Classic Again การกลับมาของหนังรักในดวงใจ เวอร์ชั่นฝีมือคนไทย

04/02/2020 (16:32 น.)

ยุคสมัยที่หนังเกาหลีเฟื่องฟูอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2000 มีหนังจากแดนกิมจิมากมายหลายเรื่องที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา แน่นอนว่าถ้าหากไล่เรียงรายชื่อของหนังเกาหลีที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำของผู้ชมชาวไทย The Classic (คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต) จะต้องผุดขึ้นมาอย่างแน่นอน

 

 

ความโด่งดังของ The Classic

 

ถ้าพูดถึงชื่อผู้กำกับชาวเกาหลีอย่าง กวัก แจ-ยง แล้วหลายคนที่เป็นคอหนังเกาหลี จะต้องคุ้นชื่อของเขาอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นเจ้าของผลงานเรื่องดังอาทิ My Sassy Girl, Windstruck, My Mighty Princess และอีกหลากหลายเรื่อง แต่สำหรับ The Classic แล้ว นี่อาจจะเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขาก็ว่าได้

 

The Classic บอกเล่าเรื่องราวสองยุคสมัยระหว่างยุคปัจจุบันและยุคอดีต มีจุดเด่นคือนางเอกอย่างซอน เยจินของเรื่องจะรับบทเป็นสองตัวละคร ซีเฮลูกสาว (ยุคปัจจุบัน) และจูฮี แม่ (อดีต) ซึ่งซีเฮกำลังเผชิญกับสถานการณ์ความรักที่ยากจะหาทางออก แต่เมื่อเธอได้พบกับกล่องไม้ที่เก็บจดหมายของแม่เธอเอาไว้ เมื่อเธอเริ่มเปิดอ่านทีละฉบับ เธอก็ค้นพบว่าเรื่องราวของตัวเองและแม่เธอนั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าฉงน

 

 

จุดเด่นประการสำคัญที่ทำให้ The Classic ตราตรึงใจผู้ชมมาจนถึงทุกวันนี้ ประกอบไปด้วยเนื้อเรื่องอันสุดแสนจะน้ำเน่า (และแน่นอนว่ามันเป็นสูตรสำเร็จของหนังโรแมนติกดราม่าที่คนดูเคยผ่านตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน) แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องและบิดรายละเอียดยิบย่อยให้ออกมาร่วมสมัย หลายฉากที่ปรากฏอยู่ในหนังจึงกลายเป็น “ภาพจำ” อาทิ ฉากเสื้อแจ็คเกตกันฝน สะพานหิ่งห้อย หรือ กระทั่งฉากจูฮีขาแพลงกลางป่า ก็ล้วนแล้วแต่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชม

 

 

บรรดานักแสดงนำในหนังอาทิ ซอน เยจิน ที่ยังถือว่าเป็นดาราหน้าใหม่ในยุคปี 2003 หลังจากเธอแสดงหนังเรื่อง The Classic แล้ว ซอน เยจินก็กลายเป็นดาราเนื้อหอมขึ้นมาทันที เช่นเดียวกันกับนักแสดงชายอีก 2 คนอย่างโจซึงวู และโจ อิน ซอง ที่ผู้ชมเริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น

 

                                                                                           

คุณูปการสำคัญที่ทำให้ The Classic กลายเป็นหนังที่สุดแสนจะโรแมนติก คือเพลงประกอบภาพยนตร์ซึ่งมีความไพเราะเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเอกของเรื่องอย่าง Me to you, you to me โดยวง Jatanpung คงต้องบอกว่าเสียงของเครื่องสายอย่างกีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้า รวมถึงเนื้อเพลงได้สอดผสานกันอย่างลงตัว (สามารถฟังได้ที่นี่: https://youtu.be/PQ6frjY7aaY )

 

 

Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ

 

การดัดแปลง The Classic สู่เรื่องราวภายใต้ฉากหลังของประเทศไทย ภายใต้ชื่อใหม่ “Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ” ซึ่งได้ผู้กำกับธัชพงศ์ ศุภศรี ซึ่งมารับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เต็มตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับมาตั้งแต่หนังเรื่อง ตีสาม ภาค 2 เรื่องกงต็ก และคืน 3 (2013) ยาวมาจนถึงหนังเรื่องนายไข่เจียวเสี่ยวตอปิโด (2017)  

 

สาเหตุที่ Classic Again ออกมาเป็นรูปเป็นร่างเริ่มต้นจากการที่ธัชพงศ์ ศุภศรีได้รับการติดต่อจากคุณชายอดัมหรือม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ว่าเขาสนใจอยากจะทำหนังเรื่องไหนจากค่าย CJ Entertainment แน่นอนว่า เขาเลือกหนังในดวงใจอย่าง The Classic แล้วก็ได้เข้ามาพูดคุยกับทาง M Pictures และ CJ Major จนออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ในที่สุด

 

ความท้าทายในการดัดแปลงหนังเกาหลีให้มาอยู่ภายใต้บริบทไทยๆ คือการเล่าเรื่องราวย้อนยุค ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้เหตุการณ์ในรุ่นพ่อแม่จะเกิดขึ้นในสมัย พ.ศ.2510 การใส่รายละเอียดในยุคสมัยดังกล่าวทีมงานจึงต้องทำการบ้านทั้งเรื่อง ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม รวมไปถึงฉากหลังต่างๆให้มีความสมจริงที่สุดนั่นเอง

 

 

จับตานางเอกใหม่แกะกล่อง มิ้นท์ - รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร

 

มิ้นท์ - รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตรคือนักแสดงที่ต้องเข้ามาสวมบทเป็นสองตัวละครทั้งดาหลา (รุ่นแม่) และ โบต้า (รุ่นปัจจุบัน) ซึ่งเหตุผลที่ผู้กำกับเลือกมิ้นท์มารับบท เพราะนอกจากความมีเสน่ห์แล้ว สิ่งที่มินท์โดดเด่นมากคือแววตาของเธอนั้น มีทั้งส่วนผสมของความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ในตัว ซึ่งการมองหาสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หายากมากเหมือนกันในบรรดาคนที่เข้ามาแคสติ้ง

 

ตัวละคร“ดาหลา” เป็นคนที่สดใสร่าเริง มองโลกแง่บวก เป็นคนที่อยู่ในระบบ ระเบียบ ในกฎเกณฑ์ ทางบ้านมีฐานะ และค่อนข้างแบ่งชนชั้น จะคัดเลือกเพื่อนในระดับเดียวกัน และหาคู่ครองที่เหมาะสมมาให้ ในขณะที่ตัวละคร “โบต้า” จะเป็นเด็กที่ค่อนข้างหัวสมัยใหม่ เป็นคนที่แบบมั่นใจในตัวเอง กล้าตัดสินใจ เป็นคนที่ขยันมุ่งมั่น สนิทกับพ่อกับแม่ ครอบครัวจะมีความอบอุ่น แต่ว่าแม่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ เลยต้องอยู่คนเดียว เป็นเด็กมหาลัยที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว เธอจึงมีความสู้ชีวิต

 

 

สองดาราหนุ่มผู้กุมหัวใจดาหลาและโบต้า

 

นิว – ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ผู้รับบทเป็นขจร วัยรุ่นที่เฮฮากับเพื่อนๆ แต่เขาจะกลายเป็นคนอบอุ่นเมื่อเขาได้อยู่ใกล้กับคนที่เขารัก และคนๆนั้นก็คือดาหลา รักเดียวใจเดียว และรักครั้งแรกของขจรทุกสิ่งทุกอย่างเขาสามารถมอบให้กับผู้หญิงคนนี้คนเดียว เรื่องความรักเค้าจะเด่นมาก จนเขารู้สึกว่า เขาไม่เก่งอะไรเลย นอกจากรักดาหลา

 

 

จี๋ - สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร ผู้รับบทเป็นนน ชายหนุ่มที่โบต้าแอบชอบ โดยที่เธอก็ไม่รู้เลยว่านนเองก็แอบตกหลุมรักเธอเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะพยายามแอบมองเธอ และพยายามเข้าไปมีตัวตนในชีวิตของโบต้า แต่ด้วยความขี้อาย เขาเลยต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ลึกๆ