แม่ไปจ่ายตลาดกับพ่อ ก่อนหายปริศนา 28 ปีกว่าลูกจะเจอ เล่าบีบหัวใจ "ถูกพาไปไหนมา"
แม่ไปจ่ายตลาด ก่อนหายปริศนา 28 ปีลูกตามจนเจอ รู้จากปาก "ถูกพาไปไหนมา" ยิ่งปวดใจ
เว็บไซต์ SOHU รายงานเรื่องราวของนางหลิน (นามสมมุติ) ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ชีวิตของเธอไม่เคยง่าย ทั้งต้องเลี้ยงดูลูกๆ และอดทนกับสามีที่ติดเหล้าและอารมณ์ร้อน อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยบ่น เลือกที่จะอดทนทุกอย่างอย่างเงียบๆ เสมอ แม้ว่าเมื่อเวลาที่สามีลงไม้ลงมือ ลูกทั้ง 4 คนมักจะยืนขึ้นเพื่อปกป้องแม่ของพวกเขา แต่ความแข็งแกร่งที่มีจำกัดทำให้พวกเขาไม่สามารถต้านทานต่อแรงโกรธของพ่อได้อย่างสมบูรณ์
วันหนึ่งในปี ค.ศ.1991 อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ทำลายชีวิตครอบครัว เมื่อสามีและภรรยาไปจ่ายตลาดด้วยกันแต่เช้า อย่างไรก็ดี แม้ว่าเด็กๆ จะเฝ้ารออย่างอดทนแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่กลับมา ลูกสาวคนที่สองเริ่มออกตามหาพ่อแม่ ระหว่างทางได้พบพ่อที่กำลังเป็นกังวลอย่างมาก เขาตะคอกอย่างสิ้นหวังว่า "แม่ของแกหายไปแล้ว!" คำพูดนี้ทำให้ลูกๆ ตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่ของพวกเขาหายตัวไปเช่นนั้น แม้ว่าเพื่อนๆ ญาติๆ จะช่วยค้นไปทั่วทั้งหมู่บ้านก็ยังไม่มีร่องรอย และแม้จะตัดสินใจรายงานต่อตำรวจ แต่ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ
หลังจากที่แม่หายตัวไป พ่อก็เศร้าโศก เขาไม่เพียงแต่ต้องดูแลลูกชายคนโตที่ป่วยเท่านั้น แต่ยังต้องแบกรับความรับผิดชอบของทั้งครอบครัวด้วย และไม่กี่ปีต่อมาเขาก็เสียชีวิต แต่ลูกๆ ยังคงค้นหาที่อยู่ของแม่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันหนึ่งมีคนในหมู่บ้านกลับมาจากการเดินทางเพื่อทำธุรกิจ และแจ้งข่าวว่าแม่เสียชีวิตแล้ว... เมื่อเวลาผ่านไปลูกๆ ก็ต้องค่อยๆ ยอมรับความจริงและสร้างแท่นบูชาให้แม่ ขณะที่ลูกชายคนโตก็จากไปเพราะสุขภาพไม่ดีแม้ว่าลูกสาวทั้งสามมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยพึ่งพาซึ่งกันและกัน เอาชนะวันที่ยากลำบากด้วยกัน ค่อยๆ เติบโตขึ้น แต่งงาน และมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ในปี 2019 หลังจากผ่านมา 28 ปี สายโทรศัพท์ที่ไม่คาดคิดก็ทำให้ชีวิตประจำวันของลูกสาวคนที่สองพลิกผัน ปลายสายบอกว่าขณะนี้แม่ของเธออยู่ในบ้านพักคนชราในมณฑลเหอหนาน พร้อมส่งรูปถ่ายและข้อมูลมายืนยันด้วย แม้ว่าผู้หญิงในภาพจะแก่กว่าแม่ในความทรงจำมากๆ แต่ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นเป็นแม่ที่เธอตามหามานานอย่างแน่นอน
ความจริงเกี่ยวกับวันคืนแห่งการ “เร่ร่อน”
หลังจากรับโทรศัพท์สายนั้น ลูกสาวทั้งสามจึงตัดสินใจไปหาคำตอบด้วยกัน ในที่สุดก็ยืนยันว่าผู้หญิงที่บ้านพักคนชรานั้น เป็นแม่ของพวกเขาจริงๆ ครอบครัวจึงได้กลับมารวมกันอีกครั้ง และได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว
ผู้เป็นแม่เล่าว่า ขณะไปตลาดตัดสินใจแยกกันซื้อของ แต่จู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้ามาชวนเธอไปเผาเครื่องหอมที่วัดใกล้ๆ เธอไม่มีข้อสงสัยใดๆ และตกลงที่จะตามพวกเขาไปอย่างมีความสุข แต่ยิ่งเดินมากเท่าไร ก็ยิ่งตระหนักได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบๆ เริ่มแปลกตา และห่างไกลจากบ้านเรือน
เมื่อรู้ว่าสายเกินไปแล้ว เธอก็ถูกบังคับให้ขึ้นรถไฟโดย “กลุ่มค้ามนุษย์” หลังจากการเดินทางอันยาวนานบนรถไฟและรถบัสจากนั้นก็ถูกขายให้กับชายคนหนึ่ง และถูกบังคับให้แต่งงาน แม้เธอจะพยายามหลบหนี แต่ก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานที่ตรงนั้น อีกทั้งเงินจำนวนเล็กน้อยที่นำติดตัวมานั้นก็ไม่เพียงพอ
ในขณะเดียวกัน ชายที่บังคับให้เธอแต่งงานด้วยนั้น ก็คอยเฝ้าจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เธออยู่ในสถานการณ์ที่มีโอกาสหลบหนี และน่าแปลกที่เขาปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ไม่เคยทุบตีเธอเลย แตกต่างไปจากสามีคนก่อนอย่างสิ้นเชิง เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ค่อยๆ ผ่อนปรนการกักบริเวณในบ้าน ในเวลานี้แม้ว่าจะมีโอกาสหลบหนี แต่เธอก็ลังเล…
เหตุผลที่เธอลังเลไม่ใช่เพราะเธอไม่คิดถึงลูกๆ ของเธอ แต่เพราะเธอกลัวว่าเมื่อกลับมาเธอจะถูกทุบตีหนักกว่าเดิม ดังนั้น หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ในที่สุดก็ตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือของเธอที่นี่ แต่ความสุขนั้นอยู่ได้เพียงชั่วครู่ เพราะสามีคนนี้ป่วยหนักและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน การจากไปของเขาทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเห็นเธออาศัยอยู่ตามลำพัง ชาวบ้านจึงพยายามช่วยเหลือทันที พวกเขาแนะนำให้เธอรู้จักกับชายม่ายในหมู่บ้านใกล้เคียง ทั้งคู่อายุมากแล้วสิ่งที่ต้องการในชีวิตนี้ก็แค่มีคนไว้พึ่งพาและเป็นเพื่อน ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนถึงวันที่ฝ่ายชายถึงแก่กรรมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทราบสถานการณ์ จึงตัดสินใจส่งเธอไปอยู่ในบ้านพักคนชรา ด้วยความเห็นอกเห็นใจและต้องการดูแลเธอ
นับตั้งแต่นั้นเธอจึงอาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านพักคนชรา จนวันหนึ่งอยากกลับไปหาลูกๆ อีกครั้ง จึงขอให้เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราลงทะเบียนในโครงการตามหาญาติ ในที่สุด หลังจากเดินทางมาเกือบสามทศวรรษ เธอก็กลับมารวมตัวกับลูกๆ อีกครั้งเติมเต็มความปรารถนาในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต