ผดส.เพิ่งจะรู้! "แอร์โฮสเตส" เล่าอีกมุม สารพัดความโหดอาชีพนี้ ไม่เว้นแม้แต่วิธี "ห่อศพ"
สาวเผยอีกด้านของอาชีพ “แอร์โฮสเตส” ไม่ได้สวยหรู ต้องทำสารพัดงานยาก รู้แม้กระทั่งวิธี “ห่อศพ”
มีหลายคนที่อิจฉาอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะไม่เพียงแต่รายได้ค่อนข้างสูงเท่านั้น แต่ยังให้เดินทางไปต่างประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ แอร์โฮสเตสได้แชร์การทดสอบต่างๆ ที่ต้องเผชิญระหว่างการฝึกอบรม และเนื้อหาการทำงานจริงที่มีความกดดันสูง ถึงกับเรียกอุตสาหกรรมนี้ว่าเป็น "ดูดีแค่ภายนอก”
ตามรายงานของเว็บไซต์ CTWANT จากไต้หวัน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งเพิ่งโพสต์บทความลงในฟอรัม Dcard เรื่อง "อีกด้านหนึ่งของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่คุณอาจไม่รู้ " เปิดเผยว่าปัจจุบันเธอทำงานให้กับสายการบินต่างประเทศ และ
แต่แค่ในระหว่างช่วงการฝึกอบรมเพียงอย่างเดียว ก็มีสิ่งต่างๆ มากมายที่ "โลกภายนอกไม่รู้ว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องทำ" เช่น ต้องอ่านคู่มือคำแนะนำด้านความปลอดภัยในการทำงานและขั้นตอนการให้บริการ มากกว่า 600 หน้า ไม่รวมกับหนังสือหนาๆ เล่มอื่นอีก
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้กุญแจมือ การปราบปรามผู้ร้าย จดจำสีและความหมายของเครื่องบินแต่ละรุ่น รวมถึงสัญญาณไฟที่ท้ายหลังเครื่องด้วย แถมยังต้องฝึกกระโดดลงสระว่ายน้ำลึกมาก และสไลเดอร์ที่มีสูงเทียบเท่าตึก 2-3 ชั้นด้วย ซึ่งถ้าใครไม่กล้ากระโดด แน่นอนว่าก็จะถูกคัดออก
อย่าว่าแต่ต้องเรียนรู้วิธีใช้ "กระเป๋าสัมภาระ" เพราะแม้แต่ "ถุงใส่ศพ" ก็ต้องรู้วิธีใช้เช่นกัน ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงการมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในการพยาบาล เพราะนั่นก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด
"ไม่เพียงแต่เมื่อเผชิญกับอาการปวดฟัน ปวดท้อง แต่ต้องระบุอาการไม่สบายของหัวใจได้หลายกรณี โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะหัวใจหยุดเต้น... แต่ละโรค เพราะมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องได้รับการทดสอบ"
บทบาทเมื่อขึ้นเครื่องทำงานจริง
อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงการฝึกอบรมเท่านั้น เพราะหลังจากเริ่มต้นงาน “พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน” อย่างเป็นทางการแล้ว ก็ต้องสามารถทนต่อเวลาเดินทางที่ผิดปกติอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงเช้าหรือดึกมากๆ และไม่สามารถแม้แต่จะ กำหนดเวลาวันหยุดได้ เพราะข้อกำหนดที่ระบุว่าให้ "สแตนด์บาย" ตลอดเวลา
สิ่งที่ยากขึ้นกว่านั้นคือ ต้องสวมเครื่องแบบ มัดผมโดยฉีดสเปรย์จำนวนมาก และสแตนด์บายรอให้บริษัทโทรหาตลอดเวลาแน่นอนว่าบริษัทอาจจะไม่โทรเรียกไปทำงาน แต่ในช่วงเวลานั้นก็ทำไม่ได้ เพราะหากพลาดไม่ได้รับสาย และรีบโทรกลับภายใน 2 นาที มันก็จะสายไป…
ทุกครั้งที่ไปทำงานจะต้องไปที่บริษัทเพื่อทดสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางหนึ่งชั่วโมง ต้องผ่านก่อนจึงจะสามารถเริ่มทำงานในวันนั้นได้ แต่นอนว่าถ้าไม่ผ่านก็จะไม่ได้ขึ้นบิน อีกทั้ง กฎระเบียบของแต่ละสนามบินก็แตกต่างกันทุกครั้งที่ไปทำงานดังนั้น "โปรดอย่าลืมอ่านก่อนไปทำงานและจดจำมื้ออาหารของวันนี้ กิจวัตรการทำงานในวันนี้ และข้อควรระวังเป็นพิเศษ" ยังไม่รวมที่ต้องยืนทานอาหาร หรือย้ายตู้เหล็กลงมานั่งระหว่างเที่ยวบิน
ผู้โพสต์ยังคร่ำครวญเมื่อต้องเผชิญกับเนื้อหางานที่มีความกดดันสูง เพราะหลายคนที่เข้ามาในอาชีพนี้ ตอนแรกนอกจากจะคิดว่าดูดีแล้ว ยังเชื่อว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ แม้แต่เพื่อนใกล้ตัวของเธอยังเคยพูดติดตลกว่า "ดูเธอสิ เหมือนสบายอยู่ตลอดเวลา" ทั้งที่ความจริงแล้วเวลาเล่นเหล่านั้น ขโมยพลังงานไปอย่างรวดเร็ว….
ท้ายที่สุด หลังจากได้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งหมด และเผชิญกับการทำงานบนเครื่องบินจริงๆ "ฉันตระหนักว่ามันเป็นเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่หรูหรา" ผู้โพสต์กล้าม
ความคิดเห็นของชาวเน็ต หลายคนว้าวเพิ่งรู้เบื้องลึกอาชีพนี้
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากโลกออนไลน์ ความคิดเห็นบางส่วนระบุว่า"ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ"
"ตอนแรกฉันก็ไร้เดียงสาและคิดแบบเดียวกัน แต่พอได้รู้ มันก็เหมือนกับงานพนักงานเสิร์ฟเลย"
"ปรากฎว่ารอยยิ้มที่เป็นมิตรของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และเบื้องหลังทัศนคติที่สงบนิ่งนั้น มีความพยายามที่น่าทึ่งมาก"
"ฉันคิดว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นอาชีพที่โดดเดี่ยวมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนและครอบครัวของเราไปเที่ยวพักผ่อนพวกเธอก็จะต้องอยู่ที่ทำงาน และ อีกทั้งคนที่เจอในที่ทำงานยังแตกต่างกันทุกครั้ง”
"ในที่สุดก็มีคนพูดความรู้สึกของฉันออกมา! เมื่อคนอื่นพูดว่างานของพวกคุณสนุกที่สุด! บินไปทุกที่เล่นได้ทุกที่ ฉันแค่ถามว่ามันสนุกตรงไหน มีเบื้องหลังน่าเศร้ามากมาย! ยังไงซะเราก็เป็นแค่ตั๋วขอทานที่มีบัตรพนักงาน! ไปออกไปดูโลกภายนอกซะ!”