เนื้อหาในหมวด ข่าว

คุ้มไหม?! สาวขอลดค่าเช่าห้อง อึ้งเจ้าของ “ให้อยู่ฟรี” เสนอใช้หนี้ให้แลกกับ 1 สิ่ง

คุ้มไหม?! สาวขอลดค่าเช่าห้อง อึ้งเจ้าของ “ให้อยู่ฟรี” เสนอใช้หนี้ให้แลกกับ 1 สิ่ง

 คุ้มไหม?! สาวเงินติดขัด ขอลดค่าเช่าห้อง อึ้งเจ้าของ “ให้อยู่ฟรี” เสนอใช้หนี้ให้ แลกกับ 1 สิ่ง

เว็บไซต์ Soha รายงานเรื่องราวของหญิงสาวชาวเวียดนามคนหนึ่ง ที่ออกมาบอกเล่าประสบการณ์เช่าห้องพัก เมื่อเธอเดือดร้อนเรื่องเงินจนต้องตัดสินใจขอส่วนลดค่าห้อง แต่เจ้าของที่พักกลับใจดีให้ข้อเสนออยู่ฟรี พร้อมทั้งยินดีชำระหนี้สินให้ หากยินยอม “แต่งงาน” กัน

โดยเธอเล่าว่า เดือนแรกของการย้ายเข้าห้องพักแห้งใหม่ ได้อธิบายสถานการณ์ที่ยากลำบากของตัวเองให้เจ้าของที่พักฟังฉันเป็นคนทำงาน เงินเดือนของฉัน 8 ล้านดอง รวมค่าล่วงเวลาด้วย (ประมาณ 11,400 บาท)

ก่อนหน้านั้น ยังเคยมีการกู้ยืมเงินดอกเบี้ยสูงทางออนไลน์ ซึ่งต้องขอบคุณความช่วยเหลือที่ทันท่วงทีของเพื่อนๆ ทำให้สามารถปลดหนี้ได้ ตอนนี้เธอจึงเป็นหนี้เพื่อนอยู่ประมาณ 200 ล้านดอง (ประมาณ 285,000 บาท) โดยที่ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย

เพื่อที่จะมีเงินใช้หนี้ ต้องย้ายไปเช่าห้องที่ราคาถูกกว่าซึ่งอยู่ไกลจากบริษัท สุดท้ายยังต้องขอร้องเจ้าของบ้านให้ช่วยลดค่าห้องให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกฝ่ายคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนบอกว่าจะยอมลดค่าห้องให้ 2-3 เดือน เธอรีบขอบคุณมันที รู้สึกว่านี่คือเจ้าของที่พักที่ใจดีที่สุดเท่าที่เคยพบมา

และเพื่อเป็นการขอบคุณในน้ำใจจากเจ้าของที่พัก ทุกครั้งที่ครอบครัวส่งอาหารอร่อยๆ มาให้ เธอก็จะเอามาแบ่งปันให้กับเขาด้วย สุดท้ายจึงกลายเป็นว่าเขาลดค่าห้องให้เธอตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แบบที่เรียกได้ว่าแทบจะให้อยู่ฟรีๆ

อย่างไรก็ดี เมื่อคืนตอนที่เธอกลับจากที่ทำงาน จู่ๆ เจ้สของที่พักก็นำดอกไม้และของขวัญมาให้ เธอรีบปฏิเสธทันทีเพราะกลัวว่าถ้าภรรยาของเขารู้เรื่องนี้ ตนเองคงจะตกอยู่ในอันตราย อีกฝ่ายจึงรีบชี้แจงว่าไม่มีภรรยาหรือลูก และกำลังมองหาคู่ครองโดยหวังว่าเธอจะให้โอกาสเขา

ทั้งนี้ แม้ว่าเธอจะเรียกเจ้าของที่พักว่า “พี่” แต่จริงๆ เขาอายุ 50 กว่าปีแล้ว เป็นชายในวัยที่มีผมหงอกครึ่งหนึ่ง อายุมากกว่าเธอถึง 20 ปี แล้วจะรักกันได้ยังไง…?

แต่เจ้าของที่พักยังบอกอีกว่า ถ้าเธอตกลงจะแต่งงานกับเขา เขาจะจัดการเรื่องหนี้ให้ด้วย โดยอวดว่าปัจจุบันเขามีอพาร์ตเมนต์ 3 ตึก มีรายได้เดือนละหลายสิบล้านดอง ถ้าเธอเป็นภรรยาของเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องทำงานอีกต่อไป แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกก็พอ สุดท้ายเธอจึงบอกให้เขาให้เวลาเธอคิดก่อน

อย่างไรก็ดี ทันทีที่เจ้าของที่พักจากไป เพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์เป็นเวลานานก็เข้ามาคุยกับเธอเตือนว่าผู้ชายคนนี้มีเงินมากมายก็จริง แต่ใช้ชีวิตตระหนี่อย่างมากด้วยเช่นกัน อดีตภรรยาของเขาทนไม่ไหวจนถึงกับต้องฟ้องหย่า

เพื่อนบ้านยังเตือนด้วยว่า ธรรมชาติของมนุษย์เปลี่ยนแปลงยาก ดังนั้นจึงไม่ควรโลภแต่งงานแค่เพราะเขารวย อย่าเดินตามรอยภรรยาคนก่อนของเขา แต่เธอก็ยังคงคิดว่าเจ้าของบ้านลดค่าเช่าให้เธอทั้งปี เขาจะเป็นคนตระหนี่จริงหรือ สุดท้ายจึงยังไม่แน่ใจว่าควรเปิดใจทำความรู้จักกับเขาดีมั้ย?