ซอฟต์พาวเวอร์ของจริง! ยอดขาย "กระจูดรายา" พุ่งเท่าตัว หลังนายกฯ เศรษฐา หิ้วไปเยือนปารีส
สืบเนื่องจากการลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสของ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ในกิจกรรมเที่ยวใต้สุดใจ เมื่อวันที่ 29 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ทางจังหวัดนราธิวาสได้นำกระเป๋าสานกระจูดของทางวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์กระจูดบ้านพรุกาบแดง (กลุ่มกระจูดรายา) มาเป็นของที่ระลึกต้อนรับในการมาเยือนของนายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรีได้นำกระเป๋าสานกระจูดดังกล่าวติดตัวไปใช้ในการเดินทางปฏิบัติภารกิจ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้ขณะนี้ทางวิสาหกิจชุมชนฯ มีชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืนมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
กุเเวรายะ กุโน ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์กระจูดบ้านพรุกาบแดง (กลุ่มกระจูดรายา) กล่าวว่า เมื่อทราบว่าทางจังหวัดนราธิวาสได้คัดเลือกให้กระเป๋าสานกระจูดของทางกลุ่มเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อมอบให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะในการลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ก็ทำให้ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมากที่สินค้าของตนได้เป็นเหมือนตัวเเทนของจังหวัดนราธิวาสเพื่อมอบสู่มือของนายกรัฐมนตรี
โดยลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์คือเป็นการแปรรูปจากการสานเสื่อธรรมดา นำมาต่อยอดขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย ในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่จะนำมาทั้งจากในหมู่บ้านและพื้นที่ข้างเคียง ตลอดระยะเวลารวมกว่า 17 ปีในการดำเนินการ ขณะนี้ทางกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 20 ครัวเรือน รวมกว่า 100 ชีวิต และยังสร้างเครือข่ายขยายไปในอีก 4 หมู่บ้าน เพื่อเสริมกำลังในการจัดหาวัตถุดิบและผลิตสินค้าให้ทันกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ภายในกลุ่มสมาชิกของเรา 70 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มเด็กเยาวชนคนในพื้นที่ เพราะว่ามุ่งส่งเสริมให้เยาวชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไม่ให้สูญหายไป และยังเป็นการช่วยให้เด็กรุ่นใหม่มีรายได้ สามารถแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ จากเดิมที่มีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ พอมีรายได้หล่อเลี้ยงกลุ่ม แต่ทันทีที่ปรากฎภาพของนายกรัฐมนตรีใช้กระเป๋าสานกระจูดของทางกลุ่มในการเยือนกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเทศ ก็ทำให้มีการติดต่อสั่งซื้อสินค้าเข้ามากับทางกลุ่มอย่างมากมายชั่วข้ามคืน เรียกได้ว่า กระเเสจากนายกรัฐมนตรีทำให้ทางกลุ่มได้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ มีออเดอร์หลั่งไหลมาตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน แอดมินทั้ง 3 คนต้องรับออเดอร์ตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะสั่งซื้อกระเป๋าเอกสารแบบที่นายกรัฐมนตรีถือ และอีกส่วนหนึ่งสั่งซื้อกระเป๋ารูปแบบอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ตนและสมาชิกในกลุ่มรู้สึกดีใจมากที่ขณะนี้สินค้าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้าง ทำให้ขณะนี้มียอดขายพุ่งสูงขึ้นมาก จากเดิมมียอดขายเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน แต่ขณะนี้ยอดขายกลับพุ่งเป็นเท่าตัวกว่า 60,000 บาท
ทั้งนี้ สินค้าของทางกลุ่มมีให้เลือกซื้อหามากมายหลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นที่ 40 บาท จนไปถึงหลักพันบาท ส่วนกระเป๋าเอกสารสานกระจูดที่นายกรัฐมนตรีใช้นั้น แต่ละใบจะใช้คนทำถึง 6 คน รับผิดชอบแต่ละด้านตั้งแต่การสานกระจูด ขึ้นรูป และตัดเย็บ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ใบละ 690 บาท
ด้านทวีบุญ เชาวะเจริญ ข้าราชการครู คศ.2 วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส หนึ่งในบุคคลผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระจูดรายา กล่าวว่าสืบเนื่องจากการที่ได้ลงพื้นที่ร่วมพูดคุยกับชุมชนวัดชลธาราสิงเห ทำให้ทราบว่าคนในชุมชนต้องการผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว และการขาดเเคลนผู้นำในการมาทำกิจกรรม ขับเคลื่อนเรื่องการท่องเที่ยวของชุมชน จึงทำให้เกิดการวิจัยเพื่อการมุ่งผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชนเเละเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว และได้มีการนำลวยลายสถาปัตยกรรมที่มีความผสมผสานทั้งศิลปะมลายูและศิลปะจากตะวันตก รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ วัดชลธาราสิงเห ซึ่งเก่าแก่อยู่ในยุคปลายรัชกาลที่ 4 ต้นรัชกาลที่ 5 มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก นั่นคือกระจูดสานที่มีการปักซอยลวดลายไทยโบราณจากฝาผนังอุโบสถ ถือเป็นความร่วมมือของกลุ่มกระจูดรายาที่มีความชำนาญในการแปรรูปผลิตภัณฑ์กระจูดสานและกลุ่มกระจูดบ้านใหญ่ที่มีความชำนาญในการปักซอย
ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจและภูมิใจเเทนกลุ่มกระจูดรายาเเห่งนี้มาก ที่วันนี้ผลิตภัณฑ์ของทางร้านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ได้เป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ของคนนราธิวาสในการมอบให้กับท่านนายกรัฐมนตรีและคณะในการลงพื้นที่กิจกรรมเที่ยวใต้สุดใจ จังหวัดนราธิวาส ในห้วงที่ผ่านมา และท่านนายกรัฐมนตรียังได้ช่วยในการโปรโมทสินค้าโดยการใช้จริงในการปฏิบัติภารกิจ ณ ประเทศฝั่งเศส โดยเป็นการโปรโมท Soft Power ที่ทรงพลังมาก เพราะหิ้วกระเป๋างานแฮนเมดฝือมือคนชายแดนใต้ไปเดินที่ประเทศฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแฟชั่นระดับโลก สินค้าทุกชิ้นของกลุ่ม ทุกคนทำด้วยใจ รังสรรค์อย่างปราณีตงดงาม จึงปลื้มใจมากที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจและพยายามช่วยโปรโมทให้ อยากให้คนไทยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของคนไทยในชีวิตประจำวัน และอยากขอขอบคุณนายกเศรษฐา ทวีสิน เป็นอย่างมากที่ได้ลงพื้นที่ชายเเดนใต้ มาสัมผัสความเป็นอยู่และช่วยสื่อสารสร้างการรับรู้ให้สังคมวงกว้างทราบว่าในพื้นที่เรายังมีสิ่งดีๆ สิ่งงดงามมากมาย ชายเเดนใต้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และทำให้คุณภาพชีวิตของคนพื้นที่ชายเเดนใต้เกิดการพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป