เนื้อหาในหมวด ข่าว

สาวป่วยแปลก \

สาวป่วยแปลก "แพ้น้ำ" สัมผัสแล้วถึงขั้น "เลือดออกหัว" ทรมานดื่มได้แค่ 1 สิ่งประทังชีวิต

สาวอายุแค่ 25 จู่ๆ ป่วยแปลก "แพ้น้ำ" ทั้งอาบและกิน สุดทรมานเหงื่อ-น้ำลายก็ยังแพ้ ดื่มได้แค่ 1 สิ่งประทังชีวิต

“เทสซา” ผู้หญิงอายุ 25 ปี ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง และถือเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทหนึ่งที่หายากที่สุด เรียกว่า ลมพิษจากการสัมผัสน้ำ (aquagenic urticaria) ซึ่งจากรายงานของ ABC คาดว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคลมพิษจากน้ำทะเลไม่ถึง 250 คน

อาการภูมิแพ้นี้ครั้งหนึ่งทำให้เธอต้องเข้าโรงพยาบาลในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีภาวะขาดน้ำมากเกินไป ภาวะขาดน้ำนี้ส่งผลให้ลำไส้ใหญ่สูญเสียการไหลเวียนของเลือดชั่วคราว และขณะเข้ารับการรักษาลำไส้ใหญ่บวมจากการขาดเลือด ก็ประสบกับอาการแทรกซ้อนทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันที่หลายแห่ง 

ในตอนแรกแพทย์เชื่อว่า ต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้คือสบู่และแชมพูในการอาบน้ำ อย่างไรก็ตาม แม้จะกำจัดสารเคมีเหล่านี้ออกไปแล้ว อาการภูมิแพ้ก็ยังคงอยู่ อีกทั้งเทสซายังมักบ่นว่าร่างกายขาดน้ำและเป็นลมได้ง่ายๆ

หลังจากทดสอบและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาเป็นเวลา 2 ปี คุณแม่ของเธอซึ่งเป็นแพทย์ด้วย ก็ได้รวบรวมอาการและยืนยันว่าเธอ “แพ้น้ำ” ผื่นตามร่างกายอาจมาจากน้ำในสระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำ และแหล่งน้ำในโรงแรมหลายแห่งในเมืองต่างๆ เมื่อเธอโตขึ้นก็มีอาการแพ้น้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น คันตา ผื่นบนลิ้น และลมพิษในปาก

“ฉันแพ้แหล่งน้ำทุกชนิด ทั้งน้ำฝน น้ำประปา น้ำกลั่น น้ำทะเล น้ำดื่มบรรจุขวด และแม้แต่เหงื่อ น้ำตา และน้ำลาย” เทสซาเล่าถึงโรคนี้ซึ่งพบได้น้อยมาก และเผยว่าเธอจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เธอเหงื่อออก  “ฉันทำความสะอาดร่างกายด้วยผ้าเปียกที่ออกแบบมาเพื่อการอาบน้ำโดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเจ็บอยู่ดี”

“หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันจะมีผื่นขึ้นขนาดใหญ่บนผิวหนัง และหนังศีรษะจะมีเลือดออกหลังจากอาบน้ำ.... การยืนอาบน้ำนานกว่า 5 นาที โดยพยายามไม่หมดสติในขณะที่หายใจแรงขณะที่น้ำสาดลงมานั้น ไม่ใช่ประสบการณ์การดูแลตัวเองที่ผ่อนคลายเหมือนกับคนอื่นๆ”

 เทสซ่าเล่าว่าผู้คนมักจะไม่เชื่อและพยายามทดสอบอาการแพ้ของเธอ เหมือนกับที่เกิดขึ้นตอนที่เธอเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย “ตอนที่ฉันเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีคนพยายามจะราดน้ำใส่ฉันโดยตั้งใจ หรือไม่ก็มีคนปาน้ำแข็งใส่ฉัน” 


เธอกล่าวว่า เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำสูงทำใหรู้สึกแสบร้อน ดังนั้น “นมวัว” จึงกล่าวได้ว่าเป็นประเภทที่ดื่มง่ายที่สุดสำหรับผู้ที่แพ้น้ำ เนื่องจากปริมาณไขมันและโปรตีนจะสมดุลกับปริมาณน้ำ ในขณะที่นมถั่วต่างๆ เช่น นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต หรืออื่นใด ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถดูดซึมได้

หากไม่ดื่มนมวัวในระหว่างวัน อาจกระหายน้ำมากจนไม่สามารถต้านทานการดื่มน้ำได้ และท้ายที่สุดสิ่งนี้อาจทำให้เธอเป็นลมเนื่องจากความเจ็บปวดได้ ขณะนี้ยังไม่มีวิธีรักษาอาการภูมิแพ้ที่หายากเช่นนี้ ดังนั้นเทสซ่าจึงทำได้เพียงอยู่กับโรคนี้ และจำกัดสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้

นอกจากนี้ การแพ้น้ำยังทำให้การดูดซึมอาหารทำได้ยากมาก เธอสามารถรับประทานได้เฉพาะอาหารแห้งที่มีปริมาณน้ำน้อยที่สุด เช่น ซีเรียลบาร์ คุกกี้ ขนมปัง มันฝรั่ง ถั่ว ส่วนผักและผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น แตงโม แตงกวา และขึ้นฉ่าย ล้วนเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี เพื่อรักษาโภชนาการในร่างกาย เธอจะกินผลไม้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งมักจะเป็นผลไม้แห้ง เช่น แอปริคอตแห้ง แครนเบอร์รี่แห้ง หรือแอปเปิ้ลเขียว

แม้ว่าเธอจะได้อธิบายไว้ในอินสตราแกรมส่วนตัวว่า “ฉันไม่ได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นเลย เพราะอาการของฉันแย่ลงเรื่อยๆ” แต่เทสซ่ายังคงมองไปยังอนาคต และหวังที่จะได้ทำงานเป็นนางพยาบาล  “ฉันหวังว่าจะได้กลับไปเรียนอีกครั้ง หวังว่าจะได้งานอีกครั้ง ฉันหวังว่าฉันจะสามารถกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติเหมือนเดิมได้อีกครั้ง”