เนื้อหาในหมวด ข่าว

สาวปวดใจ หลังคลอดลูกจู่ๆ \

สาวปวดใจ หลังคลอดลูกจู่ๆ "กลายเป็นผู้ชาย" สามีไม่กล้าจูบ อยู่บ้านยังต้องใส่แมสก์!

คุณแม่วัย 33 หลังคลอดลูก จู่ๆ รูปลักษณ์เปลี่ยนเป็นผู้ชาย ทำให้สามีไม่กล้าจูบ อายจนไม่กล้าคุยกับใคร ต้องสวมแมสก์แม้แต่อยู่บ้าน

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.2019 มีเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก "Einil Savchenkova" อายุ 33 ปี อาศัยอยู่ในโวลโกกราด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในร่างกาย และหนวดเคราที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าในระหว่างตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ แย่ลงหลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกชาย

เป็นเวลานานถึง 8 ปี ที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานในรูปลักษณ์ที่เหมือนผู้ชาย ขณะที่พยายามขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ แต่ไม่มียาใดที่ช่วยให้อาการ "ฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป" ดีขึ้นได้ ด้วยความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายในต่อมไร้ท่อที่ซ่อนอยู่ แพทย์ผู้ทำการรักษาถึงกับบอกว่าไม่สามารถช่วยเธอได้ และเธอจะต้องอยู่กับอาการนี้ไปตลอดชีวิต

เนื่องจากรู้สึกเขินอายมากที่มีหนวดเคราหนาบนใบหน้าคล้ายผู้ชาย เธอจึงไม่กล้าพบปะใครเลย สวมหน้ากากอนามัยแม้แต่ตอนที่บ้าน และไม่อนุญาตให้ลูกชายจับหน้าเธอ ส่วนสามีก็ไม่กล้าแม้แต่จะจูบเธอ “ฉันไม่สามารถทำงานหรือสื่อสารกับผู้คนได้ตามปกติ แม้แต่กับลูกก็ตาม ฉันไม่อนุญาตให้เขาสัมผัสใบหน้าของฉัน ความสัมพันธ์กับสามีก็แย่ลงมากเช่นกัน เขาไม่อยากจูบฉันอีกต่อไปเพราะมันน่าขยะแขยง ทุกปีสถานการณ์นี้จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ฉันกลัวว่าครอบครัวของเราจะแตกสลาย”

กระทั่งวันหนึ่งสามีแนะนำให้เธอเข้าร่วมรายการทางการแพทย์ทางโทรทัศน์ I'm Ashamed of my Body ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหลีกหนีจากใบหน้าและเรือนร่างที่ดูเป็นชาย ในระหว่างเข้าร่วมเธอได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ พบว่าอาการของเธอมีสาเหตุมาจากกลุ่มอาการ "ถุงน้ำรังไข่หลายใบ" หรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS)

ถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน จะมีระดับแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) เพิ่มขึ้นผิดปกติในร่างกายผู้หญิง สารเหล่านี้จะขัดขวางกระบวนการพัฒนาของรูขุมขน เมื่อผู้หญิงมีอาการนี้ทุกเดือนจะไม่ตกไข่ ส่งผลให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แพทย์ระบุว่าแม้ว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาหายขาด แต่สามารถควบคุมได้

ในเคสนี้ได้เริ่มจากทำการรักษาด้วยเลเซอร์ ต่อมาก็ใช้ยาสเตียรอยด์เป็นระยะเวลาหนึ่งปี และลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ พร้อมย้ำว่า "ความเครียด" คือสิ่งที่ส่งผลต่ออาการอย่างมากด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากรักษาจนใบหน้ากลับมาเกลี้ยงเกลาแล้ว คุณแม่ยังสาวเปิดใจว่า "ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ฉันไม่ต้องตื่นก่อนคนอื่นๆ ในครอบครัวเพื่อโกนขน ฉันไม่กลัวที่จะสูญเสียสามีเพราะใบหน้ามีหนวดเครา"