เนื้อหาในหมวด ข่าว

พ่อป่วยหนักเสียใจลูกไม่มาหา ยกมรดกให้เพื่อนบ้าน รู้ความจริงร้องไห้ ที่แท้เข้าใจลูกผิด

พ่อป่วยหนักเสียใจลูกไม่มาหา ยกมรดกให้เพื่อนบ้าน รู้ความจริงร้องไห้ ที่แท้เข้าใจลูกผิด

พ่อเสียใจลูกชายไม่มาหาตอนป่วยหนัก เขียนพินัยกรรมยกมรดกให้เพื่อนบ้าน เพิ่งมารู้ความจริงทีหลัง เหตุผลที่ลูกหายไป

นายลี่ ชายชาวจีนอายุ 70 ปี มีลูกชายคนเดียวชื่อเฉียง อายุ 35 ปี ทำงานเป็นผู้จัดการระดับกลางในบริษัทเอกชน เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา นายลี่เกิดอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน ต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน หลังจากตรวจร่างกาย แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด และต้องเข้ารับการฉายรังสีเป็นเวลา 2 เดือน เมื่อทราบข่าวนี้ คุณลี่รีบโทรหาลูกชายคนเดียวทันที แต่แทนที่ลูกชายจะลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพ่อ ลูกชายกลับพูดคำพูดที่พ่อแม่คนไหนก็ไม่อยากได้ยินว่า

"ตอนนี้พ่อเข้าโรงพยาบาลแล้ว และมีหมอดูแล พ่อแค่ฟังคำสั่งหมอ กินยาตรงเวลา อาการก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้งานของผมยุ่งมาก ผมยังกลับไปไม่ได้ พ่อดูแลตัวเองนะ"

นายลี่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในตอนแรกเขาหวังว่าลูกชายจะพาภรรยาและหลานมาเยี่ยม แต่ความจริงแล้วลูกชายของเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะมาเยี่ยมสักวันเดียว

"คืนนั้น ฉันนอนอยู่คนเดียวบนเตียงผู้ป่วย น้ำตาคลอ ตั้งแต่ลูกชายไปเรียนและทำงานในเมือง เขากลับมาเยี่ยมบ้านน้อยมาก ตอนนี้ฉันนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล พวกเขายังไม่มีเวลาแม้แต่วันเดียวที่จะกลับมาเยี่ยม ฉันเข้าใจว่าการทำงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในเวลาที่ป่วยนี้ ฉันต้องการคนมาดูแลจริงๆ" 

แม้จะไม่มีลูกมาช่วยเหลือ แต่ในช่วงเวลาที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล นายลี่ยังโชคดีที่มีเพื่อนบ้านอย่าง เสี่ยวฮา ที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ทุกเรื่องตั้งแต่เอกสาร ค่ารักษา ไปจนถึงอาหารการกินและการนอนหลับ ล้วนเป็นเรื่องที่เพื่อนคนนี้จัดการให้

นายลี่รักษาตัวที่โรงพยาบาลถึงเดือนที่สอง ลูกชายของเขาจึงโทรมาถามหมายเลขห้องเพื่อจะมาเยี่ยม แต่การพบกันครั้งนั้นก็ใช้เวลาเพียงประมาณ 30 นาที จากนั้นลูกชายก็รีบร้อนจากไป เมื่อเห็นภาพนี้ นายลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ด้วยโรคมะเร็งและความคิดถึงเรื่องลูก ทำให้อาการของเขาทรุดลงเรื่อย ๆ

หลังจากการรักษาเป็นเวลา 2 เดือน แพทย์แจ้งว่าอาการของนายลี่ไม่ได้ดีขึ้น แต่กลับทรุดลงจนถึงขั้นวิกฤต จึงจำเป็นต้องผ่าตัดด่วน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดครั้งนี้มีโอกาสสำเร็จเพียง 50% เมื่อได้ยินเช่นนั้น นายลี่รู้สึกท้อแท้และกังวลขณะนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

"ผมมีความอดทนกับลูกชายเสมอ ไม่เคยเรียกร้องเวลาและเงินทองจากเขามากเกินไป แต่ในช่วงเวลาที่ใกล้ความตาย ลูกชายก็ยังไม่สามารถหยุดงานมาหาผมได้สักวัน สิ่งนี้ทำให้ผมในฐานะพ่อรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด" นายลี่เล่าด้วยความเศร้าใจ

ในขณะนั้น นายลี่คิดว่าหากการผ่าตัดสำเร็จ เขาจะทำการแก้ไขพินัยกรรมใหม่ เงินเก็บทั้งชีวิตจะถูกยกให้กับคนที่ดูแลเขาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นั่นก็คือ เสี่ยวฮา เพื่อนบ้านของเขา 

วันนั้น นายลี่ได้เข้ารับการผ่าตัดที่ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง คนที่พาเขาเข้าห้องผ่าตัดและรอรับออกมาก็ยังคงเป็นเสี่ยวฮา ลูกชายแท้ๆ ของเขายังไม่ได้โทรมาหาพ่อก่อนวันผ่าตัดเลย

หลังการผ่าตัด นายลี่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 1 เดือนก่อนจะได้กลับบ้าน ในวันเดียวกันนั้น นายลี่ได้ไปที่สำนักงานทนายความพร้อมกับเสี่ยวฮาเพื่อแก้ไขพินัยกรรม เขาตัดสินใจยกบ้านทั้งสองหลังและเงินเก็บ 1 ล้านหยวน (ประมาณ 4.9 ล้านบาท) ให้กับเพื่อนบ้านของเขา

ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากแก้ไขพินัยกรรม ลูกชายของนายลี่ก็กลับมาบ้าน ตอนนั้นเองที่นายเฉียงลูกชาย บอกกับพ่อถึงเหตุผลที่เขาไม่สามารถอยู่ดูแลพ่อในช่วงที่ป่วยได้ เพราะต้องการมีงานที่มีรายได้สูงขึ้นเพื่อช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พ่อ เขาจึงย้ายไปทำงานที่บริษัทใหม่ เนื่องจากต้องจัดการเอกสารและขอรับรองจากหลายฝ่าย ลูกชายจึงไม่สามารถดูแลพ่อในช่วงเวลานั้นได้

เมื่อได้ฟังเช่นนี้ พ่อและลูกชายทั้งสองก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน ตอนนั้นเองที่นายลี่ได้ตระหนักว่าลูกชายได้ดูแลเขาในวิธีของเขาเอง เขาเพิ่งรู้ว่าลูกชายตั้งใจหาเงินเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้พ่อโดยไม่ต้องใช้เงินเก็บของครอบครัว ในขณะที่ตัวเขาเองกลับเข้าใจลูกชายผิดไป

"หลังจากนั้น ผมก็ต้องเปลี่ยนพินัยกรรมอีกครั้ง ผมเริ่มเข้าใจว่าความรักในครอบครัวไม่ใช่การแลกเปลี่ยนที่มีการตอบแทนกัน สิ่งสำคัญคือพ่อแม่และลูกต้องมีความอดทนต่อกัน ในฐานะพ่อแม่ เราไม่ควรตัดสินลูกเพียงฝ่ายเดียว แต่ควรพยายามเข้าใจความต้องการของพวกเขา

ความเข้าใจผิดนี้ทำให้ผมตระหนักว่าผมควรสื่อสารกับลูกมากขึ้น แทนที่จะมีความขัดแย้งในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต ตั้งแต่นั้นมา ผมและลูกๆ ก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น และให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน แทนที่จะใส่ใจข้อบกพร่อง" นายหลี่เล่าด้วยความซาบซึ้ง


ลูกสาวพูดไม่ออก ดูแลพ่อป่วยติดเตียง 15 ปี กลับยกมรดกทั้งหมดให้ลูกชาย สุดท้ายคดีพลิก

ลูกสาวพูดไม่ออก ดูแลพ่อป่วยติดเตียง 15 ปี กลับยกมรดกทั้งหมดให้ลูกชาย สุดท้ายคดีพลิก

ลูกสาวทำใจ ดูแลพ่อป่วยติดเตียง 15 ปี กลับยกมรดกให้ลูกชาย สุดท้ายคดีพลิก โชคชะตาเล่นตลก สมบัติกลายเป็นของคนกตัญญู

ผู้เฒ่าปาดน้ำตา เข้าแอดมิท รพ.คนเดียว ไม่กล้าซื้อข้าวกิน ก้มโฟกัสที่ \

ผู้เฒ่าปาดน้ำตา เข้าแอดมิท รพ.คนเดียว ไม่กล้าซื้อข้าวกิน ก้มโฟกัสที่ "เท้า" ใครเห็นก็เศร้า

สะเทือนใจโลกออนไลน์ ผู้เฒ่าล้มในห้องน้ำ มีลูกแต่ต้องนอน รพ.อย่างโดดเดี่ยว อดอาหารเป็นวันๆ ก้มมอง “เท้า” ทุกคนยิ่งเศร้า

\

"บุ๋ม รัญญา" บ้านที่ จ.แพร่ ถูกน้ำท่วมหนัก คุณพ่อป่วยอัมพาต วอนคนเข้าช่วยเหลือ

บุ๋ม รัญญา เผยสภาพบ้านที่ จ.แพร่ ถูกน้ำท่วมหนัก คุณพ่อป่วยขึ้นชั้นบนไม่ไหว วอนคนช่วยเหลือด่วน

สะใภ้หน้าชา \

สะใภ้หน้าชา "แม่ผัว" ให้ยืมเงินผ่าตัดพ่อ 9 แสน แต่ได้ยินนินทาประโยคเดียว โอนคืนทันที!

สะใภ้หน้าชา พ่อนอนรอผ่าตัด โทรไปยืมเงิน "แม่ผัว" ใจดีให้เกือบล้าน แต่ก่อนวางสายได้ยินนินทาประโยคเดียว โอนเงินคืนทั้งหมดทันที!