เนื้อหาในหมวด ข่าว

เด็กลงหนังสือพิมพ์หน้าเดียวกัน ผ่านไป 25 ปี ฟ้าลิขิตให้กลับมาเจอกัน ยิ่งกว่าพล็อตนิยาย!

เด็กลงหนังสือพิมพ์หน้าเดียวกัน ผ่านไป 25 ปี ฟ้าลิขิตให้กลับมาเจอกัน ยิ่งกว่าพล็อตนิยาย!

เด็กชายหญิงลงหนังสือพิมพ์หน้าเดียวกัน แต่ไม่รู้จักกัน ผ่านไป 25 ปี กลายเป็นคู่บ่าวสาว เล่าเส้นทางรักยังกับในซีรีส์

คู่รักชาวญี่ปุ่น โออิซุมิ ทาคุโตะ (เจ้าบ่าว) และ คาโตะ ซายะ (เจ้าสาว) เข้าพิธีแต่งงานและเริ่มใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลังจากคบหาดูใจกันมานาน

ที่น่าสนใจคือ ในงานแต่ง คู่บ่าวสาวได้โชว์หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ที่เก่าจนเหลืองซีด ทำให้แขกหลายคนต่างประหลาดใจ พวกเขาเล่าว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมีความมหัศจรรย์ เพราะเคยปรากฏตัวร่วมกันในหนังสือพิมพ์เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ในคอลัมน์ “My Baby” โดยเล่าถึงเด็กน่ารักอายุประมาณ 1-2 ขวบ

ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าบ่าวยังเผยอีกว่าทั้งคุณแม่ของเขาและแม่เจ้าสาวต่างเก็บหนังสือพิมพ์นี้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1999 เพราะทั้งคู่มองว่าเป็นความทรงจำที่สวยงามและควรค่าแก่การเก็บรักษา ในตอนนั้นคุณแม่ของเจ้าบ่าวยังเผยอีกว่า เธอรู้สึกชื่นชมและเอ็นดูเด็กหญิงน่ารักที่อยู่ข้างๆ ลูกชายในหนังสือพิมพ์ด้วย “ชื่อ คาโตะ ซายะ น่ารักมาก จนตัดสินใจใช้ชื่อนี้ตั้งชื่อลูกสาวคนที่สอง” คุณแม่ของเจ้าบ่าวเล่า

บังเอิญเจอกันครั้งแรก

เธอยังเสริมว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างสองครอบครัวไม่ได้เกิดขึ้นในวันที่ลูกๆ คบหาดูใจกัน แต่เกิดขึ้นในปี 2002 ซึ่งหมายถึง 3 ปีหลังจากที่เด็กทั้งสองได้ปรากฏตัวในหนังสือพิมพ์ ตอนนั้นครอบครัวของเจ้าบ่าวกำลังพักผ่อนที่บ่อน้ำพุร้อนในเมืองและได้ยินครอบครัวหนึ่งเรียกลูกสาวของตนว่า คาโตะ ซายะ

เนื่องจากเป็นชื่อค่อนข้างหายากในสมัยนั้น ครอบครัวของโออิซุมิ ทาคุโตะ จึงเข้าไปสอบถามและได้รู้ว่าครอบครัวของเด็กหญิงชื่อคาโตะ ซายะ ก็มาพักที่เดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเพียงพบกันแค่สั้นๆ ตอนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย และไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือ ทั้งสองครอบครัวจึงไม่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกัน

จุดเริ่มต้นความรัก

เวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างโออิซุมิ ทาคุโตะและคาโตะ ซายะกลับมาเชื่อมโยงกันอีกครั้ง 15 ปีต่อมา ทั้งคู่พบกันเมื่อตอนอยู่มัธยมปลายขณะทำงานพาร์ทไทม์ในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อเห็นชื่อ “คาโตะ ซายะ” โออิซุมิ ทาคุโตะสงสัยว่านี่อาจเป็นเด็กผู้หญิงที่เคยปรากฏตัวในหนังสือพิมพ์ร่วมกับเขา แต่เนื่องจากงานยุ่งและขี้อาย เขาจึงไม่ได้พูดกับคาโตะ ซายะ

จนสองปีต่อมา ทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้งในพิธีจบการศึกษาของโรงเรียนและถ่ายรูปด้วยกัน จากนั้นโออิซุมิ ทาคุโตะก็กล้าชวนคาโตะ ซายะไปทานอาหารเย็น ทั้งสองเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกันผ่านโซเชียลมีเดีย ส่งข้อความไปมาจนเริ่มออกเดตกัน

แม้ว่าทั้งสองทำงานอยู่คนละเมือง แต่เจ้าบ่าวก็ขับรถไปหาเจ้าสาวทุกสุดสัปดาห์เพื่อพาออกเดต ทั้งสองมีความสนใจและมุมมองต่อชีวิตที่คล้ายคลึงกัน เจ้าสาวกล่าวว่า “เรารู้สึกเหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน คนมักจะบอกว่า ถ้ามันเป็นพรหมลิขิต เราจะได้แต่งงานกัน”

แขกในงานแต่งก็ต่างประหลาดใจกับเรื่องราวความรักของทั้งคู่ ผู้หญิงคนหนึ่งถึงกับกล่าวว่า “นี่เรื่องจริงหรือเปล่า”

คุณแม่ของเจ้าบ่าวกล่าวด้วยน้ำตาว่า “มันเหมือนพรหมลิขิตและโอกาสที่ทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันและในที่สุดวันนี้พวกเขาก็ได้เป็นสามีภรรยากัน” งานแต่งของทั้งคู่ยังจัดขึ้นที่โรงแรมที่พวกเขาเคยทำงานพาร์ทไทม์สมัยมัธยม สถานที่ที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรกในวัยผู้ใหญ่

เรื่องใหญ่เลยทีนี้! นสพ.ออกมาขอโทษเกมจับผิดภาพ หลังผู้อ่านหายังไงก็ไม่เจอสักจุด

เรื่องใหญ่เลยทีนี้! นสพ.ออกมาขอโทษเกมจับผิดภาพ หลังผู้อ่านหายังไงก็ไม่เจอสักจุด

เรียกได้ว่าเป็นเกมปริศนาสุดคลาสสิกที่คนทั่วโลกนิยมเล่นอย่างมาก สำหรับเกม "จับผิดภาพ" ที่กติกาง่ายๆ คือให้หาความแตกต่างระหว่างภาพ 2 ภาพ

มาแล้ว! การ์ดงานแต่ง \

มาแล้ว! การ์ดงานแต่ง "เมย์ พิชญ์นาฏ" ดีไซน์น่ารักมาก หนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษ

มาแล้ว! การ์ดงานแต่ง "เมย์ พิชญ์นาฏ" กับ "ไฮโซบิ๊ก" ดีไซน์สวย หรู และน่ารักมาก เพิ่มลูกเล่นเซอร์ไพรส์หนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษ

ปรากฏการณ์หมูป่า! หนังสือพิมพ์ทั่วโลกลงข่าว \

ปรากฏการณ์หมูป่า! หนังสือพิมพ์ทั่วโลกลงข่าว "ถ้ำหลวง" บนหน้า 1 พรึ่บ

หนังสือพิมพ์ทั่วโลกลงข่าวความสำเร็จปฏิบัติการถ้ำหลวงไว้หน้า 1 ตอกย้ำความสนใจจากสื่อและคนทั้งโลกต่อภารกิจครั้งนี้

ดังทั่วโลก! หนังสือพิมพ์เยอรมันพาดหัวภาษาไทย “น้องๆ สู้ๆ” ให้กำลังใจทีมหมูป่า

ดังทั่วโลก! หนังสือพิมพ์เยอรมันพาดหัวภาษาไทย “น้องๆ สู้ๆ” ให้กำลังใจทีมหมูป่า

นับเป็นข่าวเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างติดตามและให้ความสนใจ สำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง

\

"สภาหนังสือพิมพ์" วอนสื่ออย่าเกะกะเจ้าหน้าที่ - งดปั่นข่าวสร้างกระแส

สภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ขอร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวอย่างเป็นระเบียบ ไม่เกะกะเจ้าหน้าที่ และอย่าสร้างข่าวที่ทำให้เกิดความสับสน หรือดราม่าจนเกิดควร