เนื้อหาในหมวด การเงิน

ผู้นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชี้ Wellness Tourism โตแรง ดันไทยสู่ Wellness Hub แห่งเอเชีย

ผู้นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชี้ Wellness Tourism โตแรง ดันไทยสู่ Wellness Hub แห่งเอเชีย

เคทีซี เผยคนรุ่นใหม่ใช้จ่ายด้านสุขภาพควบคู่กับโรงแรมแนว Wellness มากกว่าโรงแรมทั่วไป 1.88 เท่า พร้อมลุยเชื่อมพันธมิตรสุขภาพกว่า 60 ราย พร้อมดันไทยสู่ Wellness Hub แห่งเอเชีย

น.ส.วริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี เปิดเผยว่าสมาชิกเคทีซีมีพฤติกรรมลงทุนด้านสุขภาพควบคู่กับการท่องเที่ยวมากขึ้นโดยยอดใช้จ่ายในโรงแรมที่ตอบโจทย์ Wellness มียอดต่อครั้งสูงกว่าโรงแรมทั่วไป 1.88 เท่า และยังเห็นสัญญาณการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพของกลุ่มคนอายุ 30–35 ปี เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

474447

ซึ่งการท่องเที่ยวในอนาคต คือ การสร้าง Travel Ecosystem ที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพและคุณภาพชีวิตในทุกขั้นตอน ผ่านการออกแบบสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับ Customer Journey เช่น แพลตฟอร์ม KTC Wellness Hub ที่รวบรวมสิทธิประโยชน์มากกว่า 60 พันธมิตร ครอบคลุมรีสอร์ทสุขภาพ โรงพยาบาล สปา และร้านอาหารสุขภาพ มอบสิทธิพิเศษที่ไม่ใช่แค่ส่วนลด แต่เปิดโอกาสให้สมาชิกเข้าถึงบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐาน สะดวก และคุ้มค่าอย่างแท้จริง

“หลังโควิดดันพฤติ กรรมผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สอดคล้องข้อมูลจาก Global Wellness Institute (GWI) ระบุตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลกปี 2025 จะมีมูลค่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 230 ล้านล้านบาท ตลาด Wellness Tourism ของโลกเติบโตเร็วกว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วไปเกือบ 2 เท่า” น.ส.วริษฐา กล่าว

ซึ่งบทบาทของเคทีซีไม่ใช่เพียงผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่คืออีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยผู้ประกอบการเชื่อมต่อกับฐานลูกค้าคุณภาพกว่า 2.8 ล้านราย และสร้างโอกาสใหม่ในตลาด Wellness Tourism ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ Wellness Destination ชั้นนำของโลก

576179

ด้านนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และที่ปรึกษา BDMS Wellness เปิดเผยว่า วิกฤตโควิด ทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจสุขภาพทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย และสุขภาพจิต จนแนวคิด Well-being กลายเป็นไลฟ์สไตล์สำคัญและต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่สร้างคุณค่าแก่ทั้งร่างกายและเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ผู้ที่เดินทางเพื่อสุขภาพโดยตรง (Primary Wellness Tourism) และมียอดใช้จ่ายสูง สัดส่วน 15% และผู้ที่ท่องเที่ยวทั่วไปแต่ใช้จ่ายด้านสุขภาพเสริม (Secondary Wellness Tourism) มีสัดส่วน 85%

คุณภูมิกิตติ์ย้ำว่า หากประเทศไทยต้องการเป็น Wellness Destination ระดับโลก ต้องเร่งขยายฐานกลุ่ม Primary ผ่านการสร้าง Ecosystem ครบวงจร ตั้งแต่นโยบายรัฐ มาตรฐานบริการ แพ็กเกจท่องเที่ยวสุขภาพแบบบูรณาการ จนถึงการสร้างสุขภาวะให้คนไทยเอง พร้อมทั้งเจาะตลาด Gen Z (13–28 ปี) นักเดินทางรุ่นใหม่ที่พร้อมลงทุนเพื่อประสบการณ์สุขภาพและคุณภาพชีวิต ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต

536529

นายกรด โรจนเสถียร ที่ปรึกษาประธานบริหารและประธานกรรมการ ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าชีวาศรม 80% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 20% เป็นนักท่องเที่ยวไทย เพิ่มขึ้นจากก่อนโควิดที่มีไม่ถึง 2% กลุ่มหลักคือ Gen X (46–60 ปี) รองลงมาคือ Gen Y (31–45 ปี) ที่นิยมท่องเที่ยวควบคู่สุขภาพแบบองค์รวม มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000–100,000 บาทต่อคนต่อทริป และมีแนวโน้มพักระยะยาวมากขึ้น ตั้งแต่ 7 คืนจนถึง 3 เดือน บางรายอยู่นานถึง 6 เดือน ขณะที่ลูกค้าคนไทยพักนานสุด 3 คืน และพบว่ามีลูกค้ากลุ่มอายุ 14 ปีขึ้นไป มีความเข้าใจ และใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น ล่าสุด ชีวาศรม หัวหิน ได้เปิดรับลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป จากเดิมที่รับลูกค้าอายุต่ำสุด 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยได้ ต้องใช้เสน่ห์ความเป็นไทย เป็นตัวดึงดูดเพราะผู้คนทั่วโลกตระหนักว่าสุขภาพคือเรื่องสำคัญและใช้การท่องเที่ยวเป็นโอกาสปรับพฤติกรรม ประเทศไทยมีจุดแข็งครบ ทั้งอาหารสุขภาพ สมุนไพร การแพทย์แผนไทย และวัฒนธรรมที่สัมผัสได้จริง ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ แต่ยังช่วยกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

181191

นายปราโมทย์ เดชะบุญศิริพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปุริ จำกัด ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมที่ผูกโยงกับ 5 Senses – กลิ่น รส สัมผัส เสียง และบรรยากาศ ซึ่งปัญญ์ปุริได้นำมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และ Wellness Experience ที่แตกต่าง เช่น กลิ่นหอมจากพืชพันธุ์ธรรมชาติและภูมิปัญญาโบราณที่ช่วยบำบัดความเหนื่อยล้าได้จริง และยังเป็นกระจายสู่ท้องถิ่น จุดแข็งเหล่านี้คือ Top of Mind ที่สามารถต่อยอด และสร้างรายได้ในระดับโลก ตลาด Wellness กำลังเปิดกว้างต่อประสบการณ์ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่น ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ตลาดโลกยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งเรื่องมาตรฐานสากลด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการสื่อสารแบรนด์ให้ร่วมสมัย การพัฒนาตลาด Wellness จึงไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังเสริมพลัง Soft Power ไทย และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานเครือข่าย Thailand Gastronomy Network กล่าวว่า อาหารไทยมีความพร้อมอย่างมากในการเป็นหนึ่งในหัวใจของ Wellness Tourism เพราะเรามีภูมิปัญญาเรื่องสมุนไพร เครื่องแกง และการผสมรสที่สะท้อนหลัก อาหารเป็นยา ( Food as Medicine ) อย่างแท้จริง หากเรายกระดับความเข้าใจเรื่องคุณค่าอาหารไทย และสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นความเชื่อมโยงระหว่าง รสชาติ สุขภาพ และ วัฒนธรรม ก็จะสามารถต่อยอดอาหารไทยให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของ Wellness Tourism ได้ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ประเทศ และคุณค่าทางใจของผู้มาเยือน

ข้อมูล GWI ยังระบุอีกว่าอุตสาหกรรม Wellness Tourism จะเติบโตเป็น1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 51 ล้านล้านบาท ภายในปี 2027 ซึ่งเติบโตเร็วกว่าการท่องเที่ยวทั่วไปเกือบ 2 เท่า นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปประมาณ 1,886 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68,000 บาท สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 56% ขณะเดียวกันประเทศไทยยังครองอันดับ 1 ด้านการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระหว่างปี 2022 – 2023 จากบรรดา 25 ตลาดสุขภาพชั้นนำของโลก

“ด้วยจุดแข็งด้านอาหาร สมุนไพร และภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากที่จะก้าวสู่ ‘Wellness Hub แห่งเอเชีย โดยเฉพาะหากเรานำแนวคิดอาหารเป็นยา และ Wellness on a Plate มาต่อยอดเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ทั้งอร่อย ดีต่อสุขภาพ และสะท้อนคุณค่าความเป็นไทยได้อย่างร่วมสมัย” ผศ.ดร. จุฑามาศ วิศาลสิงห์ กล่าว

มิสเตอร์ริชาร์ด ดอยท์ล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ กล่าวว่า The Sukhothai Spa ถือเป็นตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่นำเอกลักษณ์เรือนไทยโบราณผสานกับศาสตร์การบำบัดสมัยใหม่อย่างกลมกลืน จนกลายเป็นพื้นที่ที่สร้างทั้งการพักผ่อนและการเยียวยาแบบองค์รวม เชื่อมโยงประสบการณ์ทางวัฒนธรรมเข้ากับไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้การได้รับรางวัล Michelin Keys 2 ดอก สะท้อนมาตรฐานการบริการระดับโลกของโรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ พร้อมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Destination ชั้นนำของโลก ได้อย่างยั่งยืน

KTC ปลดล็อกการรับชำระเงินดิจิทัลให้ SME ไทย รับชำระง่ายผ่าน QR บัตรเครดิต-พร้อมเพย์

KTC ปลดล็อกการรับชำระเงินดิจิทัลให้ SME ไทย รับชำระง่ายผ่าน QR บัตรเครดิต-พร้อมเพย์

เคทีซีปลดล็อกการรับชำระเงินดิจิทัลให้ SME ไทย รับชำระง่ายผ่าน QR บัตรเครดิตและ Thai QR‘พร้อมเพย์’

ครั้งแรกในไทย! นวัตกรรมสเต็มเซลล์สัตว์เลี้ยง รับเทรนด์ Pet Parenting บูม

ครั้งแรกในไทย! นวัตกรรมสเต็มเซลล์สัตว์เลี้ยง รับเทรนด์ Pet Parenting บูม

ครั้งแรกในไทย กับนวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง ตอบรับเทรนด์ Pet Parenting ที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง สร้างมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงไทยมีมูลค่ามากกว่า 6–7 หมื่นล้านบาทต่อปี

KTC ผนึกพลังพันธมิตรดันโซลูชันพลังงานสะอาด ลดคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero

KTC ผนึกพลังพันธมิตรดันโซลูชันพลังงานสะอาด ลดคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero

เคทีซี ร่วมกับพันธมิตรจัดเสวนาในหัวข้อ “Power from Home, Power for the Future” ผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน ลดคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero