ล้วงหัวใจ "เทนนิส พาณิภัค" เส้นทางรัก หวานใจ "จูเนียร์ รามณรงค์" ต้องปิดไว้ 9 ปี

ตำนานที่สุดของนักกีฬา เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของสองเหรียญทองโอลิมปิคคนไทยคนแรก สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก แต่กว่าจะประสบความสำเร็จยืนหนึ่งในวงการเทควันโด เธอต้องกัดฟันต่อสู้มาอย่างสุดพลัง

ล่าสุด! เดินทางมาเปิดใจเส้นทางสู้ชัยชนะผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เล่าเรื่องลับการฝึกโหดเหมือนโกรธใครมาจากโค้ชคู่บุญ โค้ชเช ชัชชัย โค้ชเกาหลีสัญชาติไทย รวมไปถึงเรื่องความรักกับหวานใจ จูเนียร์ รามณรงค์ เสวกวิหารี ที่มีเหตุจำเป็นต้องปิดบังมากว่า 9 ปี

• ประวัติ "พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ" เทควันโดหญิงเจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกของไทย
• ประวัติ จูเนียร์ รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดชายทีมชาติไทย

เส้นทางความสำเร็จกว่าจะมาเจอ โค้ชเช ?
"หนูฝึกกับโค้ชเชมา 14 ปี ก่อนหน้านี้ฝึกที่ยิมที่สุราษฎร์ฯ หนูเริ่มมาฝึกที่กรุงเทพตอนอายุ 13 เป็นครั้งแรกของเด็กต่างจังหวัด ขึ้นมาอยู่กรุงเทพครั้งแรกตัวคนเดียว หนูก็รู้สึกว่าที่นี่มันเหงามันโดดเดี่ยว ไม่ใช่ที่ของเรา ทุกคนต่างฝึกฝนเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่งเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศ หนูก็เลยจะสู้ ตั้งสติว่าจะสู้จนกว่าจะโดนโค้ชไล่ออก หนูก็ค่อยผ่านที่ละด่านของโค้ช จากวันแรก 100 คน ตัดเหลือ 50 คน เหลือ 30 เหลือ 20 เหลือ 10 จนสุดท้ายเหลือไปแข่งแค่ 8 คนเท่านั้น"

ตอนฝึกเป็นไงบ้าง โค้ชดุมั้ยคะ ?
"ดุมากค่ะ (หัวเราะ) พูดได้หรอคะ (หัวเราะ)"

เวลาทำโทษหนักสุดคืออะไร ?
"สิ่งที่หนูคิดว่าเป็นการทำโทษที่หนักที่สุดก็คือ การรับผิดชอบร่วมกัน เหมือนเราเป็นทีมเดียวกันเป็นครอบครัวเดียวกัน รุ่นพี่ต้องดูแลรุ่นน้องค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการโดนวิดพื้นค้างไว้ 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง (หัวเราะ) เป็นการฝึกความอดทน การวิดพื้นที่เคยโดนทำโทษสูงสุดก็ 10,000 ครั้ง แต่หนูก็เข้าใจความคิดความรู้สึกของโค้ชค่ะ ที่อยากให้เรามีความอดทน มีความรับผิดชอบไม่อยากให้เราออกนอกลู่นอกทาง ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ"

กับเรื่องความรักคุณพ่ออนุญาตให้เรียกว่าแฟนได้หรือยัง ?
"เรียกว่าหวานใจไปก่อน"

แล้วตอนนี้เรียกว่า น้องเทนนิส ผู้คลั่งรักได้ไหม ?
"ได้ค่ะ (หัวเราะ)"

คบกันมากี่ปีแล้ว ?
"จริงๆ เป็นเพื่อนกันมาก่อน 3 ปี แล้วก็เป็นหวานใจกันมา 9 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ปี 2015"

ไปเจอกันรู้จักกันได้ไง ?
"เจอกันที่แคมป์ทีมชาติค่ะ หนูและก็จูเนียร์มาเก็บตัวเพื่อคัดทีมชาติเหมือนกัน"

แล้วเป็นไงมาไงถึงคลิกกัน ?
"เราติดทีมชาติชุดเดียวกัน ได้เป็นเยาวชนทีมชาติชุดเดียวกัน ได้ไปติดทีมชาติชุดใหญ่พร้อมกัน มันเหมือนเป็นเด็กรุ่นเดียวกันคุยกันรู้เรื่องกันอยู่สองคน คนอื่นก็จะเป็นรุ่นพี่ที่อายุเยอะขึ้นมาหน่อย เราเลยคุยกับเขามากกว่าคนอื่น"

ที่ผ่านมาไม่มึใครสงสัยเลยหรือว่าคุยกัน ?
"หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครรู้มั้ย แต่หนูก็พยายามทำตัวให้เหมือนเพื่อนมากที่สุด ก็จะมีด่าใส่กันต่อหน้าผู้คน (หัวเราะ) จะแทนกันเรียกว่า ไอ้เนียร์ พูดไม่เพราะใส่กัน ให้คนรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ ไม่รู้ว่าโค้ชรู้หรือเปล่า (หัวเราะ) ก็พยายาททำให้เนียนที่สุดค่ะ ก่อนหน้านี้ที่มีคลิปออกไปพูดไม่เพราะ ขอโทษด้วยค่ะ เป็นการแสดงให้ดูเป็นเพื่อนกันให้ได้มากที่สุด"

ที่ผ่านมาซัพพอร์ตกันยังไง ?
"จริงๆ เราก็มีความฝันด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ เข้าใจกัน คือเราเข้ามาแคมป์ทีมชาติเราก็อยากติดทีมชาติด้วยกัน อยากได้ไปแข่งด้วยกัน พอได้ไปแข่งด้วยกันเราก็อยากคว้าเหรียญ สุดท้ายฟันเราตรงกันว่าอยากไปโอลิมปิคด้วยกัน ตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่เราฝึกซ้อม ก็ไปแข่งด้วยกันตลอดเป็นเพื่อนที่คุยกันรู้เรื่อง เราเป็นทั้งเพื่อนเราเป็นทางคู่ซ้อม เป็นอะไรที่เข้าใจซึ่งกันและกันพูดคุยกันรู้เรื่อง"

ตอนนี้ได้เปิดตัวเต็มที่ รอมานานแค่ไหน ?
"รอมานานตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เหมือนเป็นความอดทนที่เราเหนื่อยด้วยกันมา ซ้อมด้วยกันมา เราผ่านขวากหนามรอบผ่านทุกอย่างด้วยกันมา จนกว่าจะถึงโอลิมปิกวันนี้มันก็เหนื่อยลากันมามากๆ แล้วก็มีความสุขมากๆเช่นกันในวันที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก พอจบก็ลงรูปเลย ดีใจมากๆ และอยากขอบคุณมากๆ ที่สู้ด้วยกันมา ที่มาส่งจนถึงปลายทาง"