พยาบาลเตือน ตั้งนาฬิกาปลุกถี่ๆ เสี่ยงตาย ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง
หลายคนชอบทำ ตั้งนาฬิกาปลุกถี่ๆ ตอนเช้า พยาบาลเตือนทำลายสมอง ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง
เว็บไซต์ New York Post รายงานว่า พยาบาลสาวได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านโซเชียล เตือนคนที่ชอบตั้งนาฬิกาปลุกถี่ๆ แล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ ในตอนเช้า หากทำเป็นประจำทุกวัน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
โดผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อก @jordan.bruss ได้แชร์คลิปวิดีโอ ความยาว 37 วินาที มียอดดูมากกว่า 10 ล้านครั้ง "ถ้าคุณเป็นคนตั้งนาฬิกาปลุกหลายครั้ง ฉันมีข่าวร้าย อย่าโกรธกันนะ แค่อยากเตือน" เธอกล่าวในคลิป
หากคุณตั้งนาฬิกาปลุกหลายครั้งเพื่อกดเลื่อนเวลาตื่นในตอนเช้า คุณอาจกำลังทำร้ายตัวเองอยู่ โดยอธิบายว่า การทำเช่นนี้เป็นประจำจะส่งผลกระทบในแง่ลบ ต่อวงจรการนอนหลับในช่วงหลับฝัน (REM) ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายได้หลับลึก อวัยวะในร่างกายส่วนใหญ่หยุดทำงานหรือทำงานช้าลง ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ซึ่งจะทำให้ง่วงนอนมากขึ้น เหนื่อยล้า อารมณ์แปรปรวน และยังทำให้ระดับคอร์ติซอลของคุณสูงขึ้นด้วย โดยทุกครั้งที่นาฬิกาปลุกดัง แล้วคุณกำลังอยู่ในภาวะหลับลึก การตื่นขึ้นมาแบบนั้นหลายๆ ครั้งในตอนเช้าจึงอาจทำให้เกิดความเครียดได้ง่ายขึ้น เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นทุกครั้งจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา “ต่อสู้หรือหนี” หรือ Fight or Flight Response คือการตอบสนองความเครียดเฉียบพลันของเรา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเรารับรู้ว่ามีบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวทางจิตใจหรือร่างกาย อาจทำให้เกิดความเครียดในระยะยาว ภาวะซึมเศร้า และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ความตึงเครียดที่สร้างขึ้นในร่างกายของคุณจากการขาดการนอนหลับที่สม่ำเสมอ สามารถนำไปสู่การน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เธอได้แนะนำวิธีฝึกฝนหรือปรับนิสัยการตื่นนอนเพื่อสุขภาพที่ว่า ควรฝึกให้ตัวเองเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิมเป็นประจำทุกวัน แม้กระทั่งในวันหยุด เพื่อให้ร่างกายและสมองคุ้นเคยกับนาฬิกาชีวภาพ (Circadian rhythm) ซึ่งจะทำให้วงจรการนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ เธอได้หยิบยกคำแนะนำของชาวเน็ตท่านหนึ่งโดยมองว่าเป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์ คือควรวางนาฬิกาปลุกหรือโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกไว้ในอีกห้องหนึ่ง หรือไม่ได้อยู่ในระยะที่เอื้อมมือถึง เพื่อให้ตัวเองต้องลุกขึ้นมาจากเตียง เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก
“อย่าทำร้ายตัวเองต่อไป!” เธอประกาศ “เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า ตื่นเถอะ!”