วิธีรับเงินชดเชย ตกงาน ประกันสังคม ม.33 สูงสุด 54,000 บาท

21/08/2025 (15:36 น.)

ประกันสังคม ม.33 ตกงาน รับสิทธิเงินชดเชยเลิกจ้าง ทดแทนรายได้ 60% สูงสุด 54,000 บาท เพียงขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน

ผู้ประกันตนตาม ประกันสังคมมาตรา 33 ถือเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายจ้างและภาครัฐร่วมสมทบตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้าง หลักประกันขั้นพื้นฐานด้านสุขภาพ การทำงาน และความมั่นคงในชีวิต สิทธิประโยชน์ที่ได้รับครอบคลุมทั้งกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ว่างงาน และเสียชีวิต ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยคุ้มครองลูกจ้างให้สามารถดำเนินชีวิตและทำงานได้อย่างมั่นใจ

สิทธิประโยชน์ ประกันสังคมมาตรา 33 กรณีว่างงาน

ถูกเลิกจ้าง → ได้เงินชดเชย 60% ของค่าจ้าง (ไม่เกิน 9,000 บาท/เดือน นานสูงสุด 180 วัน) = 54,000 บาท
ลาออกเอง / สิ้นสุดสัญญา → ได้เงินชดเชย 30% ของค่าจ้าง (ไม่เกิน 4,500 บาท/เดือน นานสูงสุด 90 วัน) = 13,500 บาท

เงื่อนไข

ต้องส่งเงินสมทบกรณีว่างงานมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ใน 15 เดือนก่อนว่างงาน
ต้องขึ้นทะเบียนว่างงาน ภายใน 30 วัน หลังเลิกจ้างหรือลาออก

วิธีรับเงินชดเชยตกงาน สูงสุด 54,000 บาท

ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 ที่ว่างงานสามารถขึ้นทะเบียนได้ด้วยตัวเอง และจะต้อง รายงานตัว ตามนัดหมายเดือนละ 1 ครั้ง จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตั้งแต่วันที่ 8 ของการว่างงานไปจนครบสิทธิที่ควรได้รับ โดยต้องทำตามขั้นตอนทั้งช่องทางออนไลน์ และ จุดบริการของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

วิธีลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ (ภายใน 30 วัน)

เว็บไซต์กรมการจัดหางาน ภายใน 30 วัน https://e-service.doe.go.th/login.do

กรอกข้อมูล

อัปโหลดเอกสารที่จำเป็น ดังนี้

ข้อมูลส่วนตัว
วุฒิการศึกษา
สถานะการออกจากงาน: ลาออก หรือเลิกจ้าง
ข้อมูลต้องการหางานทำ: ค้นหาตำแหน่งงานว่าง หรือเลือกสมัครงาน
ข้อมูลการประกอบอาชีพอิสระ: ระบุประเภทอาชีพ
กรอกข้อมูลในแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สปส. 2-01/7
แนบไฟล์สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) ผ่าน 8 ธนาคาร ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารทหารไทยธนชาต
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

เอกสารที่ใช้ยื่นที่สำนักงานประกันสังคม

ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 ยื่นแบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่) โดยใช้เอกสาร ดังนี้

แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7)
บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
หนังสือรับรองการออกจากงาน หรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตนออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6 -09) (ถ้ามี)
หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)
สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์)

ทั้งนี้ ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานไม่สามารถขอย้อนหลังได้ ต้องยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันหลังลาออกหรือถูกเลิกจ้างเท่านั้น สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การดูแลผู้ประกันตนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหรือคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ประกันตนคลายวิตกกังวลลงได้บ้างในวันที่ต้องว่างงาน

ถูกเลิกจ้าง VS ลาออกเอง แบบไหนได้เงินทดแทนว่างงานมากกว่ากัน

กรณีที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้ทำความผิดอะไร แต่บริษัทฯ จำเป็นต้องปรับลดพนักงาน

ผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน มากกว่ากรณีลาออกเอง โดยก่อนหน้านี้กรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทน 50% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วันใน 1 ปีปฏิทิน

กรณีว่างงานจากการลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา

จะได้รับประโยชน์ทดแทนว่างงาน 30% ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 90 วันใน 1 ปีปฏิทิน

นับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 68 เป็นต้นมา ประกันสังคมได้ปรับเพิ่ม ประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง) จากเดิมที่จ่าย 50% เพิ่มเป็น 60% โดยคำนวณจากฐานค่าจ้างจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

ประกันสังคม "เลิกจ้าง vs ลาออก" แบบไหนได้เงินชดเชยมากกว่า

ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 รวมถึงคนไทย และชาวต่างชาติ คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง และมีการจ่ายเงินสมทบในส่วนกรณีว่างงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน และถูกเลิกจ้าง

เมื่อถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนได้สูงสุดไม่เกินเดือนละ 9,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้สูงสุดเดือนละ 7,500 บาท ในระยะ 180 วัน (6 เดือน) จะได้รับประโยชน์ทดแทนสูงสุด 54,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้รับสูงสุด 45,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาในช่วงว่างงาน หรือรองานใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตในช่วงนี้มีความคล่องตัวขึ้น