เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ยิปซี" แชร์ประสบการณ์ Social Detox งดเล่นโซเชียล 12 วัน ได้อะไรบ้าง?

ออกมาแชร์ประสบการณ์การทำ Social Detox สำหรับนักแสดงสาว ยิปซี คีรติ หลังงดเล่นโซเชียลต่างๆ เป็นระยะเวลานานถึง 12 วันด้วยกัน

ล่าสุด ยิปซี ก็ได้อัดคลิปเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเธอเผยว่า "พอเรางดแล้ว เหมือนสมองของเรามันเคลียร์ขึ้น มันครีเอทีฟมากขึ้น มันโปรดักทีฟมากขึ้นด้วย"

"รีวิวประสบการณ์ Social Detox เกิดอะไรขึ้นบ้าง?"

"ช่วงก่อนวันเกิดของยิปนะคะ ยิปก็ได้ตั้งใจที่จะทำ Social Detox นะคะ คืองดเล่นโซเชียล 12 วัน ทวิตเตอร์ไม่เล่นอยู่แล้ว ก็จะไม่เล่น IG, Facebook, YouTube, TikTok ไม่เข้าเลย สำหรับ YouTube จะมีเข้าไปบ้างค่ะ จะเข้าไปฟังเพลย์สิลต์ที่ตัวเองเซฟไว้ จะเป็นพวกธรรมะ"

"Line คนถามว่าทำ Social Detox ต้องหยุดเล่น Line ไปด้วยหรือเปล่า? ยิปยังเล่นอยู่นะคะ แต่ไม่เรียกว่าเป็นการเล่นดีกว่า เอาไว้เช็กว่าเป็นการติดต่อ มีงานสำคัญเข้ามาหรือเปล่า และเอาไว้คุยกับแค่คนในครอบครัวเท่านั้นเองค่ะ"

"คำถามต่อไป ทำ ทำไม? ยิปอะเคยทำพวกลดโซเชียลมาก่อนอยู่แล้วนะคะ แต่จะไม่ได้ทำเป็นมิสชั่นที่ตั้งว่า ฉันจะงด 12 วันติด ปกติจะลิมิตการใช้โซเชียลของตัวเองอยู่แล้ว โดยการที่แบบเราเป็นคนนอน 2 ทุ่ม ช่วงเวลา 1 ทุ่ม จะเอามือถือไปไว้อีกห้องหนึ่ง แล้วไม่จับมือถือแล้ว หรือวันหนึ่งจับมือถือหรือเล่นรวมแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง อะไรประมาณนี้นะคะ"

"ส่วนที่ถามทำ ทำไม? ยิปจะลดโดส หรือทำ Social Detox เวลาที่ยิปรู้สึกว่าสมองรก คืออาการสมองรกสำหรับเรา มันคือเหมือนกับบางทีข้อมูลเรามันเยอะมาก มันเหมือนโอเวอร์โลด มันวุ่นวาย บางทีเรารู้สึกว่าสมองเรามันเหนื่อยอะ มันไม่สดใส"

"และอีกอย่างหนึ่งเลย คือยิปจะชอบทำในตอนที่รู้สึกว่า เราไม่มีความสุข เราชอบเครียด หรือโมโห หรือเศร้า แต่หาสาเหตุไม่ได้ อันนี้ยิปจะเหมือนดึงตัวเองออกมาจากโลกโซเชียล และมาอยู่กับตัวเองทันที อันนี้จะพยายามฝึกอยู่เรื่อยๆ เลยนะคะ"

"ใน 12 วันนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง? ข้อแรกนะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นมากๆ เลย คือว่าง ว่างแบบว่างมากๆ จริงๆ มันเหมือนเรามีเวลาในชีวิตต่อวันมากขึ้นแบบเยอะมากๆ เลยทุกคน รู้สึกว่า โห...นี่เราเสียเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัวไปเยอะเหมือนกันเนอะ"

"แล้วพอว่างมาก เราก็ต้องหาอะไรทำ อะไรที่เราผลัดวันประกันพรุ่งมา พอเรามีเวลาว่างแบบเถียงไม่ได้อะ เราก็จะเริ่มลงมือทำมัน อย่างเช่น จัดห้อง เพราะฉะนั้นในช่วงนั้นห้องก็จะเรียบร้อยมากเป็นพิเศษนะคะ"

"และอย่างที่สองที่เราทำคือ เริ่มเห็นแล้วว่าของมันเยอะ เสื้อผ้าเยอะ ก็เลยทำการโล๊ะค่ะ ได้โล๊ะของออกไปเยอะเหมือนกันในช่วงนั้น ก็แฮปปี้มากๆ"

"อีกอันที่รู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากๆ คือ เราซื้อของที่ไม่จำเป็นน้อยลง อย่างบางที่คนที่เราฟอลโลว์แต่งตัวแบบนี้ เสื้อตัวนั้นสวยจัง กระเป๋าตัวนี้ทำไมคนนี้ก็ใช้ คนนั้นก็ใช้ แต่พอเราไม่เห็น เหมือนกิเลสความอยากได้ของมันหายไป"

"แน่นอน ข้อดีมากๆ คือมันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งเรามองว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยนะ การที่ได้มีเวลาอยู่เงียบๆ และค้นใจของตัวเองว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไงอยู่ ตอนนี้เราต้องการอะไรอยู่ในช่วงนี้ ต้องการอะไรในชีวิต มันเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำอยู่เรื่อยๆ นะ

"และพอเวลามันเยอะ เราก็ได้ใช้ชีวิตช้าลง ทุกอย่างช้าลงไปหมด ตื่นนอนมาลงไปทำกาแฟ ก็ไม่ได้ทำแบบรีบๆ แล้ว คือทำแบบช้าๆ ค่อยๆ กินอาหารเช้า โดยที่ไม่ใช่มือหนึ่งกินไป มือหนึ่งถ่ายมือถือไปด้วย คือกินแล้วอยู่กับอาหารจริงๆ ซึ่งก็เป็นความรู้สึกว่าแรกๆ ไม่ชิน แต่มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ อยากให้ทุกคนลองดูนะคะ"

"และเรายังได้อยู่กับคนอื่นตรงหน้าเรา ทำให้เราโฟกัสอยู่กับเพื่อนของเราจริงๆ ถึงแม้เพื่อนบางคนจะไม่ได้งดโซเชียล เขาก็อยู่กับมือถือด้วยความเคยชิน แต่พอเราไม่ได้แตะมือถือ เราก็นั่งดูเขา นั่งมองหน้าเขา หรือไม่ก็เป็นฝ่ายชวนคุย เปิดบทสนทนาก่อน มันก็ทำให้เราได้ใช้เวลากับคนที่เรารักจริงๆ"

"สุดท้ายเลยคือ เรื่องของความเบื่อ อันนี้ได้เขียนลงไปในโพสต์ด้วย ว่าอยากจะอยู่กับความเบื่อได้มากขึ้น เรารู้สึกว่าคนเราสมัยนี้ไม่ยอมจะอยู่กับความเบื่อมากเกินไปหน่อย"

"ซึ่งอยากจะฝากเตือนไว้ บางทีเราเหมือนหนีปัญหา หรือปัดผ่าน บางทีเวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมานิดนึง และเราไม่สบายใจ รู้สึกไม่ดี เราเป็นอัตโนมัติที่จะปัดผ่านไป และมาอยู่กับโลกที่เราไม่เครียด ที่เราดูแล้วเพลิน ดูแล้วมีความสุข"

"แต่ว่าพฤติกรรมนี้พอทำไปเรื่อยๆ เป็นออโต้แบบไม่รู้ตัวไปแล้ว เรารู้สึกว่าค่อนข้างอันตรายนะที่เราผลักความรู้สึกหรือปัญหาเล็กๆ ไปข้างหลัง โดยที่เราไม่รู้จักกับมัน"