ฟังแล้วฟิน "แอฟ ทักษอร" เล่าจุดเริ่มต้น พร้อมเหตุผลที่ "นนกุล" เอาชนะใจสำเร็จ
ออกมาเปิดใจแบบไม่มีกั๊กอีกต่อไปแล้ว สำหรับนางเอกสาว แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ถึงเรื่องความรักครั้งใหม่กับหวานใจรุ่นน้อง นนกุล-ชานน สันตินธรกุล ผ่านทางรายการ แฉ
โดย แอฟ ทักษร ได้ย้อนเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้หัวใจกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง พร้อมเผยวิธีการบอกลูกสาว น้องปีใหม่ ให้รับรู้จากปากของตัวเอง
จุดเริ่มต้นเกิดจากละคร ?
“ใช่ค่ะ แล้วก็เป็นครั้งแรกเลยนะคะ ที่รักซีรีส์ของ GMM ก็เจอ นนกุล เลย”
ทุกการเล่นละครต้องมีการเวิร์กช้อปก่อน แอฟ กับ นนกุล คือทดลองเป็นแฟนกันจริงๆ ?
“ตามบทค่ะ เรื่องหลักของซีรีส์คือการที่เราทดลองเป็นแฟนกันจริงๆ 3 เดือน จริงๆ เหมือนละครทุกเรื่องเลยที่มีการเวิร์กช้อป แต่บังเอิญช่วงนั้น แอฟ เป็นโควิด เรามาบวงสรวงที่นี่กลับไปก็เป็นเลย จึงต้องหยุดอยู่ที่บ้าน ด้วยความที่เขาเป็นคนขยัน เลยถามว่า พี่จะหยุดอยู่เฉยๆ เหรอ (หัวเราะ) เราเวิร์กช้อปกันไหม อย่างน้อยจะได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เผื่อจะได้เจอทางในการแสดงด้วย”
“เราโทรศัพท์เวิร์กช้อปกันค่ะ ไม่ได้ได้วิดีโอ ได้ยินตอนแรกก็ตกใจชวนเวิร์กช้อปทางโทรศัพท์ ก็เลยพิมพ์กลับไปว่า พี่เจ็บคอ (หัวเราะ) พี่เป็นโควิด พี่เจ็บคออยู่ เดี๋ยวหายแล้วเดี๋ยวบอกนะ คือมันเป็นปฏิกิริยาออโต้ในการที่จะปฏิเสธหรือกันไว้ก่อนเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย”
เขาตื้อไหม ?
“ไม่ๆ เขาไม่ได้ตื้อเลยค่ะ แต่พอเรามีเวลา ได้สติ เราก็มาคิดว่า หรือเด็กรุ่นใหม่เขาทำงานกันแบบนี้ เขาจะไม่ปล่อยไหล ปล่อยชิล หรือรอฟีลมาเหมือนสมัย แอฟ เด็กๆ คือเขาต้องเวิร์กช้อปและทำการบ้าน ซ้อมคู่กันจริงๆ และการที่จะเกิดเคมี มันต้องมีอะไรมากกว่าการที่เราจะต้องพูดบทอะ”
“พอได้สติแล้ว ก็อะ ทำก็ได้ ลองดูในทางใหม่ๆ คิดได้ไม่นานๆ วันเดียวๆ พอวันรุ่งขึ้นก็พิมพ์กลับไปว่า หายเจ็บคอแล้วค่ะ (หัวเราะ) แอฟก็คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน ก็คุยกันแบบในมุมมองของตัวละครเลยค่ะ ซึ่ง นน เป๊ะมากค่ะ เขาส่งมาเป็นคู่มือเลย ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 เขาบอกว่าทั้งหลายก็เพื่อ แอฟ เอง ทุกอย่างเป็นตัวละครหมดเลยค่ะ ตัดตัวตนของตัวเอง ไม่ใช่การคุยแบบ แอฟ-นนกุล”
“ก็คุยกันเป็นตัวละคร คุยกันทุกวัน วันละ 15 นาที มีช่วงหลังๆ เริ่มเกินเวลา ก็ไม่มีพิรุธอะไร ตอนเลยเวลาก็เป็นตัวละคร จริงๆ เรามาสนิทกันช่วงหลังๆ หลังจากถ่ายจบไปแล้ว”
อินกับบท เลยต้องต่อเนื่อง ?
“แอฟไม่เคยอิน เล่นละครมาตั้งเยอะ”
ทำไมต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ?
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ มันเป็นความเคยชิน คุยแล้วสบายใจ แอฟได้เอเนอร์จี้ใหม่ๆ โดยเฉพาะการทำงาน ช่วงที่ถ่ายละครก็จะคุยเยอะเรื่องงาน เรื่องการแสดง ถึงเขาจะเด็กกว่าแต่เป็นนักแสดง 1 ท่านเลยที่แอฟยอมรับการแสดงเขา แอฟถามหมดเลย ทำอะไรบ้าง ทำยังไง ขอก๊อป (หัวเราะ) น้องเป้นคนตั้งใจสุดๆ ทำการบ้าหนนักมาก เรียนแอคติ้งมาเยอะ เวิร์กช้อปมาเยอะ เด็กสมัยนี้เรียนเยอะมาก เรียนกับอาจารย์หลายคน”
เขาเป็นคนจริงจังมากๆ ?
“ใช่ค่ะ”
จริงจังจะขอแต่งงานหรือยัง ?
“(ส่ายหัว)”
เขาบอกอยากมีลูก ?
“อ๋อ เขาอาจจะหมายถึงแพลนในชีวิต เขาเป็นจริงจัง มีแบบแผนในชีวิต แต่ของแอฟเป็นคนละอย่าง แอฟจะตามฟีล (หัวเราะ) ถ้าใช่ก็คือใช่ เหมือนที่คนถามมาตลอดว่าจะมีแฟนใหม่ไหม จะยังมีความรักได้อีกไหม จะแต่งงานใหม่ไหม จะมีลูกใหม่ไหม แอฟจะบอกว่าตอบไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่ากั๊กนะคะ แต่มันคือว่าเดี๋ยวรู้สึกยังไง ก็เป็นแบบนั้นในตอนนั้น แต่ก็จะต่างจากเขาที่จะชัดเจนเลยว่าจะต้องมีแบบแผน”
ฟีลเราตอนนี้ ?
“แฮปปี้ค่ะ (ยิ้ม)”
เรามีวิธีพูดกับลูกสาวเรายังไง ในเรื่องนี้ ?
“จริงๆ ตอนแรกไม่ได้พูดค่ะ เพราะปล่อยทุกอย่างไปตามธรรมชาติ เพราะช่วงที่เราสนิทกันแรกๆ ก็มีไปทำกิจกรรมกันบ้าง เช่น ไปตีแบด ไปดูละครเวที เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเดอะแก๊งเรา เพราฉะนั้นปีใหม่ก็จะคุ้นเคยเรื่อยๆ สนิทกันเรื่อยๆ คือแอฟเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไรลูก ช่วงหลังเริ่มชัดเจนว่าไม่ได้เหมือนเพื่อนแม่คนอื่นๆ ก็บอกปีใหม่ ไม่อยากให้เขาไปฟังจากคนอื่น อยากให้ฟังจากเรา บอกความจริงเขา”
แอฟ เป็นคนกำแพงสูง ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำลายกำแพงได้ ?
“นั่นสิ (หัวเราะ) อาจจะเป็นเพราะว่าเรารู้สึกสบายใจ ปลอดภัย เพราะเริ่มจากเพื่อนร่วมงานก่อน แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่อย่างเวลาจะเวิร์กช้อปจะมาพร้อมคู่มือ มีพร้อมทุกอย่าง คิดรอบคอบ ระวังหมดเลย เราก็รู้สึกปลอดภัย น่าจะเป็นแบบนั้น แล้วสบายใจอีกอย่างคือเป็นคนพูดตรงๆ ไม่มีลีลา ไม่มีงอน ส่วนเรามีงอนบ้าง (หัวเราะ)”
รอฟังข่าวดี ?
“ค่ะ รอฟังด้วย”
จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ไหม ?
“ยังไม่เร็วๆ นี้ค่ะ”