เนื้อหาในหมวด ข่าว

เปิดไทม์ไลน์ \

เปิดไทม์ไลน์ "ศรีสุวรรณ" โดนรวบ หลังเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว

กลายเป็นประเด็นดังสะท้านสังคมในทันที หลังจากพี่ศรีศรีสุวรรณ จรรยา” เจ้าของฉายานักร้อง (เรียน) ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงิน 1.5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนถูกควบคุมตัวมาสอบสวนตลอดทั้งคืน เหตุการณ์นี้ทำให้โลกโซเชียลลุกเป็นไฟ เมื่อชาวเน็ตต่างให้ความสนใจคดีที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จนหลายคนตั้งคำถามว่าหรือเหตุการณ์นี้จะเป็นจุดจบของนักร้องคนดัง 

ทั้งนี้ เรื่องของคดีก็ยังต้องเข้าไปต่อสู้กันในศาล แต่คดีดังนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมพี่ศรีถึงพลาดท่าแบบนี้ Sanook สรุปไทม์ไลน์ประเด็นร้อนของศรีสุวรรณ จรรยา ที่เชื่อว่าหลายคนอยากรู้จุดจบของเรื่องนี้เต็มทนแล้ว

พี่ศรีโดนซ้อนแผน

ก่อนหน้านี้ ศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวชื่อดัง เจ้าของฉายา “นักร้อง (เรียน)” ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าวันศุกร์ที่ 26 ม.ค. 2567 เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นคำร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบผู้บริหารกรมการข้าว เนื่อจากพบข้อพิรุธที่อาจส่อไปในทางทุจริต อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไปในช่วงสายของวันเดียวกัน ขณะที่ศรีสุวรรณก็แจ้งยกเลิกหมายแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 

ในวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้นำหมายเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด เพื่อจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการข่มขู่เรียกเงินจากเจ้าหน้าที่รัฐ 

เป้าหมายสำคัญคือบ้านพักของศรีสุวรรณ หลังผู้เสียหายส่งตัวแทนนำเงินสด 5 แสนบาทไปส่งมอบให้ภรรยาของศรีสุวรรณ ต่อมามีการหยิบซองเข้าไปภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ศรีสุวรรณไหวตัวทัน และพยายามวิ่งนำซองเงินไปโยนทิ้งข้างบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ติดตามจนสามารถยึดคืนกลับมาได้ ก่อนจะแสดงหมายจับให้เจ้าตัวรับทราบ และควบคุมตัวไปสอบสวน

ผู้ร่วมขบวนการเรียกเงิน

ไม่ใช่แค่ศรีสุวรรณเท่านั้นที่โดนคดีนี้ แต่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางยังได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คน นั่นคือ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” และพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าควบคุมตัวทั้ง 2 คนในวันเดียวกัน ก่อนจะส่งตัวไปตำเดินคดีที่ บก.ปปป. ต่อไป

ทั้งนี้ เจ๋ง ดอกจิก คือประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพีระพันธุ์ สาลิรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่พิมณัฏฐา เป็นอดีตผู้สมัคร สส.อุตรดิตถ์ ​พรรครวมไทยสร้างชาติ

เปิดพฤติการณ์ต่อรองรีดทรัพย์

ในช่วงเย็นของวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เปิดแถลงข่าวการรวบตัวศรีสุวรรณและพวกที่เรียกรับเงินเจ้าหน้าที่รัฐ แลกกับการไม่ร้องเรียนหรือกลั่นแกล้งให้ถูกตรวจสอบ โดยใช้เวลารวบรวมหลักฐานมากกว่า 4 เดือน ซึ่งณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เป็นผู้ร้องเรียน และนำมาสู่แผนการจับกุมในครั้งนี้ 

พฤติการณ์ของศรีสุวรรณและพวกคือ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ากำลังเตรียมเปิดโปงกการทุจริตในกรมการข้าว จากนั้นก็ได้ติดต่อมาเจรจากับณัฏฐกิตติ์ พร้อมยื่นข้อเสนอเรียกเงิน 3 ล้านบาท แลกกับการยุติการร้องเรียน แม้ณัฏฐกิตติ์จะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด แต่ศรีสุวรรณและพวกก็ยื่นเรื่องร้องเรียนพร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณัฏฐกิตติ์จึงต่อรองจ่ายเงิน 1.5 ล้านบาท โดยจ่ายเงินงวดแรกจำนวน 1.4 แสนบาท ก่อนแอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนส่งมอบเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ณัฏฐกิตติ์และภรรยาเริ่มต้นเก็บพยานหลักฐาน ทั้งข้อความจากไลน์ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง และข้อมูลอื่นๆ จนชัดเจนเรื่องการกระทำผิด จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ ปปป. เพื่อขอความเป็นธรรม

ศรีสุวรรณปฏิเสธข้อกล่าวหา

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำศรีสุวรรณและเจ๋ง ดอกจิก เป็นเวลานานเกือบ 9 ชั่วโมง ศรีสุวรรณให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนวางเงินสด 400,000 บาทเพื่อขอประกันตัว โดยหลังได้รับการประกันตัว ศรีสุวรรณยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว ส่วนที่โยนเงิน 500,000 บาททิ้งข้างบ้าน เป็นเพราะตนไม่ทราบที่มาที่ไปของเงิน มีคนนำเงินมาแขวนไว้ที่บ้าน ภรรยาจึงนำเงินดังกล่าวมาให้ 

ศรีสุวรรณยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่เสียขวัญและยังมีกำลังใจดี พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตเช่นเดิม โดยศรีสุวรรณยืนยันว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

ด้านเจ๋ง ดอกจิก ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง พร้อมกันนั้น ก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาทเพื่อขอประกันตัว เช่นเดียวกับพิมณัฏฐา ที่ได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาท