เนื้อหาในหมวด ข่าว

คดีสุดแปลก ลูกถูกประตูหนีบ พ่อเรียก \

คดีสุดแปลก ลูกถูกประตูหนีบ พ่อเรียก "ชดเชย" จากสาวที่เดินผ่านมา ด้วยเหตุผล 1 ข้อ

 แบบนี้ก็ได้เหรอคุณพ่อ?! ลูกชายถูกประตูหนีบมือ เรียกร้องการ "ชดเชย" จากผู้หญิงที่เดินสวนออกมา เผยเหตุผล 1 ข้อ คือ“ไม่ช่วยจับประตูไว้ให้” ทำชาวเน็ตรุมดึงสติ

กลายเป็นกรณีถกเถียงอย่างรุนแรงในโซเชียลเน็ตเวิร์คของเกาหลีใต้ หลังจากเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการโพสต์บทความในฟอรั่มออนไลน์ในหัวข้อ "อุบัติเหตุเด็กถูกประตูหนีบ พ่อแม่ของเด็กชายขอให้ผู้หญิงที่เดินผ่านมาจ่ายค่าชดเชย" พร้อมทั้งแนบวิดีโอจากวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

สถานการณ์ในขณะนั้น เด็กชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กำลังเดินตามพ่อของเขาออกไปนอกโรงแรม โดยหลังจากที่ลูกของเขาเดินออกมาพ้นประตูแล้ว เขาก็ปล่อยมือให้ประตูปิดลงทันทีโดยไม่ได้หันมามองอีกครั้งให้แน่ใจในความปลอดภัย

อย่างไรก็ดี ในจังหวะที่ประตูกำลังจะปิดลงนั้นเอง มีผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งเดินตามออกมา เธอผลักประตูให้เปิดออกกว้างอีกครั้งแล้วเดินออกไปตามปกติ จากนั้นเมื่อประตูใกล้จะปิด จู่ๆ เด็กชายก็พยายามจะกลับเข้าไปในโรงแรมอีกครั้ง แต่ทันทีที่ยื่นมือออกไปกลับถูกประตูปิดทับ จึงรีบดึงมือออกทันทีด้วยสีหน้าเจ็บปวด

ชาวเน็ตที่ได้ดูเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ต่างแสดงความรู้สึกไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าผู้ปกครองของเด็กชายต้องการเรียกร้องให้หญิงสาวผมสั้นชดใช้ค่าเสียหาย คอมเมนต์ส่วนหนึ่งบอกว่า "ทำไมเขาต้องขอเงินชดเชยจากผู้หญิงคนนี้ด้วย", "ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย", "มันเป็นความประมาทเลินเล่อของพ่อแม่...”

ที่จริงแล้ว มีสถานการณ์ที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในเกาหลี เมื่อปี 2019 ที่ร้านไก่ทอดแห่งหนึ่งในเขตกวานัก กรุงโซล หลังจากที่พ่อของเด็กเปิดประตูเดินออกไป ชายอีกคน (เรียกว่านาย ก.) ก็คว้าประตูเข้าไปในร้านทันที แต่ในจังหวะที่ประตูกำลังจะปิดลงเด็กชายวัย 4 ขวบคนหนึ่งก็รีบวิ่งออกไป ทำให้นิ้วกลางและนิ้วนางของเด็กถูกประตูหนีบ

อัยการได้ดำเนินคดีเบื้องต้นกับ ก.  ฐานทำให้ได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวโต้แย้งว่า "ในขณะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาได้ว่าเหยื่อจะได้รับบาดเจ็บ และในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้ละเมิดหน้าที่การดูแลที่จำเป็น"

เป็นผลให้ศาลตัดสินให้ A จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 2.5 ล้านวอน (ประมาณ 64,870 บาท) ในขณะนั้น ศาลประกาศว่า  “อาการบาดเจ็บของเหยื่อนั้นร้ายแรงมาก และอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านสุขภาพของเหยื่อ การบาดเจ็บของเหยื่ออาจเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ปกครอง แต่ความประมาทเลินเล่อของจำเลยก็ไม่สามารถไม่ถือโทษได้"