เนื้อหาในหมวด การเงิน

SCB FM มองเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อได้อีก หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าตามที่ประกาศไว้

SCB FM มองเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อได้อีก หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าตามที่ประกาศไว้

นายแพททริก ปูเลีย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงินและ Head of Private Banking Relationship Management ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทเดือนที่ผ่านมาแม้จะยังผันผวน แต่มักเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.00 เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบค่าเงินบาท ซึ่งบางปัจจัยเคลื่อนไหวสวนทางกันทำให้บาทเปลี่ยนแปลงไม่มาก เช่น ในวันที่ราคาทองเปลี่ยนแปลงแรง มักเห็นเงินบาทเปลี่ยนแปลงตามด้วย โดยหากราคาทองลดลงราว $50 ภายใน 1 วัน มักเห็นเงินบาทอ่อนค่าราว 20 สตางค์ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า เงินยูโรที่กลับมาแข็งค่าจากปัจจัยการเมืองในยุโรปที่ดีขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและกดดันให้บาทแข็ง นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมาพบว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศปรับสูงขึ้นมาก ซึ่งอาจสะท้อนได้ว่า ธปท. เข้าซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท ดังนั้น จึงเห็นว่าเงินบาทมักไม่เคลื่อนไหวทะลุแนวต้านสำคัญเท่าไหร่นัก

s__55722115

แนวโน้มดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐก็กระทบบาทเช่นกัน โดยมองว่าในระยะต่อไปดัชนีเงินดอลลาร์อาจปรับลดลงได้ สอดคล้องกับ Long dollar position ที่เริ่มปรับลดลง หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี เมื่อช่วงต้นปี โดยปัจจัยที่อาจทำให้เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอลง โดยเฉพาะข้อมูลฝั่ง Soft data เช่น เลข PMI และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ นอกจากนี้ นายแพททริกมองว่า ตลาดตื่นกลัวกับปัจจัยเรื่อง tariff risk น้อยลงมาก สะท้อนจาก market reactions ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับการประกาศมาตรการในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่เห็นการดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนในตลาดยังสูง ซึ่งทำให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นในบางช่วง เช่น ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียที่กลับมามีประเด็น หลังยูเครนไม่สามารถตกลงร่วมกับสหรัฐฯ ได้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น

ในระยะต่อไป เงินบาทอาจอ่อนค่าต่อได้จากแนวโน้มการขึ้นภาษีนำเข้า โดยในช่วง 1 เดือนนี้ มองเงินบาทอาจอยู่ในกรอบราว 34.00-34.50 มาตรการ Tariffs อาจส่งผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐมาก และผลกระทบต่อค่าเงินแต่ละสกุลจะขึ้นอยู่กับขนาดของ Tariffs ต่อแต่ละประเทศที่ถูกประกาศเพิ่ม ซึ่งความรุนแรงของมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) จะขึ้นอยู่กับส่วนต่างอัตราภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศนั้น ๆ โดยหากมีส่วนต่างภาษีมาก ก็อาจทำให้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีตอบโต้มากขึ้น กดดันให้สกุลเงินนั้นอ่อนค่าแรง ซึ่งคาดว่าอินเดีย และกลุ่มประเทศ LATAM เช่น บราซิล อาจได้รับผลกระทบสูง ทำให้สกุลเงินอาจอ่อนค่าแรงได้ ในส่วนของเงินบาท หากทรัมป์ขึ้น Reciprocal tariffs หรือขึ้นภาษีบางกลุ่ม (เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และยานยนต์) อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าแตะ 34.50 ได้ แต่หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศดังที่เคยขู่ไว้ในช่วงเลือกตั้ง อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าเหนือ 35.00 ได้

s__55722147

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนที่แล้ว กนง. ได้ลดดอกเบี้ยเหนือความคาดหมายของตลาด สำหรับในระยะต่อไป นายวชิรวัฒน์มองว่า กนง. อาจลดดอกเบี้ยต่อได้อีกภายในครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากภาวะการเงินของไทยตึงตัวต่อเนื่องและแนวโน้มมาตรการ Tariffs ที่อาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอกว่าที่ กนง. คาดได้ ซึ่งมุมมองการลดดอกเบี้ยนี้สอดคล้องกับมุมมองตลาด โดยตลาดให้โอกาสราว 80% ที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนมิถุนายน และให้โอกาสราว 60% ที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง (ไปที่ 1.50%) ภายในสิ้นปีนี้

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล นายวชิรวัฒน์มองว่าอาจลดลงต่อได้เล็กน้อยตามการลดดอกเบี้ยของ กนง. และแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลงต่อได้ เนื่องจากคาดว่า Fed อาจทำ Quantitative tightening (QT) น้อยลง ทำให้ Term premium อาจปรับลดลงได้ โดยเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ (Debt ceiling) ที่ใกล้เข้ามาทำให้การลด QT อาจช่วยลดความผันผวนของสภาพคล่องในตลาดเงินได้ เพราะจะช่วยรักษาระดับของ Bank reserves ให้ไม่ผันผวนมาก นอกจากนี้ นาย Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่ายังไม่มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วน LT Treasury bonds เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังสูง และมาตรการ QT ของ Fed จึงทำให้ Yields อาจลดลงต่อได้

 

ร้านค้าไม่พบปุ่ม \

ร้านค้าไม่พบปุ่ม "คนละครึ่งพลัส" ในแอปฯ ถุงเงิน ต้องลงทะเบียนใหม่ไหม ล่าสุด กรุงไทยเฉลยแล้ว

ร้านค้าไม่พบปุ่มคนละครึ่งพลัส ต้องลงทะเบียนใหม่ กรุงไทยเตือนต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ลงทะเบียนคนละครึ่ง 2568 ใหม่ รู้ผลไวภายใน 3 วัน

ราคาทองวันนี้ 18 ต.ค. 68 ครั้งที่ 1 ดิ่ง 1,200 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 66,800 บาท

ราคาทองวันนี้ 18 ต.ค. 68 ครั้งที่ 1 ดิ่ง 1,200 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 66,800 บาท

ราคาทองวันนี้ล่าสุด 18 ตุลาคม 2568 เวลา 09:14 น. ราคาทองครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 1,200 บาท ทองคำแท่งบาทละ 66,000 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 66,800 บาท

กรุงไทย เปิดจุดให้บริการเฉพาะ \

กรุงไทย เปิดจุดให้บริการเฉพาะ "เป๋าตัง-ถุงเงิน" ร่วมคนละครึ่งพลัส วันที่ 18-19 ต.ค. นี้

ธนาคารกรุงไทย เปิดจุดบริการพิเศษระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค. 68 เวลา 08.30-16.00 น. ให้บริการเฉพาะแอปฯ เป๋าตัง-ถุงเงิน และร้านค้าร่วมคนละครึ่งพลัสเท่านั้น

สรุปราคาทองวันนี้ 17 ต.ค. 68 ผันผวน 31 ครั้ง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1,900 บาท

สรุปราคาทองวันนี้ 17 ต.ค. 68 ผันผวน 31 ครั้ง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1,900 บาท

สรุปราคาทองวันนี้ 17 ต.ค. 68 ผันผวน 31 ครั้ง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1,900 บาท ทำราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 67,200 บาท รูปพรรณในขายออกบาทละ 68,000 บาท

ยืนยันตัวตนรับสิทธิ \

ยืนยันตัวตนรับสิทธิ "คนละครึ่งพลัส" มีทั้งหมดกี่ช่องทาง เช็กวิธียืนยันตัวตนได้ที่นี่

ยืนยันตัวตนรับสิทธิ "คนละครึ่งพลัส" มีกี่ช่องทาง ตรวจสอบวิธียืนยันตัวตนได้ที่นี่ เพื่อรับสิทธิคนละครึ่งพลัส