดสินใจเป็นอิสระ ?
“ก็จริงๆ ผมอยู่กับช่อง 7 มาตั้งแต่เด็กอ่ะครับ ตั้งแต่อายุ 20 ตอนนี้ก็ 32 แล้วครับ ก็รู้สึกว่าเราก็อยากจะไปหาความท้าทายใหม่ๆ ครับผม”

มีค่ายอื่นมาติดต่อทาบทามบ้างไหม หรือตั้งใจที่จะเป็นอิสระไปเลย ?
“ก็มีครับ มี มีติดต่อซีรีส์มาครับผม จริงๆ เราก็กะจะเป็นอิสระยาวๆ เหมือนกัน อาจจะไม่ได้สังกัดที่ไหน อาจจะแบบว่าเปิดกว้างให้ตัวเองได้ไปเล่นหลายๆ ที่ ทำผลงานได้ในหลายๆ ที่ครับ”

มีข่าวว่าซีรีส์วายก็ติดต่อมา ?
“ใช่ครับ ซีรีส์วายจริงครับ ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าเรื่องอะไรครับผม ก็อยากฝากติดตามครับ”

เป็นการพลิกคาแรกเตอร์ของเราจากที่เคยเห็นใช่ไหม ?
“ผมว่าพลิกเลยนะ เพราะว่าผมเคยดูซีรีส์วายที่น้องๆ แสดงอยู่หลายเรื่อง ก็รู้สึกว่าก็ท้าทายนะถ้าเราต้องไปเล่นอะไรอย่างงี้ มันพลิกจากที่เราเล่นละครดราม่า บู๊อะไรอย่างนี้ ก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นแบบว่าหนังวายครับ”

ซีรีส์วายจะดุดันขนาดไหน ?
“ผมว่าน่าจะดุดันตามความแบบว่า คือปกติแล้วทุกคนจะเห็นภาพผมเป็นแนวเซ็กซี่อะไรอย่างนี้ครับ ผมว่าเขาก็น่าจะวางแนวแบบว่าน่าจะเซ็กซี่มากๆ เลยครับผม”

แล้วเรามีลิมิตเล่นได้สุดเบอร์ไหน ?
“จริงๆ แล้วในความคิดผมนะครับ ก็เล่นได้สุดทุกเบอร์เลยครับ เพราะว่าเราคิดเสมอว่าเราเป็นนักแสดง เรารับบทมาแล้ว เราก็ต้องเป็นตัวละครนั้นให้ได้ แล้วก็เต็มที่ครับ”

ตอนไลฟ์ขายของคือใส่กางเกงขาสั้นเลย แฟนๆ เรียกร้องหรือว่ายังไง ?
“ใช่ครับ ปกติแรกๆ ก็ไลฟ์สดปกติเนี่ยแหละครับ หลังๆ เรารู้สึกว่าไลฟ์สดแล้วแบบว่าได้ตังค์ด้วย ก็เลยเอาของที่บ้านมาขาย เสื้อผ้าของตัวเอง แล้วตอนนี้ก็มีของเพื่อนๆ ของคนโน้นคนนี้บ้างอะไรอย่างนี้ แล้วก็ส่วนมากจะเป็นพวกเสื้อผ้าออกกำลังกาย กีฬา กางเกงขาสั้นอะไรอย่างนี้ เพราะว่าลูกค้าของเราก็จะเป็นแนวแบบว่า LGBTQ ซะส่วนใหญ่ครับ”

คนหลุดโฟกัสเยอะเหมือนกัน ?
“ใช่ คือบางทีมันก็จะมีกางเกงหลากหลายไซส์ บางทีเราใส่ไซส์เล็กไป มันก็อาจจะแบบว่ามีหลุดไปบ้างนิดหน่อย อะไรอย่างนี้ครับผม”

ถือเป็นจุดขายของเราเลยไหมกับการขายของไม่ใส่เสื้อ ?
“จริงๆ มันก็เป็นคาแรกเตอร์ผมโดยตรงเลยครับ เรื่องการไม่ใส่เสื้อ เพราะจริงๆ เป็นคนไม่ค่อยชอบใส่เสื้ออยู่แล้ว”

มีการเรียกร้องถึงขั้นขอซื้อกางเกงในจริงไหม ?
“มีครับ แรกๆ คือเขาก็เห็นแค่ขอบ (กางเกงใน) เพราะว่าเราไม่ได้ใส่เสื้อ เราก็คิด เอ๊ะ !จะดีไหมนะ แล้วเขาก็ถามบ่อยมากนะ หลายๆ คนเลย เราก็รู้สึกว่ามันก็ขำๆ ดี ก็มีบ้างครับ ก็ขายไป 2-3 ตัว เพื่อเอนเตอร์เทน เขาก็บอกว่าขอแบบว่าอย่าพึ่งซักอะไรอย่างนี้ ถ้าซักราคามันตกอะไรอย่างนี้”

เราบ้ายุด้วยเหรอ ?
“คือเราเป็นคนใจถึงอยู่แล้วครับ ผมไม่ค่อยเป็นคนขี้อายอะไรเท่าไหร่ ผมก็บอก ถ้าพี่กล้าซื้อ ผมก็กล้าขายนะ"

ขายไปเท่าไหร่ ?
"ประมาณ 4-5 พันครับผม ไม่ซัก คือห้ามซักครับ”

เรากลัวไหมว่าคนจะคิดไปในทางไม่ดี ?
“คือเราก็บอกในไลฟ์ตลอดว่าเราไม่ได้ไปสื่อถึงทางนั้น คือพี่ๆ อยากได้เนี่ย ผมจัดให้ ผมเป็นคนที่แบบว่าใจถึงอยู่แล้ว แล้วก็คือเหมือนกับว่า เค้าชอบอะไรที่แบบว่าความเรียลของเรา ก็คือแบบว่าเราออกกำลังกายมา กางเกงเปียกเหงื่อ บางทีใส่เสื้อผ้าที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จอะไรอย่างนี้ เขาก็เอฟทั้งชุดเลย เขาบอกว่าห้ามซัก”

วิธีการคือให้ห่อใส่ถุงเพื่อไม่ให้กลิ่นหายด้วยเหรอ ?
“อ๋อ มีพี่บางท่านซื้อถุงเท้าผมอะไรอย่างนี้ เขาบอกว่าขอใส่แบบไม่ซักมานาน แล้วเวลาส่งเขาบอกว่าให้ใส่ถุงแกงแล้วมัดปากถุงรัดหนังยาง ผมก็งงว่าแบบว่า โอเคครับ ได้ครับอะไรอย่างนี้”

ตามใจลูกค้าขนาดนั้นเลยเหรอ ?
“คือลูกค้าขออะไร เราก็ก็ตามใจครับ”

ขายไปได้เยอะไหม ของที่บอกว่าไม่ต้องซัก ?
“ช่วงแรกๆ มันจะเป็นเสื้อผ้าของเราซะส่วนใหญ่ เราก็ขายไปเยอะ บางทีเราก็ยังไม่ได้ซัก ก็เอามาขึ้นไลฟ์บ้างอะไรอย่างนี้”

ในความคิดเรา คิดว่าเขาเอาไปทำอะไร ?
“ผมก็ไม่แน่ใจอ่ะครับ ไม่กล้าพูดเหมือนกันว่าเอาไปทำอะไรต่อ ก็คือก็คิดในแง่ดี เราเป็นคนมองโลกในแง่บวก คือเราไม่ได้คิดส่อเสียดไปในทางไม่ดี เราคิดว่าคนเราเขาชอบเรา เขาชื่นชอบเราอะไรอย่างนี้ เราก็ให้สิ่งดีๆ ตอบแทนเขาได้ อันนี้ก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี บางคนอาจจะมองว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีอาจจะเป็นเรื่องที่อะไรอย่างนี้"

กางเกงในของใช้ ?
"อ่า ของใช้ แต่เราก็คิดว่าเป็นการอินเตอร์เทนลูกค้า ตัวนี้เราก็อาจจะมีหลายตัว ถ้าเขาอยากได้เราก็ให้ได้ แต่ว่าเราก็ไม่ได้ขายทุกครั้ง หลังๆ เราก็ไม่ขายแล้ว เราก็ขายแค่แบบว่า 2-3 ครั้ง ก็พออะไรอย่างนี้ครับผม”

ไม่ได้มีอะไรแถมติดไปใช่ไหม ?
“มีแถมกลิ่นครับ ถ้าเป็นพวกถุงเท้า หรือว่าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วมันก็จะมีกลิ่นติดไปบ้างอะไรอย่างนี้ แต่เราก็มั่นใจว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนตัวเหม็นอะไรขนาดนั้นนะครับ”