ร้านค้าร่วม "คนละครึ่งพลัส" เป็นนิติบุคคลได้ไหม-ใช้เบอร์มือถือไหนสมัครแอปฯ ถุงเงิน
ไขข้อสงสัย ร้านค้าร่วมคนละครึ่งพลัส ผู้ประกอบการนิติบุคคลแบบไหนถึงจะสมัครได้ ใช้เบอร์มือถือไหนสมัครแอปฯ ถุงเงิน
วันที่ 15 ต.ค. 68 เป็นวันแรกของการลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อรับเงินจากผู้ใช้สิทธิ 20 ล้านคน ที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ บางรายอาจจะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทะเบียนคนละครึ่งสำหรับร้านค้า เช่น ร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลสมัครร่วมโครงการฯ ได้ไหม, ร้านค้าแฟรนไชส์สามารถร่วมได้ไหม หรือร้านค้าเดิมที่เคยร่วมโครงการฯ มาแล้วต้องลงทะเบียนใหม่หรือเปล่า เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตทั้งหมดมาไขคำตอบทีละข้อกัน
คำถามที่พบบ่อย "วิธีการลงทะเบียนร้านค้า"
คำถาม : กรณีเป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่?
- คำตอบ : นิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมโครงการประกอบด้วย
- 1. นิติบุคคลตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542
- 2. ผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ
- 3. นิติบุคคลขนาดเล็ก (ภ.ง.ด. 50 รอบบัญชีปี 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568)
คำถาม : ขั้นตอนการลงทะเบียนร้านค้าบนเว็บไซต์ หัวข้อ เบอร์โทรศัพท์ ต้องเป็นหมายเลขเดียวกันกับเบอร์ที่สมัครถุงเงินหรือไม่?
- คำตอบ : ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เดียวกันกับที่สมัครแอปฯ ถุงเงิน
คำถาม : การรับเงินค่าขายสินค้า และบริการสามารถรับผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารอื่นได้หรือไม่?
- คำตอบ : การรับเงินจากโครงการ รับผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น
- ส่วนที่ 1 เงินส่วนประชาชนชำระ (G Wallet): จะได้รับ 1 วันถัดไปนับจากวันที่ทำรายการ เวลา 02.00 น. เป็นต้นไป
- ส่วนที่ 2 เงินส่วนของภาครัฐ: จะได้รับ 1 วันถัดไปนับจากวันที่ทำรายการ เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
คำถาม : ร้านค้าจดทะเบียนในรูปแบบบุคคลธรรมดา แต่มีการขายแฟรนไชส์ เช่น ชานมไข่มุก ขายซูชิ ขายน้ำปั่น เจ้าของร้านที่ไปซื้อแฟรนไชส์มา สามารถลงทะเบียนได้หรือไม่?
- คำตอบ : สามารถลงทะเบียนได้ ยกเว้นกรณีที่เป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เป็นเฟรนไชส์และธุรกิจบริการ (ยกเว้นนวด สปา ทำเล็บ ทำผม) จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
คำถาม : ร้านค้าเดิมที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งที่ใช้แอปฯ ถุงเงินอยู่แล้ว จำเป็นต้องแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการใหม่หรือไม่?
- คำตอบ : ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ให้อัปเดตแอปฯ ถุงเงินเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดและต้องทำการกดยอมรับเงื่อนไขโครงการบนแบนเนอร์โครงการคนละครึ่ง พลัส บนแอปฯ ถุงเงินก่อน
คำถาม : ร้านค้าสามารถปฏิเสธการใช้สิทธิของประชาชนได้หรือไม่?
- คำตอบ : ตามเงื่อนไขและข้อตกลงการเข้าร่วมโครงการ ร้านค้าไม่สามารถปฏิเสธการรับสิทธิจากประชาชนได้
คำถาม : ร้านค้าใหม่ หากต้องการเข้าร่วมโครงการมีขั้นตอนอย่างไร?
- คำตอบ :
- 1. มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินสำเร็จ
- 2. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
- 3. ตรวจสอบประเภทกิจการและดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงานดังนี้
- 3.1 หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย)
- - ร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป
- - ร้านค้า/บริการของวิสาหกิจชุมชน และ OTOP
- - สามล้อถีบ
- - ร้านทำผม ทำเล็บ
- 3.2 หน่วยงานธนาคารกรุงไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย)
- - ผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ (เช่น TAXI-METER รถตู้โดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น)
- - ร้านให้บริการนวดสปา ที่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ
- - ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก (ภ.ง.ด. 50) รอบบัญชีปี 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568*
- 3.1 หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย)
- 4. นำเอกสารที่ได้รับการรับรองเรียบร้อยแล้ว ติดต่อ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ: * เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
คำถาม : กรณีร้านค้าต้องการยกเลิกเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส?
- คำตอบ : สามารถเข้าไปทำรายการได้ที่ www.ถุงเงินกรุงไทย.com ที่แถบเมนู "จัดการร้านค้า"