เนื้อหาในหมวด ข่าว

เว็บไซต์ดังเผย 3 เหตุผลสุดมั่น \

เว็บไซต์ดังเผย 3 เหตุผลสุดมั่น "ฮิปสเตอร์ยุค 40s" ไม่ได้มาจากโลกอนาคตอย่างที่แชร์เป็นไวรัล

ถือเป็นอีกหนึ่งภาพในตำนาน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างในโลกออนไลน์ จนนำไปสู่การถกเถียงว่ามันคือเรื่องจริงหรือไม่?

โดยภาพที่โด่งดังนี้ ถูกยกให้เป็นการถ่ายติด "นักเดินทางข้ามเวลา" พระเอกคือผู้ชายใส่แว่น แต่งตัวแตกต่างจากประชาชนคนอื่นรอบๆ อย่างเห็นได้ชัด จนถูกถกเถียงว่าเป็นคนที่มาจากโลกอนาคตหรือเปล่า?
hipsterสำหรับภาพนี้ถูกถ่ายในงานเปิดสะพาน South Fork ในรัฐ British Columbia ประเทศแคนาดา เมื่อปีค.ศ. 1941 การที่มีแว่นกันแดดสุดล้ำ, เสื้อยืดสบายๆ ดูไม่เป็นทางการเกินไป และวัตถุบางอย่างในมือที่คล้ายกล้องถ่ายรูป ยิ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นตำนานจนมาถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ดี ภาพนี้ถูกวิเคราะห์โดยบรรดาชาวเน็ตที่ใช้ข้อมูลจริงมาอ้างอิงหักล้างได้ค่อนข้างชัดเจน โดยเว็บไซต์ issuu ระบุเป็นข้อๆว่า

fig-2-1n95e021. แว่นกันแดดสุดเท่
ในสมัยนั้นมีแว่นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แว่นสายตาใช้กันแล้ว ซึ่งเจ้าแว่นนี้คือ Safety Goggles เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ปกป้องด้วยตา ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1909 และถูกใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานทั่วไป

tt2. เสื้อยืดสัญลักษณ์รูปตัว M
เจ้าเสื้อตัวนี้คล้ายเสื้อของทีมฮอกกี้น้ำแข็ง Montreal Maroons (มอนทรีออล มารูนส์) สโมสรในแคนาดาที่เล่นอยู่ในช่วงเวลานั้น ซึ่งหนุ่มคนนี้อาจเป็นแฟนคลับของทีมนี้ อักษร M ก็มาจากชื่อทีมนั่นเอง

ii3. กล้องถ่ายรูปในมือ
เจ้าวัตุถไซซ์กะทัดรัดนี้ อาจจะเป็นกล้อง Kodak35 ซึ่งผลิตในปี 1938 เจ้าตัวก็คงพกมาเก็บบรรยากาศงานเปิดสะพานดังกล่าวก็เป็นได้ ไม่มีอะไรที่ต้องทำให้สงสัยมากกว่านั้น


เมื่อรวมข้อสันนิษฐานทั้ง 3 ข้อเข้าด้วยกันแล้ว สรุปคือ ชายคนนี้เป็นบุคคลในยุคสมัยนั้นจริงๆ แต่แค่แต่งตัวตามสไตล์ของตัวเอง ไม่ได้ยึดขนบธรรมเนียมใส่สูทผูกเนคไทเหมือนคนอื่นก็เท่านั้นเอง

แล้วคุณล่ะ เห็นด้วยกับ 3 ข้อโต้แย้งนี้หรือไม่? หรือยังคิดว่า "การท่องเวลา" ย้อนไปในอดีตและเดินทางสู่อนาคตสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ แค่รอนักวิทยาศาสตร์หรือผู้ครอบครองเทคโนโลยีดังกล่าวนี้เปิดเผยให้โลกรู้ในสักวัน

\

"3 ข้อโต้แย้ง" ช็อตฟีลภาพ "หนุ่มฮิปสเตอร์ยุค 40s" ว่าไม่ได้มาจากอนาคตแต่อย่างใด

ถือเป็นอีกหนึ่งภาพในตำนาน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็นภาพนี้มาบ้างในโลกออนไลน์ จนนำไปสู่การถกเถียงว่ามันคือเรื่องจริงหรือไม่?