หนุ่มแปลกใจไฟครัวเปิดดึกๆ เห็นสิ่งที่เมียก้มหน้าก้มตาทำ โกรธจัดพาย้ายบ้านทันที!

หนุ่มแปลกใจไฟครัวเปิดกลางดึก เข้าไปเห็นสิ่งที่เมียก้มหน้าก้มตาทำ โกรธจัดยอมแตกหักครอบครัว ย้ายบ้านทันที! 

เว็บไซต์ Soha ของเวียดนาม รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เล่าว่า หากเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าภรรยาของเขากำลังมีชีวิตที่ทุกข์ทรมานเพียงใด?

บ้านของเขามีพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร มีคนอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คู่ พ่อแม่ของเขาเป็นคนใจดีและอดทน เขาและภรรยาอาศัยอยู่ในห้องแยก ส่วนน้องชายและภรรยาของน้องชายก็อยู่ในห้องส่วนตัวเช่นกัน ภรรยาของเขาเป็นครู มีมารยาทดี ไม่เคยพูดจารุนแรงหรือขึ้นเสียงใส่ใคร ส่วนน้องสะใภ้ของเขาเป็นคนงานทั่วไป มีนิสัยใจร้อน พูดจาโผงผาง และมักทะเลาะกับญาติของเธอเอง บางทีอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมการทำงานและระดับการศึกษาที่ต่างกัน มุมมองต่อชีวิตของพวกเขาก็ต่างกันไปด้วย เขาไม่ชอบน้องสะใภ้ของ แต่เพราะต้องการให้ครอบครัวสงบสุข เขาจึงแนะนำภรรยาให้อดทนมากขึ้น ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาก็โทษตัวเองเพราะเขาเป็นคนทำให้ภรรยาต้องทนทุกข์อย่างไม่ตั้งใจ

น้องชายของเขา ชอบนัดเพื่อนมาดื่มและร้องเพลงจนดึก หลังจากนั้นเขาก็เมาและเข้าห้องนอน ปล่อยจานและแก้วไว้บนโต๊ะ ภรรยาของเขาเป็นคนล้างจาน เพราะเธอเป็นคนรักความสะอาดและไม่ชอบทิ้งจานสกปรกข้ามคืน เขาเตือนเธอหลายครั้งว่า "ปล่อยไว้เถอะ น้องสะใภ้ควรจะเก็บล้างเอง" ภรรยาของเขาตอบว่าน้องสะใภ้ยุ่งกับการเลี้ยงลูก เราจึงควรอดทนบ้าง

ในเดือนเมษายนปีนี้ ภรรยาของเขาเพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เขาถูกย้ายไปทำงานที่จังหวัดอื่น แม้ว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการสาขาพร้อมกับเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่เขาก็ต้องห่างจากภรรยาและลูก ก่อนที่จะไปทำงาน เขาบอกกับภรรยาไม่ให้เข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัว ให้ปล่อยให้น้องสะใภ้พูดตามใจ ไม่ต้องตอบโต้ และถ้าน้องสะใภ้พูดจาหยาบคาย ก็ให้บอกพ่อแม่เพื่อให้พวกเขาช่วยแก้ปัญหา ภรรยาของเขาบอกเขาไม่ต้องห่วง ขอแค่ให้เขาทำงานอย่างสบายใจ เธอดูแลตัวเองได้

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาลางาน 3 วันเพื่อกลับบ้านเพราะคิดถึงภรรยาและลูก นี่ทำให้เขาได้รู้ถึงชีวิตที่ทุกข์ทรมานของภรรยาที่บ้าน คืนนั้นน้องชายของเขาเชิญเพื่อนมาดื่มกันจนมีจานเกลื่อนเต็มโต๊ะ เขาตื่นกลางดึกและไม่เห็นภรรยานอนอยู่ข้างๆ แต่เห็นไฟในครัวยังเปิดอยู่ ตอนนั้นเกือบเที่ยงคืนแล้ว เขาตกใจมากเมื่อเห็นภรรยานั่งล้างจานอยู่ ทั้งที่คนที่ควรจะล้างจานคือน้องสะใภ้ของเขา ทำไมถึงต้องเป็นภรรยาของเขา ในขณะที่ลูกยังเล็กอยู่?

เขาเรียกเธอให้กลับไปที่ห้องและหยุดล้างจาน แต่ภรรยาของเขาปฏิเสธ บอกว่าเธอจะล้างให้เสร็จเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าและไม่มีใครจะล้างมัน เขาถามว่าน้องสะใภ้ไปไหน ทำไมเธอไม่ล้าง ภรรยาของเขาก้มหน้าพูดเสียงเบาๆ ว่า "น้องสะใภ้จะไม่ล้าง ฉันก็ทำเอง ถ้าฉันไม่ล้าง พรุ่งนี้ก็ไม่มีใครล้าง ต้องรอถึงบ่าย ถ้าฉันบอก น้องชายคุณกับภรรยาก็จะทะเลาะกันอีก ฉันทำเองดีกว่า จะได้จบเรื่อง"

เมื่อได้ยินภรรยาพูดอย่างนั้น เขาโกรธมาก เตะจานจนแตกและดึงภรรยากลับไปที่ห้อง ตอนเช้าเขาเก็บของและประกาศว่าจะย้ายออกจากบ้าน เขาโทษพ่อแม่ที่อ่อนแอเกินไป ไม่รู้จักปกป้องลูกสะใภ้คนโต และกลัวลูกสะใภ้คนเล็ก น้องชายของเขาก็ไม่ยอมลดละ เขาเองก็ตำหนิภรรยาของเขาว่าทำไมไม่เก็บจาน ทำไมต้องทิ้งไว้จนดึกให้พี่สะใภ้ล้าง

ตอนนี้ เขาและภรรยาเช่าบ้านอยู่ แต่ภรรยาบอกว่าพวกเขามีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับครอบครัวสามี เขาอยากจะซื้อบ้าน แต่ก็ลังเลมาก ก่อนหน้านี้เขาใช้เงินกว่า 500 ล้านดอง (ราว 6.6 แสนบาท) ในการสร้างบ้าน ตอนนี้เขาจากมาโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา มันทำให้เขาหงุดหงิดมาก เขาควรจะขอให้น้องชายจัดการและคืนเงินให้ เพื่อที่ฉันจะได้ซื้ออพาร์ตเมนต์หรือไม่? การขอเงินคืนจะทำให้ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องรุนแรงขึ้นจนถึงจุดที่ไม่สามารถมองหน้ากันได้หรือเปล่า?