เนื้อหาในหมวด การเงิน

ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2568 กำไร 26,280 ล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2568 กำไร 26,280 ล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการครึ่งปีแรก ปี 2568 กำไร 26,280 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 กำไร 12,488 ล้านบาท หลักๆ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงตามภาวะตลาด และจากการช่วยเหลือลูกหนี้

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2568 มีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการใช้จ่ายของภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับการปรับลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นทั้งในฝั่งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

03_ms.kattiyaindaravijayace

นอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งในส่วนของรายจ่ายประจำและรายจ่ายเพื่อการลงทุนหดตัวลง เพราะเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อนที่ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 เริ่มมีผล สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นั้น มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตในระดับต่ำกว่าครึ่งแรกของปีค่อนข้างมาก หรือมีความเสี่ยงที่จะไม่เติบโต เนื่องจากการส่งออกมีแนวโน้มหดตัวลึกหลังจากขยายตัวสูงไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก

ประกอบกับอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่จะเก็บจากสินค้าไทยอาจสูงกว่าคู่แข่งสำคัญหลายประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเนื่องต่อบรรยากาศการลงทุน ในขณะที่แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอลงแรง แต่เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทำได้เพียงในระดับจำกัด นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะมีผลกดดันต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2569 ด้วยเช่นกัน

ท่ามกลางความท้าทายของปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งรวมถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้าผู้ฝากเงิน ผู้ลงทุน ที่ครอบคลุมถึงลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจด้วยการดูแลช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่างเหมาะสม

ทั้งการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ตลอดจนการสนับสนุนมาตรการภาครัฐอย่างเต็มที่ เช่น โครงการคุณสู้เราช่วย และมาตรการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนทางการเงินที่ลดลงเพื่อแบ่งเบาภาระของลูกค้า สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิต และธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ตลอดจนการส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้น ผ่านการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 และการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Productivity) อย่างต่อเนื่องภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2568 ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารจำนวน 12,488 ล้านบาท ลดลงจำนวน 1,303 ล้านบาท หรือ 9.45%

หลักๆ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงตามภาวะตลาด รวมทั้งการดูแลช่วยเหลือด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นและช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ

โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) ลดลงอยู่ที่ระดับ 3.31% แม้ว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 13,944 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 266 ล้านบาท หรือ 1.95% หลักๆ จากผลการดำเนินงานการบริการประกันภัย และรายได้จากการลงทุน สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ มีจำนวน 20,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 751 ล้านบาท หรือ 3.75% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่

จากค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการขยายช่องทางการให้บริการลูกค้าและค่าใช้จ่ายทางการตลาด อย่างไรก็ตาม ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้อยู่ภายใต้องค์รวมของกรอบงบประมาณที่วางไว้

ส่งผลให้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลง 1.68% นอกจากนี้ ได้พิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 10,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 232 ล้านบาท หรือ 2.36% ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สำรองฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม รองรับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ในอนาคต

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2568 ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารจำนวน 12,488 ล้านบาท ลดลงจำนวน 1,303 ล้านบาท หรือ 9.45%

หลัก ๆ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงตามภาวะตลาด รวมทั้งการดูแลช่วยเหลือด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นและช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ

โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) ลดลงอยู่ที่ระดับ 3.31% แม้ว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 13,944 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 266 ล้านบาท หรือ 1.95%      หลัก ๆ จากผลการดำเนินงานการบริการประกันภัย และรายได้จากการลงทุน สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ มีจำนวน 20,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 751 ล้านบาท หรือ 3.75% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่

จากค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการขยายช่องทางการให้บริการลูกค้าและค่าใช้จ่ายทางการตลาด อย่างไรก็ตาม ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้อยู่ภายใต้องค์รวมของกรอบงบประมาณที่วางไว้

ส่งผลให้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลง 1.68% นอกจากนี้ ได้พิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 10,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 232 ล้านบาท หรือ 2.36% ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สำรองฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม รองรับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ในอนาคต

04_kbankheadoffice

ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือน ปี 2568 เปรียบเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2567 ที่ปรับปรุงใหม่ ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้มีจำนวน 56,847 ล้านบาท ลดลงจำนวน 2,470 ล้านบาท หรือ 4.16% เป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ

หลัก ๆ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 70,080 ล้านบาท ลดลงจำนวน 5,234 ล้านบาท หรือ 6.95% สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้น และช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ

ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) ลดลงอยู่ที่ระดับ 3.36% แม้ว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 27,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,409 ล้านบาท หรือ 9.55% หลัก ๆ จากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน รายได้จากการลงทุน และ

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ มีจำนวน 40,855 ล้านบาท ลดลงจำนวน 355 ล้านบาท หรือ 0.86% จากการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.82%

นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงยึดหลักความระมัดระวังอย่างรอบคอบตามที่ได้ปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอ จึงพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss : ECL) จำนวน 19,868 ล้านบาท เพื่อให้สำรองฯ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ และภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและยังคงเผชิญกับความท้าทาย ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารสำหรับงวด 6 เดือน ปี 2568 มีจำนวน 26,280 ล้านบาท ลดลงจำนวน 260 ล้านบาท หรือ 0.98%

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,374,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 33,854 ล้านบาท หรือ 0.78% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ปรับปรุงใหม่ ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนสุทธิ ซึ่งเป็นการลงทุนตามการคาดการณ์ภาวะตลาดและทิศทางอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม เงินให้สินเชื่อสุทธิลดลง เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยธนาคารยังคงมุ่งเน้นการขยายสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินทรัพย์ และการเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงให้เหมาะสม

ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.18% ซึ่งยังคงต้องดำเนินการติดตามคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวังใกล้ชิดในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน

โดยอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 162.77% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 20.66%

ข้อมูลลูกค้าหลุด! \

ข้อมูลลูกค้าหลุด! "แบงก์ชาติ" สั่ง "กรุงไทย-กสิกรไทย" เข้มภัยไซเบอร์

“แบงก์ชาติ” กำชับสถาบันการเงิน ทั้ง “กรุงไทย” และ “กสิกรไทย” ยกระดับมาตรการป้องกันทางไซเบอร์ หลังข้อมูลลูกค้าของธนาคารกรุงไทยและกสิกรไทยไม่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินรั่วไหล

กสิกรไทยจับมือซันร้อยแปด เปิดตู้จำหน่ายสินค้า รับชำระเงินผ่านอาลีเพย์

กสิกรไทยจับมือซันร้อยแปด เปิดตู้จำหน่ายสินค้า รับชำระเงินผ่านอาลีเพย์

3 ยักษ์ใหญ่ กสิกรไทย ซันร้อยแปด และอาลีเพย์ จับมือพัฒนาตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่สามารถรับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดของอาลีเพย์ได้เป็นครั้งแรกในไทย ช่วยนักท่องเที่ยวจีนซื้อสินค้าสะดวกขึ้น เริ่มติดตั้ง 24 ตู้ พร้อมตั้งเป้า 3 ปีเพิ่มเป็น 500 ตู้ในแหล่งท่องเที่ยวคนจีนและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ

ดูแลสุขภาพเบาๆ สบายกระเป๋ามนุษย์เงินเดือน

ดูแลสุขภาพเบาๆ สบายกระเป๋ามนุษย์เงินเดือน

เริ่มต้นเอาเงินหลักสิบ เก็บไว้ทำประกันสุขภาพกันเถอะ เก็บไว้ให้อุ่นใจ ไม่ไว้แล้วจะได้ไม่ต้องแบกภาระหนักอึ้งกับค่าใช้จ่าย ไม่เป็นภาระให้ครอบครัว ดีกับตัวเอง

กสิกรไทย เดินเครื่อง ลุย ศก.นิวนอร์มอล ปี 60 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 4-6%

กสิกรไทย เดินเครื่อง ลุย ศก.นิวนอร์มอล ปี 60 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 4-6%

ธนาคารกสิกรไทยประกาศแผนปี 2560 มุ่งสร้างประสบการณ์นวัตกรรมบริการและโมเดลธุรกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งเป้าสินเชื่อรวมโต 4-6% คาดจีดีพีปี 2560 ขยายตัวที่ 3.3% เตรียมงบ 5,000 ล้านบาทพัฒนาไอทีตอกย้ำผู้นำดิจิทัลแบงกิ้ง