เนื้อหาในหมวด ข่าว

ผู้คุมสอบเอะใจ จู่ๆ นร.ชาย เปลี่ยนคำตอบทุกข้อ พลิกดูหลัง \

ผู้คุมสอบเอะใจ จู่ๆ นร.ชาย เปลี่ยนคำตอบทุกข้อ พลิกดูหลัง "ยางลบ" แจ้งตำรวจทันที!

 ผู้คุมสอบเอะใจ จู่ๆ นักเรียนชาย "ลบ" เปลี่ยนคำตอบทั้งหมด เดินไปหยิบ "ยางลบ" ขึ้นมาดู แจ้งตำรวจทันที!

ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน เมื่อปี 2558 แต่ล่าสุดเพิ่งถูก"ขุดคุ้ย" และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างต่อเนื่อง

ในวันเกิดเหตุ หลังจากที่ระฆังดังเป็นสัญญาณเวลาเริ่มต้นทำสอบ ห้องสอบก็เงียบลงทันที เหลือเพียงเสียงดินสอเขียนบนกระดาษ ผู้เข้าสอบต่างมุ่งความสนใจไปที่การทดสอบของตน พยายามแข่งกับเวลาเพื่อตอบคำถามให้ครบทุกข้อ

แต่แล้วจู่ๆ ผู้สมัครสอบชื่อนายหวัง (นามสมมุติ) ก็ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า "อาจารย์ ขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้คุมสอบจึงตอบว่า "ได้สิ แต่ตามกฎเกณฑ์การสอบ ฉันจะต้องไปกับคุณด้วย" นักเรียนชายก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ดี เมื่อไปถึงห้องน้ำเขากลับไม่ได้ทำธุระส่วนตัวทันที แต่ยืนนิ่งข้างประตูระบายอากาศในห้องน้ำสักพักแล้วก็กลับเข้าห้องสอบ

พฤติกรรมที่ผิดปกติของนายหวัง ทำให้ผู้คุมสอบเกิดความสงสัยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาไม่ได้ทำอะไรที่ละเมิดกฎข้อบังคับในระหว่างการสอบ จึงไม่ดำเนินการใดๆ ตรวจสอบใดๆ แต่เพียงครึ่งชั่วโมงต่อมา นายหวังก็ยกมือขอไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง และมีพฤติกรรมที่ผู้คุมสอบไม่เข้าใจเหมือนเดิม

แต่ในครั้งนี้ ทันทีที่กลับเข้าห้องสอบ จู่ๆ นายหวังก็หยิบเอา "ยางลบ" ออกมาจากกล่องดินสอแล้วถูลงบนกระดาษสอบเพื่อลบคำตอบทั้งหมดที่เขากรอกไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นจึงเติมคำตอบลงในกระดาษใหม่ พร้อมกับมองดูที่ยางลบไปด้วย ไม่นานกระดาษคำตอบก็ถูกกรอกลงไปจนครบ

แน่นอนว่าคราวนี้การกระทำทั้งหมดของเขาปรากฏแก่สายตาผู้คุมสอบในห้องสอบ ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆที่นั่งสอบของนายหวัง และเมื่อหยิบยางลบขึ้นมาก็ตกใจจนต้องรีบแจ้งตำรวจทันที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาถึงห้องสอบและพูดกับนายหวังอย่างจริงจังว่า "ผู้สมัคร กรุณาหยุดสอบแล้วมากับพวกเราด้วย!"

มีอะไรอยู่ในยางลบ?

ปรากฎว่าหลังจากหยิบยางลบของนายหวังขึ้นมา ผู้คุมสอบก็พบว่ามีหน้าจอเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านหลัง และคำตอบก็แสดงบนหน้าจออย่างต่อเนื่อง ยางลบที่ดูเหมือนจะธรรมดาๆ กลับกลายเป็นอุปกรณ์โกงอันซับซ้อน

อย่างไรก็ดี ในการสอบเช่นนี้โดยปกติจะมีการใช้อุปกรณ์รบกวนเพื่อป้องกันการโกงโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างการสอบ คำถามคือ "ยางลบ" ของนายหวัง หลุดลอดการตรวจสอบมาได้อย่างไร?

ระหว่างสอบปากคำที่สถานีตำรวจ นายหวังดูหวาดกลัวอย่างยิ่งและสารภาพทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ปรากฎว่าในขณะที่ท่องอินเทอร์เน็ต เขาบังเอิญค้นพบเว็บไซต์ที่มีอุปกรณ์แปลกๆ จำหน่ายมากมาย ในบรรดาอุปกรณ์เหล่านั้น เขาสนใจ "ยางลบ" นี้มากที่สุด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงส่งข้อความหาผู้ขายและถามว่า "ยางลบนี้มีฟังก์ชันพิเศษใดๆ หรือไม่"

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือผู้ขายไม่ได้ตอบคำถามแบบตรงๆ แต่กลับถามกลับว่า "ถ้าคุณต้องการซื้อจริงๆ  คุณต้องยืนยันก่อนว่าเป็นผู้สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยใช่หรือไม่?" คำตอบของผู้ขายทำให้เขายิ่งสงสัยมากขึ้น ดังนั้นจึงแสดงหลักฐานสมัครสอบให้ดู และได้รับการเปิดเผยถึงฟังก์ชันและการใช้ "ยางลบ" เพื่อโกงข้อสอบ และได้รับคำตอบในห้องน้ำเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไปเข้าห้องน้ำสองครั้งเพื่อหาคำตอบ

จากคำให้การนายหวัง ตำรวจได้จับกุมคนขายยางลบอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ตลกอย่างหนึ่งคือคนขายเรียนจบเพียงประถมเท่านั้นเมื่อถามว่าเขาเฉลยคำตอบข้อสอบได้อย่างไร ก็ตอบเพียงแค่ว่า "ฉันแค่ตอบแบบสุ่มๆ!" ทำเอานายหวังหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาไม่เคยคาดหวังอย่างแน่นอนว่าคำตอบที่เขาได้รับจาก "ยางลบ" ที่เขายอมทุ่มเงินเป็นจำนวนมากจะเป็นเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกลงโทษฐานโกงข้อสอบ

บทเรียนในครั้งนี้คือ ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนการเรียนหนักและความซื่อสัตย์ได้ พฤติกรรมฉ้อโกงไม่เพียงสะท้อนถึงการขาดความภาคภูมิใจในตนเอง และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของตนเองเท่านั้น แต่ยังสูญเสียศรัทธาในความเป็นธรรมและความจริงจังของระบบการศึกษาอีกด้วย หวังว่าเรื่องราวของนายหวังจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่วางแผนจะพบกับความสำเร็จด้วยการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์

ครูตักเตือนเด็ก \

ครูตักเตือนเด็ก "โกงสอบ" เจอ ผปค.แชทมากลางดึก อ่านจบลาออกทันที ใครก็รั้งไม่อยู่

ครูจับได้เด็กแอบ “โกงสอบ” เรียกไปตักเตือน เจอแม่ส่งข้อความมากลางดึก อ่านจบลาออกทันที ใครก็รั้งไม่อยู่!!!

ถนนสายการเมืองของ \

ถนนสายการเมืองของ "อุ๊งอิ๊ง" จากโดนกล่าวหาโกงข้อสอบจุฬาฯ สู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เปิดเส้นทางการเมืองของ “อุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตร” สายเลือดนักการเมืองแห่งตระกูลชินวัตร จากวันที่ถูกกล่าวหาว่าโกงข้อสอบเอ็กทรานซ์ ปี 2547 สู่การเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย”