นายกอิ๊งค์ รับ ไม่อยากไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก จะไม่ตอบเรื่องคุณพ่อทักษิณอีกแล้ว
"นายกฯ แพทองธาร" เผยนัดหารือรัฐมนตรีติดตามงานอย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์ รับไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก แต่จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด ย้ำวิสัยทัศน์ที่ดีมาจากใครก็ตามคือสิ่งที่ดี
วันนี้ (7 กันยายน 2567) เวลา 11.50 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังแถลงผลการประชุม ครม. นัดพิเศษ ถึงการเริ่มการทำงานของ ครม.ชุดใหม่ที่มีเวลา 3 ปีจะมีการประเมินการทำงานสำหรับตัวนายก และ ครม. โดยให้เวลาเท่าใดว่า การจะวัดและประเมินต่าง ๆ คิดว่าเราต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าเราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนนโยบายและกระทรวงต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ส่วนตัวในใจคิดไว้ว่าจะสรุปการทำงานใน 3 เดือนแรกให้กับประชาชนฟัง ซึ่งในที่ประชุม ครม. ได้ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นแยกว่าจะมีการนัดรัฐมนตรีมาคุยกันทุกอาทิตย์ แต่ก็สลับกระทรวงกันไปและให้เวลาเรียบร้อยแล้วว่าจะสะดวกช่วงไหนเผื่อรัฐมนตรีจะอยากปรึกษาเรื่องการทำงานให้เป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้ทุกคนพอมอบหมายอะไรไปแล้วเราไม่สามารถติดตามได้ว่าถึงไหน ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจจะทำทุกนโยบายอยู่แล้วก็คิดว่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างกับรัฐบาลนายเศรษฐาบ้างและเนื่องจากมีการใช้นิติสงคราม ใช้กฎหมายในสถานการณ์ทางการเมืองมีเยอะนายกฯ มีทีมกฎหมายที่จะมั่นใจได้อย่างไรที่จะสู้รบและรับมือได้ และรัฐบาลอยู่ครบ 3 ปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกท่านมีความตั้งใจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องกฎหมายนั้น เรามีทีมกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ทั้ง ครม. มีทั้งผู้มีประสบการณ์และเป็นรัฐมนตรีใหม่ด้วยเช่นกัน เราปรึกษากันและกัน ด้วยประสบการณ์เหล่านี้ต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางทีบางเรื่องไม่ได้ตอบว่าขาวหรือดำ ซึ่งแน่นอนว่ามีความตั้งใจและดูทุกอย่างพร้อมกับปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบรัดกุม และขอความร่วมมือว่ารัฐบาลก็อยากทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนนายกและ ครม. ก็พยายามตอกย้ำว่าตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิมและนโยบาย ครั้งนี้ก็มีการปรึกษากับพรรคร่วมเช่นกันจะเป็นนโยบายที่ต่อเนื่องกับรัฐบาลนายเศรษฐา และเป็นความเห็นของคณะรัฐมนตรีทุกคนสามารถที่จะมีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะคำปรับแก้ต่าง ๆ จะทำให้รัฐบาลดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นโยบายที่ได้รวบรวมในแถลงอยู่ในเล่มนี้ก็เป็นนโยบายที่ใช้ตั้งแต่หาเสียงและได้ตกลงกับพรรคร่วม จนมาถึงวันนี้ขอพูดได้เลยว่าค่อนข้างที่จะเหมือนเดิมมีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายให้สำเร็จ
ส่วนกรณี กลุ่มบุคคลจ้องที่จะฟ้องร้องอีกหลายคดีที่จะตามมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีคดี พอมีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และจริง ๆ แล้วไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายกฯ ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งนามสกุลชินวัตร ปฏิเสธไม่ได้ในความเป็นพ่อลูกระหว่างนางสาวแพทองธารกับนายทักษิณ ชินวัตร ทำให้มีคนมองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้วและมีการปรามาสว่ายังไง นายกฯ ก็หนีไม่พ้นเงาของนายทักษิณ จะให้ความมั่นใจหรือลบคำปรามาสนี้ได้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้วเพราะเราต้องเดินไปข้างหน้าวิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้ก็แล้วกัน"
ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำทันทีนั้นโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เดือนกันยายนนี้จะสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ขออนุญาตให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้อธิบายรายละเอียดแต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเกิดขึ้นทันทีเพราะเป็นข้อแรกที่จะต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป