"ตุ๊ก วิยะดา" สวยไม่สร่าง ย่างเข้าวัยเลข 7 เผยข้อดีของการเป็นโสด
ตุ๊ก วิยะดา โกมารกุล ณ นคร นักร้องและนักแสดงชื่อดังที่โด่งดังและอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ถึงแม้จะวัยใกล้เลข 7 แล้วแต่ก็ยังสวยไม่สร่าง
ล่าสุด ตุ๊ก วิยะดา ได้เปิดใจกับรายการ WOODY FM ในวัยใกล้เลข 7 เผยข้อดีของการเป็นโสดและการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติที่ทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น พร้อมแชร์เคล็ดลับการบาลานซ์ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและรักตัวเองมากขึ้นหลังจากผ่านความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง พร้อมยอมรับว่าการดูแลตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุดในทุกวันนี้
อะไรที่ได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิตและทัศนคติที่เปลี่ยนไปในวัยย่างเข้า 70 ปี ?
"ต้องมีความสุขคืออย่างแรกเลย สมมุติว่าถ้าเรารู้ว่าอันนี้กินแล้วไม่ดีแต่มันอยากกินเหลือเกิน ทำให้เราไม่มีความสุขพี่ก็ไม่ทำ ก็เลือกที่จะกินน้อย ความคิดก็เปลี่ยนไปจากที่เราคิดว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้วนะ ก็ไปเปลี่ยนไปว่าเราอยากอยู่ต่อ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีอะไรมาบอกเราว่ามียาอายุวัฒนะ มีการดูแลร่างกายที่ทำให้ยืดเวลาออกไปได้อีกเราก็อยากทำ"
ที่ผ่านมาเรื่องชีวิตและความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ?
"โอ้ว!! เละ มีความสัมพันธ์หนึ่ง ตามด้วยอีกความสัมพันธ์หนึ่ง อยู่กับคนนี้ เลิกมาก็มีคนนี้ ๆ อะไรอย่างงี้ พอเราไม่มีแฟนสัก 10 กว่าปีที่แล้ว มันก็มีความรู้สึกว่าเรากลับมารักตัวเอง มีเวลาให้ตัวเอง ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง ครอบครัว มีความสุขมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าครั้งนี้เป็นอกหักที่แบบทำไมเราโชคดียังงี้ รู้อย่างงี้ย้อนกลับไปจะไม่มีสักคน อยู่โสดแบบนี้ดีกว่า พี่แฮปปี้มาก"
ข้อดีของการเป็นโสด ?
"เมื่อก่อนเราอยู่มีชีวิตเพื่อคนอื่น เช้าขึ้นมาคนที่มีแฟนก็จะวันนี้ทานอะไรกันดี ไปเที่ยวไหนกันดีในวันที่ไม่ทำงาน เหมือนมันมีชีวิตเพื่อคนอื่นตลอดเวลาเลย แล้วทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปความที่ไม่ได้อย่างใจพอเราโตขึ้นมันไม่มีมานานละ คือเราปรับตัวเสมอ ไม่มีกฎตายตัวใดๆทั้งสิ้น"
ก่อนหน้านี้พี่ไม่เคยคิดว่าอยากจะอยู่ยืนยาวขึ้น ?
"ไม่เคยเลย ที่บ้านค่อนข้างจะปลูกฝังมาแบบธรรมะธัมโม พี่เป็นคนสวดมนต์ตั้งแต่สาวๆเลย แล้วก็อยู่มาเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่าการที่เราอยากทำดี เหมือนการที่อยากแลกว่าวันหนึ่งถึงวันที่เราต้องไปเราจะไม่ป่วยร้ายแรง จะไม่ต้องทรมาน เลยรู้สึกว่าการทำดีมันอาจจะแลกกับสิ่งเหล่านี้ได้ แต่พออยู่มาๆ มีความรู้สึกว่าโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไป เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดีแต่ก็อยากกินใช่ไหม เช่นข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ เป็นต้น เราก็เลยเลือกใช้วิธีบาลานซ์ พอเรามีความรู้สึกว่ากลับมารักตัวเอง กลับมาดูแลตัวเอง มีแค่ 2 อย่างเท่านั้นทำหรือไม่ทำ สมมุติว่าถ้าเราไปงานเลี้ยงก็กินทุกอย่างชิ้นสองชิ้นแต่เราก็กลับบ้านมาบาลานซ์ทานผักทานอะไรเยอะๆ ออกกำลังกายมากขึ้น พี่เป็นคนที่โชคดีอย่างหนึ่งพอเป็นอะไร เหมือนร่างกายมันจะมาทักเราเอง"