เนื้อหาในหมวด ข่าว

HR บอกเอง! ความเชื่อผิดๆ ในการเขียน \

HR บอกเอง! ความเชื่อผิดๆ ในการเขียน "เรซูเม่" สมัครงาน เขียนแบบนี้โยนทิ้งเป็นใบแรก

HR มาบอกเอง: รวมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเขียน Resume / CV แทนที่จะได้งาน กลับถูกคัดทิ้งเป็นใบแรกๆ

การเขียน Resume หรือ CV เพื่อสมัครงานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้สมัครงานทุกคนต้องเจอ บางครั้งเราอาจมีความเชื่อที่ผิดๆ ในการเขียน ซึ่งอาจทำให้โอกาสได้รับงานของคุณลดลง แทนที่จะเป็นการดึงดูด HR กลับกลายเป็นการทำให้ Resume ของคุณถูกคัดทิ้งตั้งแต่แรก จากการศึกษาของฝ่ายบุคคลและหน่วยงานรับสมัครงานชั้นนำ เช่น CareerBuilder และ TopResume พบว่าหลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเขียน Resume ซึ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี นี่คือความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเขียน Resume ที่ HR อยากให้คุณหลีกเลี่ยง

1. Resume ยิ่งยาวยิ่งดี

ความเชื่อผิด: หลายคนคิดว่า Resume ที่ยาวและอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดทุกอย่างจะสร้างความประทับใจให้กับ HR ความจริง: HR ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 6-7 วินาทีในการสแกน Resume เบื้องต้น การใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือยืดยาวเกินไปอาจทำให้ HR พลาดจุดสำคัญของคุณ LinkedIn ระบุว่า Resume ที่สั้น กระชับ และตรงประเด็นมีโอกาสผ่านการคัดเลือกมากกว่า การใช้หน้ากระดาษไม่เกิน 1-2 หน้าถือเป็นมาตรฐานที่ดี

2. ใช้เทมเพลตแปลกใหม่จะดูโดดเด่น

ความเชื่อผิด: การใช้เทมเพลตหรือการออกแบบที่ไม่เหมือนใครจะทำให้คุณโดดเด่นในสายตา HR ความจริง: เทมเพลตที่ซับซ้อนและตกแต่งเกินไปอาจทำให้โปรแกรม ATS (Applicant Tracking System) ซึ่งเป็นระบบที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้ในการคัดกรอง Resume เบื้องต้น ไม่สามารถอ่านข้อมูลของคุณได้อย่างถูกต้อง ทำให้คุณพลาดโอกาส Jobscan แนะนำให้ใช้รูปแบบที่เรียบง่าย สะอาดตา เพื่อให้ ATS สามารถดึงข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์

3. การใส่ข้อมูลประสบการณ์ทุกงานที่เคยทำมาจะช่วยเพิ่มโอกาส

ความเชื่อผิด: การใส่รายละเอียดของทุกงานที่เคยทำมาแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครจะช่วยแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์หลากหลาย ความจริง: HR ต้องการดูแค่ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัคร การใส่ข้อมูลประสบการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องอาจทำให้ Resume ของคุณดูไม่มีโฟกัส จากการศึกษาของ Glassdoor แนะนำว่าให้เลือกประสบการณ์ที่สอดคล้องกับงานที่คุณสมัคร และปรับแต่ง Resume ให้ตรงกับแต่ละตำแหน่งงาน

4. การเขียน Objective Statement หรือเป้าหมายการทำงานที่ยาวเกินไป

ความเชื่อผิด: การเขียนวัตถุประสงค์ในการทำงาน (Objective Statement) ยาวๆ จะทำให้ HR เข้าใจว่าคุณมีความตั้งใจ ความจริง: Objective Statement ที่ยาวและไม่เฉพาะเจาะจงมักจะทำให้ HR ข้ามไปทันที แทนที่จะเขียนเป้าหมายการทำงานที่ยืดยาว ลองเปลี่ยนมาใช้ Summary Statement สั้นๆ ที่บอกเล่าทักษะและประสบการณ์ของคุณที่เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัครจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

5. ใส่รูปภาพลงใน Resume ทำให้ดูเป็นมืออาชีพ

ความเชื่อผิด: การใส่รูปภาพของตัวเองใน Resume จะช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพและทำให้ HR จำคุณได้ ความจริง: ในหลายประเทศและบริษัท รูปถ่ายไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นใน Resume ยิ่งไปกว่านั้น การใส่รูปภาพอาจทำให้ Resume ของคุณถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพหรือเกิดปัญหาทางกฎหมายในเรื่องการเลือกปฏิบัติ TopResume แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใส่รูปภาพลงใน Resume เว้นแต่จะเป็นข้อกำหนดเฉพาะของบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่คุณสมัคร

6. การใช้ Buzzwords มากๆ จะทำให้ Resume ดูน่าสนใจ

ความเชื่อผิด: การใช้คำศัพท์เฉพาะหรือ Buzzwords เช่น “team player,” “go-getter,” “dynamic” จะทำให้ Resume ของคุณน่าสนใจและเป็นที่ดึงดูด ความจริง: HR จะมองว่าคำเหล่านี้เป็นคำที่ซ้ำซากและขาดความเฉพาะเจาะจง จากการสำรวจของ Indeed พบว่า Resume ที่เน้นทักษะจริงและใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมามีโอกาสได้รับการพิจารณามากกว่า Buzzwords ที่ขาดความหมาย

7. การไม่ใส่ข้อมูลช่องทางติดต่อให้ครบถ้วน

ความเชื่อผิด: การใส่เพียงแค่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ LinkedIn หรือช่องทางอื่นๆ ความจริง: ในยุคดิจิทัล การมีโปรไฟล์ใน LinkedIn เป็นสิ่งจำเป็น HR หลายคนใช้ LinkedIn เพื่อดูประวัติของผู้สมัครเพิ่มเติม ดังนั้น อย่าลืมใส่ลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของคุณไว้ใน Resume TopResume ยังแนะนำให้ใส่ข้อมูลการติดต่อให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และ LinkedIn เพื่อให้ HR ติดต่อคุณได้สะดวก

8. Resume ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น

ความเชื่อผิด: บางคนเชื่อว่า Resume ที่เขียนเป็นภาษาไทยจะถูกคัดทิ้งทันที เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลในการสื่อสาร ความจริง: Resume ควรเขียนตามภาษาที่บริษัทใช้ในการสื่อสาร หากคุณสมัครงานในบริษัทที่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารและทำงาน เช่น องค์กรภาครัฐ โรงเรียน หรือบริษัทท้องถิ่นในประเทศไทย การเขียน Resume เป็นภาษาไทยถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณสมัครงานในบริษัทต่างชาติหรือองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน การเขียน Resume เป็นภาษาอังกฤษจะเพิ่มโอกาสในการพิจารณามากขึ้น จากการสำรวจของ LinkedIn พบว่า Resume ภาษาอังกฤษในบริษัทนานาชาติมีโอกาสได้รับการตอบรับมากกว่า Resume ภาษาไทยในอัตราที่สูงกว่า 40% ดังนั้น ก่อนเขียน Resume ควรพิจารณาถึงภาษาที่บริษัทใช้ในการสื่อสารเป็นหลัก

สรุป

Resume / CV ที่ดีควรสั้น กระชับ ชัดเจน และเน้นเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร การใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือการใช้เทมเพลตที่ซับซ้อนอาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญได้ คำแนะนำจากฝ่ายบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่าง CareerBuilder และ TopResume ชี้ให้เห็นว่าความเรียบง่ายและชัดเจนของ Resume เป็นกุญแจสำคัญในการได้รับงานในยุคปัจจุบัน

คนตกงานเกลื่อน แต่หนุ่มวัย 25 ได้คำเชิญสัมภาษณ์ 10 บริษัท ชนะใจตั้งแต่การส่ง “เรซูเม่”

คนตกงานเกลื่อน แต่หนุ่มวัย 25 ได้คำเชิญสัมภาษณ์ 10 บริษัท ชนะใจตั้งแต่การส่ง “เรซูเม่”

วิธีส่งเรซูเม่แบบ "แหวกแนว" ที่ทำให้ชายหนุ่มได้รับคำเชิญสัมภาษณ์ถึง 10 บริษัท ท่ามกลางกระแส “ปลดพนักงาน-ตกงาน” เขาทำอย่างไร?