อุ๊ย! แซ่บ "ตงตง กฤษกร" เคลียร์แล้ว สถานะ "เมเปิ้ล" ปมถูกขุดภาพร่วมโต๊ะดินเนอร์
หลังจากที่ปล่อยให้เป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลฯ ล่าสุด! พระเอกหนุ่มชื่อดัง ตงตง กฤษกร ก็ได้ถือโอกาสดีออกมาเปิดใจเคลียร์แบบม้วนเดียวจบ
ถึงกรณีภาพถ่ายร่วมโต๊ะทานข้าวกับ เมเปิ้ล สาวสวยรุ่นพี่ จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ถึงสถานะความสนิท!? ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเองก็เพิ่งจะประกาศคบหาดูใจกับ สาลี่ เดอะสตาร์ ได้ไม่นาน
โดยงานนี้นอกจาก ตงตง กฤษกร จะได้ทำการชี้แจงละเอียดถึงที่มาที่ไปของภาพถ่ายดังกล่าวให้หลายคนคลายความสงสัยแล้ว เจ้าตัวก็ยังพูดถึงฟีดแบคต่างๆ หลังเปิดตัวความรักให้เราได้ฟังอีกด้วย...
ข่าวภาพหลุดที่ออกมาทำหลายคนสงสัย ?
ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย เพราะจริงๆ ก็มีคนส่งภาพมาให้ผมดูบ้างแล้วเหมือนกัน คือผมกับพี่เมเปิ้ล เรารู้จักกันอยู่แล้ว และวันนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งภาพนั้นพี่เบลเป็นคนถ่าย แต่ผมเองก็เพิ่งจะรู้จักกับพี่เบลครั้งแรกในวันนั้น เป็นการรู้จักกกันที่นั่นครับ
ถามว่าตกใจไหมตอนที่เห็นภาพ ไม่ได้ตกใจนะครับ เพราะอย่างที่บอก ผมกับพี่เมเปิ้ลเราสองคนสนิทกันมาก เขาคือพี่สาวของผม เป็นพี่ที่ผมสามารถพูกคุยได้ทุกเรื่อง และตัวผมเองก็เคยได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับแก๊งพี่เมเปิ้ล รวมถึงแก๊งเพื่อนๆ ที่รู้จักกันด้วย คือเรารู้จักกันหลายคน ดังนั้นก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ
ข่าวที่ออกไปค่อนข้างทำให้คนเข้าใจผิด ?
ผมก็คงไม่สามารถจะไปชี้แจงอะไรได้ อะไรที่มันจริง อะไรที่มันไม่จริง เพราะสุดท้ายคนที่คอมเมนต์ ก็มีทั้งคนที่ชอบและเกลียดอยู่ดี ซึ่งผมคงทำได้แค่ปล่อย เพราะอย่างน้อยเราก็รู้ว่าความจริงเป็นยังไง
จังหวะค่อนข้างเป๊ะ เปิดตัวปุ๊บ ภาพก็มาปั๊บ ?
จริงๆ ผมก็ไปนานมากแล้วนะ และผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เบลถ่าย ไม่รู้เลย มาเห็นวันนั้นแหละครับ วันที่มีคนส่งมาให้ดู
ต้องเคลียร์กับสาลี่ไหม มีภาพมีข่าวออกมาแบบนี้ ?
น้องรับทราบครับ เพราะผมก็บอกน้องทุกอย่างอยู่แล้ว ว่าผมเจอใครบ้าง หรือผมอยู่กับใคร
สาลี่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เยอะไหม ?
ก็ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ถามว่าผมเป็นห่วงไหม ผมก็เป็นห่วง เป็นห่วงความรู้สึกของเขา เพราะเอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาเจอมันมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นผมก็เลยไม่อยากให้เขาต้องออกมาแอคแทคอะไรมาก
เรามั่นใจแค่ไหนว่าเขาจะรับมือกับกระแสโซเชียลฯ ได้ ?
ผมมีความเชื่อนะว่าเขาจะไหว เพราะตัวเขาเองก็บอกกับผมเสมอว่า เขาไม่สน และอย่างน้อยๆ เราก็ยังรับฟังกันและกัน รวมถึงเขาก็บอกผมอยู่ตลอดว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งมันทำให้ผมโล่งใจประมาณหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายผมก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกเขาอยู่ดีครับ
แสดงว่าก่อนตัดสินใจคบกัน ได้พูดคุยกันบ้างแล้วเกี่ยวกับกระแสต่างๆ ที่อาจจะตามมา ?
ใช่ครับ แต่อย่างน้อยๆ เราก็พูดคุยกันทุกเรื่อง เราเล่าเรื่องราวให้กันฟังทุกอย่าง ในทุกๆ วัน ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะผมเองก็อยากที่จะพยายามพาเขาไปให้ถึงปลายทางให้ได้
น้อยใจไหมที่คนจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์ขนาดนี้ ?
อาจจะเป็นช่วงแรกๆ ครับ แต่ตอนนี้คำว่าน้อยใจมันไม่ได้เป็นโฟกัสหลักแล้ว เพราะผมมีแต่คำว่าเป็นห่วงมากกว่า เป็นห่วงคนที่เขาจะต้องเดินทางไปกับเรา รวมถึงสิ่งที่เขาต้องเจอ ทั้งๆ ที่เขาอาจจะได้ไปเจอกับสิ่งที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้กับเรา
ฟีดแบคจากคอมเมนต์ในวันที่เปิดตัวว่าคบกัน ก็มีทั้งดีและไม่ดี ?
ผมก็ได้ดูบ้างครับ แต่ก็ไม่ได้ดูละเอียดทุกคอมเมนต์ คือจริงๆ ก็รู้อยู่แล้วแหละว่าผลมันจะออกมาประมาณไหน เพียงแต่ ณ วันนั้นที่ผมพูด ก็เพราะผมรู้สึกว่า ผมต้องบอกให้ทุกคนรับรู้ ผมไม่ได้อยากที่จะปกปิด
อยากบอกอะไรกับคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจบ้างไหม ?
ผมอยากขอบคุณคนที่เข้าใจมากๆ อย่างน้อยก็เป็นแรงกำลังใจ เป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับผม เพราะการทำอาชีพตรงนี้ ถ้าหากไม่มีกำลังใจ ผมก็คงไปได้ไม่เต็มที่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มีค่ากับผมมากๆ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ ผมเองก็คงไม่สามารถไปบอกอะไรได้ เพราะสิ่งที่ผมทำได้ ณ ปัจจุบัน ก็คงมีแค่การทำให้ดีที่สุด