ผัวสงสัย ลูกชายคล้ายเพื่อนร่วมงาน ผลตรวจ DNA ออก เมียปล่อยโฮ ขอหย่าทันที
สงสัยภรรยานอกใจ เพราะลูกชายยิ่งโตยิ่งคล้ายเพื่อนร่วมงาน สามีขอตรวจ DNA พอรู้ผล ภรรยาปล่อยโฮ ขอหย่าทันที
ในการเป็นสามีภรรยา หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน หากมีความกังวลใด ๆ ควรมีความกล้าที่จะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะเก็บความสงสัยและความขุ่นเคืองใจไว้เป็นเวลานาน เพราะจะทำลายจิตใจของตัวเองและส่งผลกระทบที่ยากจะรักษาต่อคนที่เรารัก
ดังเช่นเรื่องราวของ นายตัน วัย 50 ปี เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เหตุการณ์นี้เมื่อ 10 ปีก่อน ในเวลานั้นนายตัน เป็นคนที่เรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก ในช่วงปี 2533 เขาเป็นคนแรกของท้องถิ่นที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ โดยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยการเกษตรแห่งหนึ่ง
หลังจากจบการศึกษา เขายังคงรักษามาตรฐานการทำงานที่ดีเยี่ยม และกลายเป็นครูที่โรงเรียนมัธยม ด้วยความสามารถในการสอนที่โดดเด่น นายตันได้รับรางวัลหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในครูหนุ่มที่สำคัญของโรงเรียน
หลังจากแต่งงานแล้ว นายตัน ได้ช่วยภรรยาหางานที่ร้านขายของชำของโรงเรียนเพื่อให้ทั้งคู่มีเวลาร่วมกันมากขึ้น
ต่อมาในปี 2546 นายตัน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่รุนแรง ทำให้สมองได้รับความเสียหาย โชคดีที่การผ่าตัดประสบความสำเร็จ แต่เขากลับพบว่าชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ความจำลดลงอย่างรุนแรง และอารมณ์ของเขาก็กลายเป็นคนขี้โมโห
อุบัติเหตุนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออาชีพของเขา นายตันไม่สามารถทำงานสอนต่อได้ และถูกย้ายไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บริหารที่โรงเรียน ซึ่งทำให้เขารู้สึกท้อแท้และผิดหวัง
ในขณะเดียวกัน คนรอบข้างเริ่มแพร่กระจายข่าวลือว่าภรรยาของเขานอกใจไปกับครูในโรงเรียน ความจริงคือ วันหนึ่งครูคนนั้นมีคาบเรียนในช่วงที่สอง และเขาต้องการพักผ่อน จึงขออนุญาตเข้าไปนอนพักในร้านขายของชำของภรรยา ซึ่งภรรยาก็ยินยอมเพราะร้านเปิดอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้สืบค้นต่อ แต่คุณตันก็ยังไม่สามารถลืมข่าวลือที่เป็นอันตรายนั้นได้
เมื่อเวลาผ่านไป ลูกชายของเขาคือ น้องคัง เริ่มโตขึ้น และเขาก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมลูกชายถึงมีลักษณะคล้ายกับครูคนนั้นมากขึ้น แม้ว่าภรรยาของเขาจะยืนยันว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร แต่เขาก็ไม่เชื่อ
แม้จะเลี้ยงลูกชายมา 12 ปี แต่นายตันยังคงสงสัยอยู่เสมอว่า “นี่เป็นลูกแท้ ๆ ของฉันจริงหรือ?” เพราะเขารู้สึกว่าลูกชายไม่มีลักษณะคล้ายเขา หลังจากลังเลมาหลายปี ในที่สุดเขาตัดสินใจพาลูกไปตรวจ DNA
ภรรยาของเขาคือ นางลู่ ดูเหมือนจะไม่ตกใจต่อการกระทำของสามี แต่กลับรู้สึกท้อแท้และผิดหวัง เธอเผยว่าการใช้ชีวิตร่วมกัน 12 ปี ต้องทนทุกข์กับคำพูดที่ไม่มีมูลจากสามี ที่มักจะบอกว่าลูกชายไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ถ้าแค่ 2-3 ครั้ง เธออาจจะอดทนได้ แต่ความสงสัยที่ยืดเยื้อมาหลายปีทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
ผลการตรวจ DNA ทำให้ภรรยาน้ำตาไหล
ไม่เพียงแค่การใช้คำพูดที่บั่นทอนใจ ภายในบางครั้งนายตัน ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนถึงขั้นใช้ความรุนแรงกับภรรยา
ลูกชายของทั้งคู่ น้องคัง ซึ่งเป็นเด็กที่กระตือรือร้นและน่ารัก แต่เพราะปัญหาในครอบครัว ทำให้เขามีความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เมื่อเขาต้องเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย ๆ แม่ถูกพ่อดูหมิ่นและใช้ความรุนแรง เด็กชายต้องทนต่อความเย็นชาจากพ่อแท้ ๆ ของเขา
น้องคังชอบของเล่น แต่เขากลับมีของเล่นที่เขาชื่นชอบเพียงไม่กี่ชิ้น เพราะนายตันไม่เคยต้องการมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่ลูก ตั้งแต่ความรักไปจนถึงของขวัญเล็ก ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลองแม่ลูกจึงมีเพียงกันและกันเพื่อเอาตัวรอด
หลังจากรอคอยหลายวัน สุดท้ายพวกเขาก็ได้รับผลการตรวจ DNA ซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางพ่อและลูก ซึ่งเป็นข่าวดีที่น่าพอใจสำหรับทุกคน แต่นางลู่กลับไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้
ในเวลาเดียวกัน เธอวางเอกสารข้อตกลงการหย่าร้างบนโต๊ะ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าจะจบลงอย่างไร เธอก็จะยุติความสัมพันธ์กับสามี นายตันรู้สึกเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่เขาทำลงไป แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถแก้ไขได้
ตอนจบของครอบครัวของนายตันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ นี่เป็นบทเรียนสำหรับเขาและหลาย ๆ คน ความสงสัยควรมีพื้นฐาน ไม่ควรทำลายคนในครอบครัวเพียงเพราะคำพูดที่ไม่แน่ชัด