พ่อผัวเป็นใบ้มา 17 ปี ความจริงเปิดเผยกลางมื้ออาหารปีใหม่ ทำทั้งครอบครัวตกตะลึง

พ่อสามีแกล้งเป็นใบ้มา 17 ปี ความจริงถูกเปิดเผยในมื้ออาหารปีใหม่ ทำให้ทั้งครอบครัวตกใจและอึ้ง เจ้าตัวสารภาพทำไปทำไม

เว็บไซต์ Kenh14.vn รายงานงานเรื่องรราวของคุณพ่อเวิ่น เถ่อ อายุ 68 ปี จากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่ครอบครัวและเพื่อนบ้านรู้จักเขาในฐานะชายที่ใจเย็นและอ่อนโยน แต่โชคร้ายที่เกิดอุบัติเหตุทำให้เป็นใบ้มาตลอด 17 ปี ทว่าความจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาเพิ่งถูกเปิดเผยในมื้ออาหารปีใหม่ ทำให้ทั้งครอบครัวโดยเฉพาะลูกสะใภ้ตกใจสุดขีด

เรื่องเริ่มต้นในปี 2008 เมื่อคุณพ่อเวิ่นประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล เขามีอาการผิดปกติทางภาษา เกือบจะสูญเสียความสามารถในการพูดและพูดซ้ำได้คล่องแคล่ว จากนั้นเขาก็ใช้ชีวิตเงียบๆ และติดต่อสื่อสารผ่านสายตาและท่าทาง ไม่มีใครสงสัยอะไร เพราะเขามักแสดงความรักและความห่วงใยต่อทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกสะใภ้ที่เพิ่งมาอยู่บ้านเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างนั้น หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นในมื้ออาหารปีใหม่ของครอบครัว วันนั้นเมื่อทั้งครอบครัวนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกัน ลูกชายคนเล็กทำข้าวต้มร้อนหกใส่ตัวคุณพ่อเวิ่น ขณะที่เขาเจ็บปวดจนทนไม่ไหว เขาก็ร้องออกมาด้วยเสียงชัดเจนว่า "ร้อนมาก!"

บรรยากาศในบ้านเงียบกริบ ทุกคนต่างตกใจเมื่อรู้ว่าคุณพ่อเวิ่นสามารถพูดได้ ลูกชายของเขารีบถามทันทีว่า "พ่อ...พ่อเพิ่งพูดอะไร?" ขณะนั้น คุณพ่อเวิ่นรู้สึกสับสนและตกใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องยอมรับความจริงว่า เขาไม่ได้เป็นใบ้มาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา

ตามคำบอกเล่าของคุณพ่อเวิ่น การแกล้งเป็นใบ้เริ่มต้นหลังจากอุบัติเหตุในปี 2008 ตอนนั้นเขาไม่ได้สูญเสียความสามารถในการพูดจริงๆ แต่แค่มีความยากลำบากในการสื่อสารชั่วคราวจากการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม เขากลับพบว่าการแกล้งเป็นใบ้ทำให้สมาชิกในครอบครัวให้ความสนใจและดูแลเขามากขึ้น "เริ่มแรกคิดว่าจะทำแค่ไม่กี่วัน แต่ยิ่งนานไปกลับยิ่งยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม" คุณพ่อเวิ่นยอมรับ

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือเขาใช้ความเงียบนี้เพื่อสังเกตและควบคุมสมาชิกในครอบครัวโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว เขารู้เรื่องทุกอย่าง ตั้งแต่การทะเลาะกันระหว่างลูกชายและลูกสะใภ้ ไปจนถึงเรื่องที่ภรรยาของเขาซ่อนไว้ แต่แทนที่จะเข้าไปแทรกแซง เขากลับเลือกที่จะเงียบและให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ

ความจริงนี้เป็นเหมือนการสะเทือนใจอย่างแรงสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว ลูกชายของเขาไม่สามารถปิดบังความผิดหวังได้ "17 ปีที่ผ่านมา พ่อไม่เชื่อใจลูกจนพูดความจริงเลยเหรอ?" ขณะที่ภรรยาของเขาร้องไห้ "ทำแบบนี้ไปทำไม? ครอบครัวนี้อยู่ในความหลอกลวงมานานขนาดนี้แล้ว"

ในขณะที่ลูกสะใภ้ค่อนข้างสงบลง เธอกล่าวว่า "แค่หวังว่าพ่อจะรักครอบครัวจริงๆ อย่าทดสอบใจใครแบบนี้อีกเลย" แม้จะตกใจมาก แต่เธอยังคงหวังว่าครอบครัวจะกลับมาคืนดีกันหลังจากเหตุการณ์นี้

แม้ว่าคุณพ่อเวิ่นจะอธิบายและขอโทษครอบครัว แต่บรรยากาศในบ้านก็ยังไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน ครอบครัวของเขาแทบจะไม่มีใครมีความสุขและตื่นเต้นที่จะต้อนรับปีใหม่ คุณพ่อเวิ่นเองก็กล่าวว่า การใช้ชีวิตภายใต้การแกล้งเป็นใบ้มาตลอด 17 ปีทำให้เขารู้สึกเหนื่อยและเหงา "ผมแค่ต้องการให้ทุกคนให้ความสนใจและดูแลมากขึ้น แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้" เขากล่าว

เรื่องราวของคุณพ่อเวิ่นได้แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน กลายเป็นหัวข้อพูดคุยอย่างคึกคักของเพื่อนบ้าน แม้การกระทำของเขาจะได้รับความคิดเห็นหลากหลาย แต่บางคนก็เห็นว่านี่เป็นการเตือนให้ใครหลายคนรู้จักการพูดคุยตรงไปตรงมาในความสัมพันธ์ของครอบครัว

ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ครอบครัวควรเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความเชื่อมั่น คำพูดที่ดูเล็กน้อยสามารถเชื่อมโยงสมาชิกในครอบครัวได้ ในขณะที่ความเงียบบางครั้งก็ทำลายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งได้