สาวสุดงง เพื่อนบ้านโทรมาบ่น เสียงดังตอนตี 2 รู้ความจริงใจสลาย 2 รอบ
เพื่อนบ้านโทรมาตอนตี 2 บ่นเรื่องเสียงดังเกินไป สาวสุดงง ไม่ได้อยู่บ้าน ก่อนความจริงถูกเปิดเผย ตัดสินใจหย่าสามีทันที
เว็บไซต์ Kenh14 รายงานเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านตอนตี 2 เตือนเรื่องทำเสียงดัง แต่กลายเป็นว่าสายโทรศัพท์นี้ช่วยเปิดโปงความลับของสามีที่แสนดี จนทำให้เธอตัดสินใจหย่าทันที หลังจากได้รู้ความจริง
หญิงรายนี้ชื่อ เสี่ยวหวิน ส่วนสามีของชื่อ เจ้าเล่ย พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัย และแต่งงานกันมา 3 ปีแล้ว ปัจจุบันทั้งสองช่วยกันดูแลโรงงานเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ทั้งคู่ต่างทุ่มเทกับการทำงานมาก มีความฝันที่จะสร้างความมั่นคงในหน้าที่การงาน ทำให้ยังไม่ได้วางแผนมีลูก แต่ในทางกลับกัน ธุรกิจโรงงานของพวกเขาก็เริ่มอยู่ตัวและมั่นคงขึ้น
แต่แม่ของเธอกลับป่วยหนัก โรงงานยังต้องมีคนดูแล เจ้าเล่ยจึงอยู่ที่เมืองเพื่อตรวจตรากิจการ ขณะที่เธอกลับไปบ้านเกิดเพียงลำพังเพื่อดูแลแม่ ซึ่งในเวลานั้นเธอไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจนี้จะทำให้ชีวิตแต่งงานต้องพังทลาย
เมื่อเธอกลับไปบ้านเกิด ก็ทุ่มเทดูแลแม่จนสุขภาพของแม่เริ่มดีขึ้น ส่วนทางสามีก็โทรมาให้เธอไม่ต้องกังวลและดูแลแม่ให้เต็มที่ เพราะเขาจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี คำพูดของเขาทำให้เธอวางใจและตัดสินใจอยู่ดูแลแม่ต่ออีกสักระยะ
จนกระทั่งคืนหนึ่ง ตอนตี 2 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของบ้าน เธอรับสายด้วยความง่วงงุน ปลายสายคือเพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นล่างของเธอในเมือง เพื่อนบ้านพูดด้วยน้ำเสียงกังวลว่าถามว่าเธอทะเลาะกับสามีหรือไม่ เพราะเสียงดังมากจนเพื่อนบ้านนอนไม่หลับ
แต่เมื่อเธอตอบกลับไปว่าไม่ได้อยู๋บ้าน เพื่อนบ้านก็ดูตกใจ แต่หลังจากนั้นก็เหมือนนึกอะไรออก แล้วบอกว่าช่วงนี้เจ้าเล่ยมักจะพาสาวคนหนึ่งมาที่บ้านบ่อย ๆ ตอนแรกเพื่อนบ้านคิดว่าเป็นเพื่อนหรือญาติของทั้งคู่ เลยไม่ได้สนใจ แต่วันนี้เสียงมันดังเกินไป พร้อมแนะนำให้เธอกลับมาบ้านดูสักหน่อย
เบื้องหลังของสามีที่แสนดีถูกเปิดเผย
เธอตัดสายโทรศัพท์เพื่อนบ้านลงด้วยความโกรธแค้น แม่กำลังป่วยหนัก เธอวางใจในตัวเจ้าเล่ย แต่เขากลับทำเรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ลับหลังเธอ และเริ่มนึกย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาในช่วงหลัง เขามักกลับบ้านดึกและมีสีหน้าท่าทางอ่อนเพลีย แถมยังมีท่าทีห่างเหินกับภรรยา เธอคิดว่าเขาคงยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท แต่ไม่คิดว่าเขาจะพาผู้หญิงคนอื่นกลับบ้านในช่วงที่เธอไม่อยู่
เช้าวันถัดมา เธอบอกแม่ว่ามีธุระด่วนต้องไปจัดการที่เมือง จึงไม่บอกล่วงหน้ากับเจ้าเล่ย เพราะต้องการหาความจริงให้ชัดเจน เมื่อถึงเมือง เธอไม่กลับบ้านทันที แต่ไปซื้อกล้องวงจรปิดเพื่อติดตั้งที่บ้าน เพื่อบันทึกพฤติกรรมของสามี ถ้าเขานอกใจ นี่จะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด เมื่อจัดการเสร็จ เธอก็ไปเช่าห้องที่โรงแรมเพื่อสะดวกในการติดตามสามี
ผ่านไป 2 วัน สามีก็โทรศัพท์มาหาเธอ ถามว่าเมื่อไหร่จตะกลับบ้าน แต่เธอโกหกว่าอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะกลับ เพราะต้องรอให้แม่หายดีเสียก่อน และในคืนนั้นเอง เขาก็นำผู้หญิงคนหนึ่งกลับบ้าน แต่เงาของหญิงอีกคนบนจอทำให้เธอแทบทรุดลง นั่นคือเพื่อนสนิทของเธอ เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ทันทีที่ประตูปิดลง ทั้งสองคนก็ต่างโอบกอดกันอย่างเต็มที่
หญิงสาวพยายามอดกลั้นความโกรธและโทรหาสามีถามว่าทำอะไรอยู่ แต่ว่าสามีโกหกว่าทำงานอยู่ที่บริษัท ทั้งที่ในกล้องเขากำลังอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอ หญิงสาวได้แต่อดกลั้นความโกรธและบอกว่าจะกลับบ้านวันพรุ่งนี้ เธอตัดสินใจว่าต้องจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน
จบชีวิตคู่กับสามีทรยศ
ก่อนอื่นเธอส่งภาพและคลิปบางส่วนจากกล้องไปยังผู้บริหารบริษัทและเจ้าเล่ย เขาตกอยู่ในสภาพตื่นตระหนกและรีบโทรหาเธอด้วยเสียงสั่น อ้างว่าคลิปถูกตัดต่อ ทำเอาเธอไม่อยากเชื่อว่าเขายังมีหน้ามาปฏิเสธในวินาทีสุดท้าย จึงบอกว่าต้องการจะหย่า ก่อนจะตัดสายไป เพราะไม่อยากฟังคำแก้ตัวหรือการขู่จากเขาอีก
ไม่นานหลังจากนั้น เรื่องอื้อฉาวของเจ้าเล่ยก็แพร่กระจายไปทั่วบริษัทและโซเชียลมีเดีย ทุกวันเขาต้องทนฟังคำซุบซิบจากพนักงาน เจ้าเล่ยพยายามอธิบายกับผู้บริหาร หวังว่าทุกคนจะให้อภัยเขา แต่ทุกคนกลับห่างเหินเขา อีเมลของเขาก็เต็มไปด้วยคำวิจารณ์จากชาวเน็ต เมื่อทนแรงกดดันไม่ไหว เขาโทรหาฉันเพื่อขออภัย
แน่นอนว่าหญิงสาวปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและตัดสายทิ้ง ไม่สนใจเสียงร้องไห้จากอีกฝั่งของโทรศัพท์ ชื่อเสียงของเจ้าเล่ยที่ถูกทำลายเป็นความผิดของเขา ไม่เกี่ยวกับเธอ ส่วนเธอ หลังจากจัดการเรื่องราวทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งมั่นหาความสุขของตัวเองต่อไป