ผลตรวจน้ำคลองสีชมพู ออกแล้ว อว.ใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 600 เท่าส่อง
ผลตรวจออกแล้ว น้ำในคลองบางแพรก หลังห้างค้าปลีก สาขาติวานนท์ กลายเป็นสีชมพู อว. ใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 600 เท่า สะพรึงกว่าที่คิด
จากกรณีบริเวณคลองบางแพรก หลังห้างค้าปลีก สาขาติวานนท์ ปรากฏว่าน้ำในคลองเป็นสีชมพู ทำประชาชนพากันหวาดกลัว ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด เฟซบุ๊ก กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. รายงานว่า นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) ได้รับสั่งการจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว. ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาคุณภาพน้ำสีชมพูในคลองบางแพรกบริเวณหลัง big c สาขาติวานนท์ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์น้ำสีชมพูโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ (Compound light microscope) กำลังขยาย 600 เท่า พบว่ามีจุลินทรีย์สีชมพูอยู่จำนวนมาก สันนิษฐานว่าเป็นแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง (purple sulfur bacteria) ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู
โดยแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงเป็นแบคทีเรียแบบไม่ใช้ออกซิเจน มักพบในสภาพแวดล้อมของน้ำที่มีการแบ่งชั้น รวมถึงน้ำพุร้อน และแหล่งน้ำนิ่ง ซึ่งน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพเป็นน้ำนิ่งเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเมื่อน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพไร้อากาศ หรือมีความสกปรกสูงจึงเป็นสภาวะที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงโดยจะใช้กรดอินทรีย์ในน้ำเสียและไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นอาหาร รวมทั้งใช้แสงแดดในการสังเคราะห์พลังงาน
ซึ่งแนวทางแก้ไขออกซิเจนในคลองบางแพรกควรติดตั้งเครื่องเติมอากาศ หรือลดภาระความสกปรกในรูปของสารอินทรีย์ในคลองบางแพรก เช่น การควบคุมแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ทิ้งลงคลองฯ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกิจกรรมนั้นๆ และข้อแนะนำสำหรับประชาชน ห้ามนำน้ำในคลองดังกล่าวมาใช้อุปโภค บริโภค เด็ดขาด ให้ระวังการสัมผัสน้ำในคลอง หากมีการสัมผัส ให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ทันที
ซึ่งหลังจากนี้ วศ.จะร่วมประชุมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป