หย่าร้างมา 6 ปี หนุ่มเพิ่งรู้ความลับที่เมียเก่าปกปิดไว้ รู้เหตุผลที่เพิ่งมาบอกยิ่งเศร้า
หย่ากันมา 6 ปีแล้ว จู่ ๆ ก็ได้รู้ความลับที่ภรรยาเก่าปกปิดไว้ ทั้งดีใจและกังวลไปพร้อม ๆ กัน รู้สาเหตุที่เพิ่งมาบอกกัน ยิ่งเศร้าใจ
เว็บไซต์ SOHA รายงานเรื่องราวของชายชาวเวียดนามรายหนึ่ง เขาเล่าว่า ตนกับภรรยาเก่าหย่ากันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอมักต้องเดินทางไปทำงานบ่อยครั้ง จนเราต้องห่างกันและไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ความสัมพันธ์ของเราจึงค่อย ๆ ห่างเหินกันไป สุดท้ายหลังจากการทะเลาะกันอย่างรุนแรง เราตัดสินใจแยกทางกัน
หลังหย่าไม่นาน เขาก็แต่งงานใหม่ ภรรยาคนปัจจุบันเป็นคนอ่อนโยน ขยัน และเก่งเรื่องการดูแลครอบครัวและการเข้าสังคม เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้แต่งงานกับเธอ จึงมักบอกตัวเองเสมอว่าต้องรักและดูแลเธอให้ดีที่สุด
ตอนนี้เรามีลูกชายคนแรกที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาล ชีวิตของเราสงบสุขและมีความสุขมาก
จนกระทั่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผมกำลังทานข้าวเย็นกับครอบครัว จู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าคนที่โทรมาคือ ฮุ่ย ภรรยาเก่าของเขา เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะได้หย่ากันมาหลายปีแล้วและไม่ได้ติดต่อกันเลย ทำไมจู่ ๆ เธอถึงโทรมา
ชายหนุ่มเดินออกไปนอกห้องนั่งเล่นเพื่อรับสาย ภรรยาเก่าพูดด้วยเสียงที่สับสนว่า "คุณมีลูกสาวคนหนึ่ง ตอนนี้เธออายุ 6 ขวบแล้ว" ทำเอาเขารู้สึกตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เลยว่ามีลูกสาวกับภรรยาเก่า
ด้วยความโกรธจึงต่อว่าเธอว่าทำไมถึงไม่บอกให้รู้ตั้งแต่แรก ซึ่งอีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า "ฉันรู้ว่ามันยากสำหรับคุณที่จะยอมรับความจริงนี้ แต่ฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ฉันไม่อยากจากไปพร้อมความลับนี้และปล่อยให้ลูกต้องเติบโตโดยไม่มีทั้งพ่อและแม่" เขาจึงเข้าใจในสถานการณ์ของเธอ และอยากรู้จักเด็กคนนี้มากขึ้น จึงนัดเจอกับเธอ
วันถัดมาเมื่อเขาไปถึง ฮุ่ยรออยู่แล้ว เธอดูผ่ายผอมและโทรมลงมาก เมื่อเห็นเขา เธอขอโทษและบอกว่าหลังจากเราหย่ากันไม่กี่สัปดาห์ เธอถึงรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ แต่เพราะความสัมพันธ์ของเราจบลง เธอจึงตัดสินใจเลี้ยงลูกคนเดียวโดยไม่บอก ตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะป่วย เธอคงไม่อยากเข้ามากระทบกับครอบครัวของเขา
หลังเล่าเรื่องทั้งหมดเสร็จ เธอหยิบรูปถ่ายจากกระเป๋าออกมาและบอกว่านี่คือลูกสาวของเรา เขารับรูปมาดูอย่างตั้งใจ เด็กหญิงในรูปมีหลายอย่างที่คล้ายเขามาก ทั้งดวงตาและรอยยิ้ม เขารู้สึกทั้งยินดีและวิตกไปพร้อม ๆ กัน ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี นอกจากปลอบภรรยาเก่าและให้สัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวมีความสุข
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ภรรยาเก่าก็ร้องไห้ออกมา "ฉันรู้ว่ามันกะทันหันสำหรับคุณ แต่ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ฉันไม่อยากให้ลูกโตมาโดยไม่มีพ่อแม่อยู่ข้าง ๆ ฉันหวังว่าคุณจะรับลูกไปเลี้ยงดูได้ไหม?"
เขามองเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเธอ จึงพยักหน้าตอบรับ แม้ในใจจะรู้สึกขมขื่นอยู่บ้าง ถึงเราจะหย่ากันแล้ว แต่เราเคยรักกันอย่างลึกซึ้ง ตอนนี้เธอกำลังป่วยหนัก จึงอยากช่วยเหลือเธอ แม้จะเป็นเรื่องการดูแลลูกสาวของเราก็ตาม
เมื่อกลับถึงบ้าน เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาคนปัจจุบันฟัง เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "ฉันยอมรับ เพราะยังไงนี่ก็เป็นลูกของคุณ ฉันเชื่อว่าเราจะดูแลเด็กคนนี้ได้อย่างดี" คำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจมาก 2-3 สัปดาห์ต่อมา เขาและภรรยาก็ไปพบลูกสาวที่บ้านของภรรยาเก่า เมื่อเห็นลูก ความรักและความรับผิดชอบในฐานะพ่อก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจ
ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายวาส เขาสงสารภรรยาเก่าที่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดจากโรคร้ายนี้ จึงสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เวลากับลูกสาว และมอบครอบครัวที่อบอุ่นให้ เขาเชื่อว่า แม้ชีวิตจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ความรักที่เรามีต่อลูกจะไม่เปลี่ยนแปลง