สมศ. ยกเครื่องผู้ประเมินภายนอก ยกระดับคุณภาพการศึกษาเชิงรูปธรรม
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เตรียมความพร้อมผู้ประเมินภายนอกก่อนลงพื้นที่ประเมินสถานศึกษากลางปีนี้ พร้อมพัฒนาหลักสูตรเพื่ออบรมเพิ่มศักยภาพผู้ประเมินอย่างรอบด้าน ทั้งการทดสอบสมรรถนะเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) หลักสูตรการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประเมินภายนอกด้วยการเรียนรู้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e – Learning) จากนั้นพิจารณาร่วมกับคะแนนผลการประเมินการปฏิบัติงานผู้ประเมินภายนอก (QC 100) เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อทดสอบสมรรถนะผู้ประเมินภายนอก
โดย สมศ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพผู้ประเมินภายนอก เพราะผู้ประเมินภายนอกเป็นเสมือนตัวแทนของ สมศ. ในการประเมินคุณภาพภายนอกและให้ข้อเสนอแนะกับสถานศึกษา เพื่อให้การประเมินคุณภาพภายนอกเป็นการประเมินโดยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อที่จะสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์กับสถานศึกษาและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา สมศ. กล่าวว่า สมศ. มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ก่อนที่จะเริ่มการประเมินคุณภาพภายนอก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 โดยการส่งเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกให้แก่สถานศึกษา การพัฒนาเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการประเมิน และการจัดอบรมเพื่อพัฒนาเพิ่มความรู้สร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประเมินภายนอกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประเมินภายนอกของ สมศ. ทุกคนต้องผ่านการอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอก และต้องผ่านการทดสอบครบถ้วนทุกหัวข้อตามที่กำหนดเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ลงพื้นที่ประเมินสถานศึกษา โดยผู้ประเมินภายนอกต้องเข้ารับการอบรมเรียงลำดับตามนี้
“สมศ. มุ่งหวังให้การประเมินคุณภาพภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาไปในทางที่ดีขึ้น โดย สมศ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพผู้ประเมินภายนอก เพราะผู้ประเมินภายนอกเป็นเสมือนตัวแทนของ สมศ. ที่ทำการประเมินคุณภาพภายนอกและให้ข้อเสนอแนะกับสถานศึกษา สมศ. จึงจำเป็นจะต้องพัฒนาให้ผู้ประเมินภายนอกเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อที่จะสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ตรงกับบริบทของสถานศึกษาและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง” ดร.นันทา กล่าวทิ้งท้าย