เจ้าของอึ้ง วิลล่า 67 ล้าน ปล่อยไว้ 6 ปี รู้อีกทีถูกใครก็ไม่รู้ยึด กลายเป็นห้องเก็บขยะ
ซื้อวิลล่า 67 ล้าน ปล่อยว่างไว้ 6 ปี เข้าไปดูอีกทีเจอคนทำความสะอาดเข้าไปยึดเรียบร้อย เจ้าของแทบช็อก กลายเป็นห้องขยะ
เว็บไซต์ Sina News รายงานว่า เมื่อปี 2561 นายไป๋ ซึ่งอาศัยในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ได้ลงทุนซื้อวิลล่าเปล่าหลังหนึ่งที่ยังไม่ได้ตกแต่ง ขนาดพื้นที่ 375 ตารางเมตร ในราคาสูงถึง 14 ล้านหยวน (ประมาณ 67 ล้านบาท) โดยความตั้งใจของเขาในตอนแรกคือจะทำเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน
ภายหลังจากที่ซื้อวิลล่าหลังนี้มาได้สำเร็จ นายไป๋ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งการตกแต่งภายใน หรือแม้กระทั่งเข้าไปตรวจสอบดู เขาปล่อยว่างไว้เป็นเวลา 6 ปี แต่เขาก็จ่ายค่าธรรมเนียมทรัพย์สินว่างเป็นประจำทุกปี ปีละมากกว่า 17,000 หยวน (ประมาณ 81,000 บาท)
กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายไป๋ได้เข้าไปที่วิลล่าหลังนี้ แล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เผชิญ เขาพบว่ามีคนมาอาศัยอยู่ภายในวิลล่าของเขา รวมทั้งยังมีเครื่องมือทำความสะอาดอื่น ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกล่องกระดาษ ไม้ถูพื้น รวมไปถึงถังขยะหลายใบตั้งอยู่ในบ้าน เปลี่ยนวิลล่าราคาแพงของเขากลายเป็นห้องเก็บขยะ
เมื่อตรวจสอบชั้นใต้ดินที่ถูกล็อกไว้ก็พบว่ามีการปลดล็อกออก แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ต่อมานายไป๋ได้ทราบว่าคนที่มาอาศัยอยู่ในวิลล่าของเขานั้นเป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัทจัดการทรัพย์สิน
หลังจากมีการเจรจากับตัวแทนบริษัท พวกเขาตกลงว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้นายเฉิงเป็นเงินสด 100,000 หยวน (ประมาณ 481,000 บาท) พร้อมพื้นที่จอดรถส่วนหนึ่ง
แต่เรื่องไม่จบง่าย ๆ เมื่อทางบริษัทจัดการทรัพย์สิน จ่ายค่าชดเชยให้เพียงครึ่งเดียวและไม่ให้พื้นที่จอดรถตามที่ตกลง โดยอ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงคำสัญญาของตัวแทนที่รับผิดชอบ ไม่เกี่ยวกับทางบริษัท ทั้งยังอ้างว่าพนักงานทำความสะอาดที่เข้าไปในวิลล่านั้นได้รับการว่าจ้างจากบริษัทภายนอก เห็นว่าประตูปิดไม่สนิทจึงเข้าไปเก็บอุปกรณ์และพักอยู่ชั่วคราว
นายไป๋ไม่พอใจจึงดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงเรื่องค่าชดเชยกันได้ โดยบริษัทจัดการทรัพย์สินปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายเฉิงเรื่องการบุกรุกสถานที่ หรือใช้วิลล่าเป็นห้องขยะ และเสนอแผนการชดเชยเบื้องต้นให้เพียงเล็กน้อย เช่น การซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย และการฆ่าเชื้อตามปกติเท่านั้น
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ชี้ให้เห็นว่า หากมีการเข้าครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นโดยทีไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของ ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก และมีโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ทางเจ้าของทรัพย์สินก็มีหน้าที่ต้องปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ในทรัพย์สินของตน หากไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อาจถือได้ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน