หนุ่มมาเตือนเอง อายุแค่ 21 ต้องเข้า "ผ่าตัด" เพราะติดนิสัย "ขยี้ตา" แบบที่หลายคนชอบทำ!
หนุ่มวัย 21 แชร์อุทาหรณ์ ต้องผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา เพราะติดนิสัย "ขยี้ตา" แบบที่ทุกคนชอบทำเวลาเคืองตา ไม่รู้อันตรายขนาดนี้
"Muhammad Zabidi" ชายหนุ่มอายุ 21 ปี จากประเทศมาเลเซีย ออกมาแชร์ประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ หลังจากต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา เนื่องจากมีรอยขีดข่วนเพราะติดนิสัย "ขยี้ตา" มาเป็นเวลานาน
ตามรายงานของ The Rakyat Post เนื่องจากเขามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่อายุยังน้อย แพ้สิ่งต่างๆ มากมายท่ามกลางสภาพแวดล้อมโดยรอบ และ อาการภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งคือ "คันตา" จึงมักจะขยี้ตาจนตาขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง ปัญหาเริ่มร้ายแรงขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเท่านั้น ในตอนที่อายุ 15 ปี เริ่มมีอาการมองเห็นไม่ชัดในตาขวา
อาการมองเห็นไม่ชัดค่อยๆ แย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป ในที่สุดก็ตัดสินใจไปหาผู้เชี่ยวชาญเมื่ออายุ 21 ปี แพทย์วินิจฉัยว่ากระจกตาตาขวาของเขามีรอยขีดข่วนและมีแผลเป็นอย่างรุนแรง เนื่องจากมีนิสัยชอบขยี้ตามากเกินไป และจำเป็นต้อง "เปลี่ยนกระจกตา" เพื่อให้มองเห็นได้อีกครั้ง
โชคดีที่พบผู้บริจาคจึงได้รับการปลูกถ่ายกระจกตาได้สำเร็จ สุขภาพของเขาหลังการผ่าตัดเริ่มคงที่แล้ว โดยแพทย์ผู้รักษาแจ้งว่า หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนก็สามารถลืมตาได้ แต่จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีจึงจะฟื้นตัวเต็มที่
วิดีโอที่ชายหนุ่มคนนี้โพสต์บนแพลตฟอร์ม Tiktok เล่าถึงประสบการณ์ที่เขาเคยประสบมา ดึงดูดผู้ชมจำนวนมากในมาเลเซีย คนส่วนใหญ่รู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าแม้แต่นิสัยเล็กๆ น้อยๆ อย่างการขยี้ตา ก็อาจทำให้กระจกตาเสียหายได้มากขนาดนี้
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเวลาขยี้ตา ควรหลีกเลี่ยงการขยี้แรงเกินไป เพราะจะทำให้กระจกตาเสียหายได้ และหากเกิดความเสียหายซ้ำๆ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ในอนาคต ซึ่งรอยขีดข่วนบนกระจกตาไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการระคายเคืองและตาแดงเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบดวงตาได้ง่ายอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น มือยังประกอบด้วยแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราหลายชนิด ที่อาจติดเชื้อที่ดวงตาได้เมื่อสัมผัส อีกทั้งการขยี้ตายังทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาตึง ในบางกรณีอาจนำไปสู่อาการปวดตา ปวดศีรษะ และทำให้ตาแห้ง